ขอแสดงความนับถือ ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2565 ฉบับที่ 2167

 

ขอแสดงความนับถือ

 

ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์ แห่งคอลัมน์ อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้

นำเสนอประเด็น

“ศิลปินหญิงผู้เขย่าค่านิยมของสังคมด้วยศิลปะจากจิ๋ม”

โดยภาณุเห็นว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บ้านเรามีข่าวคราวเกี่ยวกับนักผลิตคอนเทนต์วาบหวิวสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

ที่เรียกกันว่า “เซ็กซ์ครีเอเตอร์”

โดยเหล่าบรรดาเซ็กซ์ครีเอเตอร์สาวๆ เหล่านั้น เปิดเผยอวัยวะซ่อนเร้นเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์

ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐแจ้งความดำเนินคดีกันถ้วนหน้า

แถมยังถูกฝ่ายเคร่งศีลธรรมด่าทอประณามหยามเหยียดกันเอิกเกริก

จนบางคนต้องเปลี่ยนอาชีพ

หรือแม้แต่ต้องหลบลี้ไปอยู่ต่างแดนกันเลยก็มี

 

เหตุการณ์ที่ว่านี้

ทำให้ “ภาณุ” พาเราไปรู้จักศิลปินหญิงคนหนึ่ง

ที่ใช้อวัยวะซ่อนเร้นของเธอสร้างผลงานศิลปะสุดแสนท้าทาย และเขย่าต่อมศีลธรรมของสังคมให้สั่นคลอน

จนต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

ศิลปินผู้นั้น เป็นสตรีญี่ปุ่น เมกุมิ อิการาชิ (Megumi Igarashi)

รู้จักกันในฉายา “โรคุเดนะชิโกะ” (Rokudenashiko)

อันมีความหมาย “ยัยเด็กเหลือขอ” หรือ “ยัยเด็กสารเลว”

ในฐานะที่เธอทำงานศิลปะที่ใช้อวัยวะเพศหญิงเป็นต้นแบบในการสร้างผลงานศิลปะขึ้นมา

ด้วยจุดยืนมุ่งมั่นของเธอ

คือการทวงคืนสิทธิ์ของจิ๋ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายผู้หญิง

ที่ผ่านมา สังคมญี่ปุ่นมักปกปิดแอบซ่อนและทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามและลามกอนาจาร

“ในเมื่อประเทศญี่ปุ่นปฏิบัติต่อจิ๋มให้กลายเป็นอะไรที่ถูกปกปิดซ่อนเร้นให้อยู่ใต้ดิน ฉันก็จะทำให้จิ๋มกลายเป็นสินค้าในระบบอุตสาหกรรมเสียเลยก็แล้วกัน”

ด้วยเจตจำนงค์อันแน่วแน่นี้

ทำให้เธอเผชิญอะไร

และเขย่าสังคม “ชายเป็นใหญ่” ได้มากแค่ไหน

โปรดพลิกอ่านที่หน้า 62

 

และหากเหลือบมองไปที่หน้าคู่กัน คือหน้า 63

สุดคนึง บูรณรัชดา ได้นำหนังสือ “The Vagina Bible” ของแพทย์ด้านสูตินรีเวช พญ.เจ็น กันเทอร์ ในชื่อภาษาไทยว่า “คัมภีร์โยนี” แปลโดยนิธินันท์ ยอแสงรัตน์ มาให้รู้จัก อย่างน่าระทึกใจ

ตั้งแต่ชื่อหนังสือนั่นเลยทีเดียว

ที่ไปเทียบกับไบเบิล

มิได้ลบหลู่ หากแต่ยกย่องไบเบิล ว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่หาอ่านได้ง่ายที่สุดในโลก

หากใครเคยดึงลิ้นชักตู้ข้างหัวเตียงโรงแรมสมัยก่อนจะพบว่ามีพระคัมภีร์ซ่อนอยู่

ยึดตามสถิติกินเนสส์บุ๊กปี 1995 พระคัมภีร์เป็นหนังสือที่มีการเผยแพร่มากที่สุดในโลกโดยมีการตีพิมพ์และขายกว่า 5 พันล้านเล่ม

อย่างไรก็ตาม ขณะที่พระคัมภีร์อยู่ทุกที่

แต่หนังสือที่อธิบายเรื่องโยนีนั้นหาได้ยากเหลือเกิน

 

เมื่อตั้งชื่อหนังสือว่า “The Vagina Bible” ผู้เขียนคือ พญ.เจ็น กันเทอร์ ย่อมตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่อยากให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือสามัญประจำบ้านไม่ต่างจากพระคัมภีร์

และที่สำคัญ นำเสนอ “ความจริง” ของจิ๋ม หรือโยนี อย่างไม่บิดเบือน ซ่อนเร้น

พญ.เจ็น กันเทอร์ คับข้องใจต่อโลกชายเป็นใหญ่ ที่ยึดพื้นที่และความรู้ของประวัติศาสตร์มนุษย์มาหลายพันหลายหมื่นปี ยึดมาจนกระทั่งถึงโยนีของเพศหญิง

เธอเห็นว่า ตั้งแต่อดีต เช่น การแพทย์ในยุคสมัยของฮิปโปเครติส แพทย์ซึ่งมีแต่ผู้ชายไม่เคยตรวจภายในผู้หญิง จะผ่าศพยังไม่กล้า

เพราะบรรทัดฐานสังคมกำหนดว่าไม่ควรแตะต้องผู้หญิงที่ไม่ใช่คู่สมรส

ความรู้เกี่ยวกับร่างกายผู้หญิงในตำราแพทย์ยุคแรกที่เขียนโดยผู้ชาย จึงเกิดจากการตีความคำบอกเล่าของผู้หญิงและหมอตำแย

ซึ่งไม่ใช่ความจริง

และความไม่จริงอีกมากมาย ตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้

อย่างการสื่อสารกับแพทย์ ก็มีปัญหาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเรื่องของโยนีถูกกักเก็บเป็นความรู้ต้องห้ามมานาน

ผู้ป่วยมีปัญหาในการสื่อสารกับแพทย์ให้เข้าใจว่ามันผิดปกติอย่างไร ต้องสื่อสารวิธีไหน

การตรวจภายใน กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

“คัมภีร์โยนี” จึงเสนอตัวเพื่อมาถอนพิษด้วยยาที่เรียกว่า “ความจริง”

ความจริงของ “จิ๋ม” ตัวแทนแห่งสตรี •