มาดามหลูหลี

เงาเกาหลี

 

We Are All Alone

: เราต่างโดดเดี่ยว

 

ด้วยชื่นชอบการแสดงของฉินหลัน (Qin Lan) ในบทผู้หญิงทำงานจาก “The Rational Life (2020)”

จึงตามดูซีรีส์แนวสังคมทำงานยุคใหม่ ที่เธอแสดงเรื่อง “We Are All Alone (2020)” รับบทม่อเซี่ยงหว่าน ผู้อำนวยการที่กำกับดูแลผู้จัดการดาราของบริษัทฉีลี่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองอวี๋เจียง (หวังเหย้าชิ่ง) ประธานบริษัทเท่านั้น

ฉากนำก่อนเข้าสู่ซีรีส์เป็นผู้หญิงใส่ชุดสีแดงเดินหน้าสู่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเมื่อเปิดฉากแรกเป็นม่อเซี่ยงหว่านใส่ชุดสูทสีแดงกำลังพูดโทรศัพท์สั่งงานลูกน้อง เพราะดาราดังหลินเซียง (คริสตี้ กัว) กินยาฆ่าตัวตาย!

อาชีพผู้จัดการดารา เป็นงานที่ย้อนแย้งและสวนทางความเป็นจริง ต้องพยายามผลักดันและสร้างให้ดาราดัง แต่เมื่อดาราดังแล้วก็จะเอาแต่ใจ จนอาจควบคุมไม่ได้

เป็นงานที่ “คุณค่าของตัวเองสร้างอยู่บนตัวของคนอื่น…”

 

ม่อเซี่ยงหว่านไม่ใช่แค่ดูแลคิวดาราหรือให้ดาราไปออกงานนั้นงานนี้ แต่เธอวางแผนให้ดารา ตั้งแต่การดูบทละคร บทหนัง หรือรายการวาไรตี้ต่างๆ ว่าเหมาะกับดาราในสังกัดหรือไม่

หากเมื่อดารายิ่งดัง ความโลภก็เพิ่มตามมา ทั้งตัวดาราเอง ตลอดจนบริษัทที่ต้องการมีรายได้เพิ่ม แบบน้ำขึ้นให้รีบตัก ดาราจึงทำงานเหมือนเครื่องจักร ซึ่งส่งผลให้คุณภาพของงานแสดงด้อยลง และย่อมมีผลต่อคุณค่าของดารา รวมทั้งสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ

คนเรามีแค่สองมือและมีเวลาที่จำกัดเท่ากัน ม่อเซี่ยงหว่านก็ไม่ใช่มนุษย์ผู้วิเศษ จึงไม่อาจควบคุม ดูแลทุกคนทุกงานให้เป็นไปอย่างที่ต้องการ

คนมากงานเยอะ ทุกอย่างจึงวุ่นวายทับซ้อนไปมา ลูกน้องมีทั้งเก่งและไม่เก่ง คนไม่เก่งต้องรอคอยคำสั่งอย่างเดียว คนเก่งก็ทำเกินหน้าที่ อยากได้ความชอบ และยังจ้องหักหลังหัวหน้าตัวเอง

ในวงการบันเทิง ทุกคนต่างยอมรับการทำงานของม่อเซี่ยงหว่าน แม้ว่าบางครั้งเธอจะโหด เย็นชาและปากร้าย แต่ผลลัพธ์ของงานเป็นที่พอใจของทุกคนทุกฝ่าย

แต่เมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้งที่ลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ ส่งผลให้ดาราและบริษัทมีปัญหากับแฟนคลับ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีอิทธิพลมากขนาดนั้น แฟนคลับที่วันๆ ไม่ต้องทำงาน คอยติดตามและสนับสนุนดาราผู้ชื่นชอบ ตามติดเหมือนเป็นเงาตามตัว สามารถกดดันดาราได้

บางทีองค์กรที่เป็นป้ายชื่อค้ำอยู่ข้างหลัง ก็ส่งผลต่อการยอมรับสำหรับบุคคลภายนอก เมื่อไม่ชื่ออยู่บนนามบัตร งานที่เคยง่ายก็กลับยากขึ้น

 

