‘เห็น…อย่างที่โลกเป็น’ / หลังเลนส์ในดงลึก : ปริญญากร วรวรรณ

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

หลังเลนส์ในดงลึก

ปริญญากร วรวรรณ

 

‘เห็น…อย่างที่โลกเป็น’

 

เมื่อเฝ้ามองสัตว์ป่า และเชื่อว่าสัตว์ทุกตัวเกิดมามีหน้าที่ จะมีความจริงอย่างหนึ่งที่เห็นคือ พวกมันได้รับการออกแบบร่างกายมาอย่างเหมาะสม เพื่อทำหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมาย

ไม่ผิดนักหากจะเรียกอวัยวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปีก, ปาก, มือ, ตีน และอื่นๆ ของพวกมันว่า เครื่องมือ

นอกจากเครื่องมือที่อยู่ในรูปแบบของอวัยวะต่างๆ สิ่งที่เรามักไม่ค่อยเห็นคือ ทักษะ ความสามารถพิเศษ รวมทั้งความพยายาม อดทน ไม่ย่อท้อกับความล้มเหลว

ใน 9 ครั้งที่เสือหรือสัตว์ผู้ล่าอื่นๆ ล้มเหลวนั่นไม่มีใครเห็น

 

สัตว์ได้รับการออกแบบร่างกายมาอย่างเหมาะสมกับหน้าที่ และยังถูกกำหนดวิถีให้มีการควบคุมประชากรกันอย่างสมดุล

มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะ เช่น พวกกินพืช ก็ให้อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม มีประสาทระวังไพรดี รับกลิ่น ฟังเสียงได้เก่ง อีกทั้งวิ่งเร็ว กระโดดได้สูง

ส่วนพวกทำหน้าที่ล่า จะได้รับเขี้ยวเล็บแหลมคม มีทักษะ วิธีการ

ถ้าตัวใดได้รับทักษะในการวิ่งเร็ว ก็จะวิ่งได้แค่ในระยะสั้นๆ มีจมูกรับกลิ่นดี แต่รับได้ในระยะใกล้ๆ

เรียกได้ว่า ทั้งผู้ถูกล่า และผู้ล่า มีร่างกาย ทักษะความสามารถ อันสอดคล้องกันอย่างลึกซึ้ง

 

มองอย่างผิวเผิน คล้ายกับว่า สัตว์ผู้ล่า เป็นตัวทำลายโหดเหี้ยมไร้ความปรานี ล่า, ฆ่าสัตว์ที่ไม่มีเขี้ยวเล็บอย่างไม่เลือกหน้า

ในความเป็นจริง นี่เป็นการอยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาแบบหนึ่ง

เสือ, สัตว์ผู้ล่าต่างๆ ในบทบาทของผู้ทำหน้าที่ควบคุมประชากรเหยื่ออาจถึงขั้นสูญพันธุ์ ถ้าไม่มีเหยื่อให้ล่า

เหยื่อเช่นกัน ย่อมมีชีวิตอันยากลำบากถ้าในป่าไม่มีเสือ

ช้างป่า – ช้างทำหน้าที่บุกเบิกเส้นทางรวมทั้งแหล่งอาหารเสริมอย่างโป่ง ที่ช้างจะขุด ขยายให้กว้าง ให้เหมาะกับการเป็นแหล่งอาหาร ช้างมีตีน, งา และร่างกายรวมทั้งทักษะเป็นเครื่องมือที่ดี ทำหน้าที่ได้เหมาะสม

ไม่เฉพาะสัตว์ บรรดาชีวิตต่างๆ ซึ่งอยู่ในรูปแบบของพืช ก็มีลักษณะเดียวกัน

พืชหลายชนิด ว่าไปแล้วทั้งผืนป่านั่นแหละ อยู่อย่างพึ่งพาอาศัยเกี่ยวข้องกัน

พืชชนิดต่างๆ แบ่งพื้นที่กันอยู่ อาศัยไปตามระดับความสูงของพื้นโลก และสภาพภูมิอากาศ

มองด้วยสายตาคนจะเห็นว่า มีพืชหลายชนิดเรียบร้อยสวยงาม ขณะบางชนิดคล้ายจะโหดเหี้ยม เป็นนักฆ่า อย่างต้นไทร ที่หากไปขึ้นอยู่กับต้นไม้ใดแล้วก็จะบีบรัดจนกระทั่งต้นที่ตนอาศัยอยู่ตาย

