ในบรรดา “นักการเมือง” ทั้งหมดที่ออกมาให้สัมภาษณ์โจมตี คสช.

ดูเหมือนจะมีเพียง 2 ราย ที่ คสช. จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

คนแรก คือ นายวัฒนา เมืองสุข

คนที่สอง คือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์

ทั้ง 2 คนจะได้รับเกียรติเชิญไปปรับทัศนคติมากกว่าใคร

“วัฒนา” นั้น เป็นเรื่องวาทะในเฟซบุ๊กที่เสียดแทงความรู้สึกของ “บิ๊ก” ใน คสช.

ส่วน “พิชัย” เป็นเรื่องความเห็นด้านเศรษฐกิจ

เนื้อหาที่ให้สัมภาษณ์หรือเขียนเฟซบุ๊กก็ไม่ได้แรงอะไร

ให้ข้อมูล ตัวเลข แล้ววิเคราะห์

เพียงแต่มุมที่วิเคราะห์ไม่ตรงกับที่ “ความเชื่อ” ของรัฐบาล

ยิ่งรัฐบาลพยายามตีปี๊บว่าเศรษฐกิจดี

“พิชัย” ก็จะสวนทาง

…ไม่ดี

 

ความจริงแล้วตอนที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล “พิชัย” ก็ไม่ใช่ขุนพลเศรษฐกิจมือหนึ่ง

ถือเป็นเพียงแค่ทีมเศรษฐกิจคนหนึ่งเท่านั้นเอง

เขาไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ที่พูดอะไรแล้วคนคล้อยตาม

แต่ในยุค คสช. ที่นักเศรษฐศาสตร์และขุนพลเศรษฐกิจทั้งหลายไม่ค่อยมีใครกล้าออกมาสวนกระแส “ความเชื่อ” ของรัฐบาล

“พิชัย” กล้า

และที่สำคัญก็คือ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คำทำนายเรื่องเศรษฐกิจของรัฐบาลผิดพลาดมาตลอด

ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการส่งออก หรือจีดีพี

คำว่า “เศรษฐกิจไทยถึงจุดต่ำสุดแล้ว” เราได้ยินมาตั้งแต่ยุค “หม่อมอุ๋ย” จนถึง “สมคิด”

ในขณะที่คนแทงสวนอย่าง “พิชัย”

สวนกี่ครั้งก็ถูกทุกครั้ง

มีคนเคยบอกว่านักเศรษฐศาสตร์ก็เหมือน “หมอดู” เพราะต้องทำนายอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

พอทายแม่นติดต่อกัน คนก็จะเชื่อถือ

ดังนั้น “พิชัย” ที่เคย “โนเนม” เมื่อ 2 ปีก่อน

วันนี้ กลายเป็น “หมอดูอีที” ด้านเศรษฐกิจไปเลย

 

อย่าแปลกใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะหงุดหงิด “พิชัย” เป็นพิเศษ จนออกหมัดไม่รัดกุม

ถามว่า “พิชัย” เรียนจบอะไรมา จึงทำเป็นรู้เรื่องเศรษฐกิจดี

บังเอิญที่ “พิชัย” จบตรีด้านเศรษฐศาสตร์ และโทด้านบัญชี

พอมีเครดิตอยู่บ้าง

ในมุมเดียวกัน ถ้ามีใครถามรัฐมนตรีในรัฐบาลด้วยคำถามเดียวกันบ้าง

ท่านครับ ท่านจบอะไรมา

ถึงฉลาดรอบรู้เรื่องพลังงาน เกษตร ศึกษา แรงงาน สิ่งแวดล้อม ฯลฯ จนเป็น “รัฐมนตรี” ได้

“รามานุจัน” จริงๆ