10 ปีในวงการบันเทิงของม่อเซี่ยงหว่าน ตำแหน่งหน้าที่ในองค์กรดังซึ่งค่อนข้างทรงอิทธิพล เพราะมีดาราดังในสังกัดหลายคน เมื่อถูกกดดันจนต้องเริ่มต้นใหม่ เหมือนต้องเริ่มจากศูนย์

หากในความเป็นจริง ด้วยประสบการณ์และต้นทุนต่างๆ อันเป็นทรัพยากรมหาศาลอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่มันมีจริงและสัมผัสได้ ทั้งความสัมพันธ์ ความหวังดีและสิ่งดีงามที่ม่อเซี่ยงหว่านเคยหยิบยื่นให้คนรอบตัว สิ่งเหล่านี้ได้ย้อนกลับคืนให้เธอ

ม่อเซี่ยงหว่านเหมือนกุหลาบสวยที่มีหนามแหลมคม อย่างในไตเติล

รวมทั้งได้เห็นน้ำใจของใครหลายคน ได้รู้จักอีกด้านหนึ่งของผู้คน และเป็นบทเรียนชีวิตให้ตัวเอง

ทำให้ม่อเซี่ยงหว่านตระหนักว่า วงการบันเทิง ความผิดพลาดไม่ควรมี กว่าที่ดาราจะดังได้มีอุปสรรคมากมาย

 

We Are All Alone (ซีรีส์ออนแอร์ 8 มิถุนายน-1 กรกฎาคม 2020) นางเอกฉินหลันร่วมแสดงกับพระเอกอบอุ่นก็อดฟรีย์ เกา(Godfrey Gao) นักแสดงไต้หวันสัญชาติแคนาดา ซึ่งแสดงซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย ได้เสียชีวิตเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2019 ด้วยวัยเพียง 35 ปี ด้วยโรคหัวใจขณะที่กำลังออกรายการ Chase Me ในฉากสุดท้ายของเรื่องนี้กล้องจับภาพหน้าของก็อดฟรีย์แช่นิ่งนาน ดูเศร้า

เป็นที่น่าเสียดาย ครอบครัวและแฟนคลับเสียใจมาก ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ!!!

ก็อดฟรีย์ เกา รับบททนายม่อเป่ยคนรักซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของม่อเซี่ยงหว่าน แต่เพราะว่าความคดีของพ่อม่อเซี่ยงหว่านแพ้อย่างที่ไม่ควรแพ้ ทำให้คู่รักกลายเป็นคู่แค้น

แต่ความรักนี้ยากจะลืมเลือน ต่างจดจำกันจนไม่อาจเปิดใจรับรักใหม่ได้

ฉากก่อนเรื่องของทุกตอน จะฉายภาพย้อนอดีตเรื่องราวของตัวละคร ให้เห็นที่มาและเบื้องหลังความจริงความเจ็บปวดของชีวิต บอกเหตุจูงใจ

 

We Are All Alone ซีรีส์น่าดูชมแบบเพลินๆ ชิลๆ ได้เห็นการทำงานของคนวงการบันเทิง ทั้งยากและโหด ต้องต่อสู้ช่วงชิงกันทุกอย่าง ทั้งเวลาและทรัพยากรต่างๆ ใช้เล่ห์เหลี่ยมกันสุดฝีมือ หน้า-หลังคนละเรื่อง ยังโกรธอยู่แท้ๆ หันหน้ากลับมายิ้มสู้ ดารากับผู้จัดการดาราไม่รู้ใครแสดงเก่งกว่ากัน

หวังจืออี้ (Wang Ziyi) นักแสดงไอดอล Chinese Band BBT อีกชื่อ “BOOGIE” แสดงเป็นสวีหลิง หรือไจ่ไจ๋ ดาราในสังกัดของเจ้หว่าน ที่เคยดีต่อกันเสมอมา บทแสดงค่อยมีแสงออร่าเพิ่มขึ้นๆ จากฉากแรกๆ

ชอบนักแสดงเผิงป๋อ (Peng Bo) รับบทฮ่าวม่ายผู้จัดการดาราบริษัทคู่แข่งที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราย

วงการมายาเหมือน “เกาะที่โดดเดี่ยว” หากแท้จริงแล้ว เราทุกคนก็ต่าง “โดดเดี่ยว” ต้องดิ้นรนต่อสู้

เพื่อสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในจุดที่ต้องการ อาจไปถึงเป้าหมาย หรือไม่ถึงจุดหมายที่คาดหวัง…