“ส.ว.วันชัย” ตาสว่าง ชี้ “ปฏิวัติ” แก้ทุจริตไม่ได้ 8 ปีที่ผ่านมา วงจรเลวร้ายกว่าเดิม

“ส.ว.วันชัย” ซัด “ปฏิวัติ” แก้ทุจริตไม่ได้ บางคนพูดจนตายคาสภา ยังแก้ไม่ได้ วงจรอุบาทว์ทุจิตกว่าเดิม อัดขรก.การเมืองหวังช่องทางหากำไร ส่วนขรก.เกษียณ รับใช้นายทุน

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานที่ประชุมได้พิจารณา รายงานเรื่อง บทวิเคราะห์กฎหมายว่าด้วยความผิดกรณีการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่มีนายกล้าณรงค์ จันทิก ส.ว.เป็นประธานกมธ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานดังกล่าวชี้ชัดถึงกรณีที่ประเทศไทยได้รับการประเมินดัชนีรับรู้การทุจริต หรือ ซีพีไอ ขององค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ต่ำว่าคะแนนเฉลี่ยมาตรฐานโลก ในช่วง5 ปีที่ผ่านมา เพราะพบว่ามีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ รวมถึงรัฐวิสาหกิจและองค์กรอิสระ ที่มีพฤติกรรมแสวงหาประโยชน์จากการใช้อำนาจรรัฐโดยมิชอบด้วยการเรียกรับสินบน สินน้ำใจ และใช้ทรัพย์สินของราชการและงบประมาณเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง รวมถึงเลือกปฏิบัติในการใช้อำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตน

ในรายงานระบุด้วยว่า กมธ.ฯเรียกร้องให้เร่งจัดทำกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกับระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม เพราะเป็นกฎหมายสำคัญตามแผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามกการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งนี้กฎหหมายดังกล่าวเสนอต่อฝ่ายนิติบัญญัติ ในช่วงสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ ซึ่งกมธ.ฯเห็นว่าควรนำร่างกฎหหมายว่าด้วยความผิดกรณีการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ… ที่เสนอต่อ สนช. มาปรับปรุงให้ทันสถานการณ์ และนำอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตและมาตรการอื่นที่ใช้เป็นสากลมาปรับปรุงเป็นกฎหมายให้ชัดเจนและครอบคลุมทุกระดับ ทั้งราชการส่วนกลาง ราชการส่วนท้องถิ่น ฝ่ายการเมือง โดยเน้นการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล มีกลไกป้องกันยับยั้งการทุจริตเชิงรุก รวมถึงพัฒนาเครือข่ายต่อต้านทุจริต

ทั้งนี้ในการอภิปรายของส.ว.ได้สนับสนุนเนื้อหาในรายงาน อาทินายวันชัย สอนศิริ ส.ว. อภิปรายว่า ขอตั้งข้อสังเกตต่อการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ต้องรอผู้ร้องถึงจะทำงานได้ โดยที่ผ่านมา พบการกระทำที่ขัดประโยชน์ส่วนรวมหลายประการ เช่น การใช้ข้อมูลภายในราชการเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง การนำโครงการสาธารณะลงเขตเลือกตั้งเพื่อหวังผลทางการเมือง รวมถึงกรณีที่เครือญาติของข้าราชการการเมือง เข้าไปมีผลประโยชน์และรับงานในโครงกการต่างๆ จากทางราชการ เป็นต้น

“ที่ผ่านมาการปฏิวัติ หรือเมื่อพูดถึงการปฎิรูป สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญ คือ การทุจริต ซื้อสิทธิขายเสียง ทั้งที่การเลือกตั้งต้องทำให้สุจริตเที่ยงธรรม แต่ 7-8 ปี จนถึงปัจจุบัน พบว่าวงจรอุบาทว์ของการทุจริตเลวร้ายกว่าเดิม จะมีคนที่ออกมาพูด จนบางคนพูดตายคาสภา ก็ยังแก้ไม่ได้ สิ่งที่ผมอยากฝาก คือ ข้าราชการการเมืองที่ดำรงตำแหน่งทับซ้อนกัน แน่นอนว่าคนทำธุรกิจต้องการเงินและหวังกำไร หาช่องว่างทางกฎหมายทุกเม็ดเพื่อให้ได้ผลประโยชน์และกำไรมากที่สุด ส่วนข้าราชการเกษียณที่รู้ช่องมักไปทำงานในบริษัทเอกชน นี่คือเส้นทางพ่อค้า นักธุรกิจ แต่เส้นทางเดินของข้าราชการของประเทศไทยทำงานเพื่อเกียรติ ศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับของประชาชน ไม่ใช่เงินและผลกำไร” นายวันชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายวันชัย อภิปรายอยู่นั้น นายพรเพชร ได้ทักท้วงขอให้สรุปการอภิปราย ทำให้นายวันชัย กล่าวว่า “ขออนุญาติจบเท่านี้ครับท่านประธาน”