แม้แต่พืชบางชนิดซึ่งเรียบร้อยสวยงาม ก็มักจะมีเล่ห์เหลี่ยม มีวิธีการหลอกล่อให้สัตว์หรือแมลงหลงกลเป็นเหยื่อ รวมทั้งมาช่วยผสมเกสรให้และนำพาเกสรไปผสม

โครงสร้างที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสลับซับซ้อนของดอกไม้ดอกหนึ่ง จะพูดว่าแสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของผู้ออกแบบย่อมไม่ผิด กลวิธีอันแยบยลในการหลอกล่อแมลงให้มาทำงานให้ดูช่างน่าทึ่ง

ดอกไม้ดอกหนึ่ง มีวิชาให้เรียนรู้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิศกรรม, วิทยาศาสตร์, สังคม รวมถึงธรรมะ

 

ปีนี้ พ.ศ.2565 ป่ามีสภาพฤดูแล้งอันเขียวชอุ่ม วงจรเดิมๆ ที่ต้นไม้ปรับตัว เปลี่ยนสีใบเพื่อลดการใช้น้ำ ทิ้งใบสีน้ำตาลแห้งร่วงหล่นลงพื้นปกคลุมดิน ความแล้งทวีขึ้น ช่วงเวลาแห่งไฟมาถึง เปลวไฟแผดเผา หลังเปลวไฟผ่านพ้น ระบัดเริ่มงอก ไม่นาน ที่โล่งกลายเป็นทุ่งหญ้าเขียว เป็นเวลาของระบัด ความอุดมสมบูรณ์ที่เหล่าสัตว์ป่ารอคอย

ไม่มีวงจรเช่นนี้ จากช่วงเวลาที่ต้นไม้เปลี่ยนสีใบ ไม่มีความแห้งแล้ง สายฝนตกต่อเนื่อง ไม่มีฤดูแห่งไฟ ไม่มีทุ่งหญ้าระบัด ต้นไม้ใบเขียวสะพรั่ง

สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งปลี่ยนแปลงเสมอไม่มีสิ่งใดถาวร

ปรับตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงให้ได้จำเป็น

 

ในฤดูแล้งที่ฝนตกต่อเนื่อง หมายความว่า การอยู่ในแคมป์บนสันเขาไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องลื่นไถลลงไปเอาน้ำในหุบ ใช้วิธีรองน้ำจากปลายผ้ายางสะดวก

ฝนตก ป่าคล้ายจะเงียบเหงา มีเพียงเก้งเดินหางกระดก และชะนีสองครอบครัวส่งเสียงโต้ตอบกันในตอนเช้าๆ

ที่มีมาก คือทากบนพื้น ผลไม้ที่ชะนีกินทำร่วงหล่นลงพื้นผมลองกินบ้าง พบว่าส่วนใหญ่มีรสขมๆ และเปรี้ยว แต่ชะนีดูจะอร่อย

ในแคมป์ซึ่งน้ำไม่สมบูรณ์ จึงต้องปรับตัวให้ใช้น้อยๆ เหมือนต้นไม้ในช่วงฤดูแล้ง

 

ข้อดีของวันที่ฝนตกต่อเนื่อง อยู่ใต้ผ้ายางแคบๆ ทบทวนวันเวลาที่ผ่านมา

ผมใช้เวลาเรียนรู้จากสัตว์ป่ามานานพอสมควร รับรู้ว่าพวกมันได้รับการออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับหน้าที่ มีอวัยวะต่างๆ เป็นเครื่องมือ

ผมเคยคิดว่า มนุษย์ แม้ไม่ได้รับอวัยวะมาเพื่อเป็นเครื่องมือ แต่เราได้สิ่งที่พิเศษกว่า คือ ได้รับ “สมอง” มาเพื่อเรียนรู้จากธรรมชาติ ซึ่งมีทุกสาขาวิชาให้เรียน รวมทั้งประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เป็นเครื่องมือแทน และนับวัน เราก็มีเครื่องมือที่เจริญรุดหน้าไปเรื่อยๆ

แต่ดีจริงหรือ?

 

ผมเริ่มคิดอย่างจริงจังว่า หากไม่ได้รับ “สมอง” แต่ได้รับความตรงไปตรงมาแบบสัตว์ ได้รับอวัยวะ และทักษะ แบบเดียวกับที่สัตว์มี

เช่น ดวงตา มีความสามารถอย่างที่สัตว์มี มองเห็นอย่างที่สัตว์เห็น

บางทีผมอาจจะเห็นความเป็นจริง

“เห็น…อย่างที่โลกเป็น” และเรียนรู้ที่จะอยู่บนโลกนี้ ด้วยวิถีอันสอดคล้องกับทุกชีวิต… •