ภาพยนตร์ : tick, tick…BOOM! ‘เวลาในชีวิต’ / นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

 

 

tick, tick…BOOM!

‘เวลาในชีวิต’

 

กำกับการแสดง

Lin Manuel Miranda

 

นำแสดง

Andrew Garfield

Alexandra Shipp

Robin de Jesus

Vanessa Hudgens

Judith Light

Bradley Whitford

 

tick, tick…BOOM! เป็นมิวสิเคิลเกี่ยวกับความรักและความพยายามสร้างสรรค์ละครมิวสิเคิลของศิลปินนักแต่งเพลงผู้กระเสือกกระสนหาเลี้ยงชีพด้วยเสิร์ฟอาหารอยู่ในมหานครนิวยอร์ก

ว่ากันว่า อาชีพเสริมระหว่างรออาชีพหลักที่ใจใฝ่ฝันของศิลปินนักร้องนักแสดงในอเมริกา คือการเป็นบริกรเสิร์ฟอาหาร

แน่นอนว่านักตะกายดาวเหล่านี้มองอาชีพบริกรเป็นอาชีพชั่วคราว เพื่อให้มีกินมีใช้ไปก่อนที่จะได้เจอแจ๊กพ็อตหรือโชคหล่นทับจนกลายสภาพเป็นดาราหรือเซเลบไป

โจนาธาน ลาร์สัน (แอนดรูว์ การ์ฟีลด์) เป็นหนึ่งในศิลปินเหล่านั้น เขาตั้งเข็มชีวิตไว้ที่การสร้างสรรค์ประพันธ์เรื่องและเพลงสำหรับละครมิวสิเคิลเพื่อแสดงที่บรอดเวย์

และรวบรวมข้อมูลจนปักใจเชื่อว่าบรรดานักแต่งเพลงเก่งๆ มักประสบความสำเร็จก่อนถึงวัยสามสิบกันทั้งนั้น

นักแต่งเพลงต้นแบบของเขาคือ สตีเฟน ซอนด์ไฮม์ (เล่นโดยแบรดลีย์ วิตฟอร์ด ในหนัง) และหลายคนน่าจะรู้จักซอนด์ไฮม์จากผลงานประพันธ์เนื้อร้องร่วมกับเลนเนิร์ด เบิร์นสตีน ที่ประพันธ์ทำนองในมิวสิเคิลยิ่งใหญ่เรื่อง West Side Story (1957) ซึ่งกลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง (1961) และเพิ่งมีรีเมกที่สร้างใหม่ ฝีมือสตีเวน สปีลเบิร์ก อยู่ขณะนี้

ซอนด์ไฮม์เขียนเพลงสำหรับมิวสิเคิลอมตนิรันดร์กาล West Side Story เมื่อวัยเพียง 27 ปี และแต่งเพลงดีๆ ให้แก่มิวสิเคิลอีกหลายเรื่องต่อมา จนถึงอายุ 90 ปี และเพิ่งจะลาโลกล่วงลับไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง

tick, tick…BOOM! เปิดเรื่องเมื่อลาร์สันกำลังจะย่างเข้าวัย 30 ปี เขารู้สึกว่าเข็มนาฬิกากำลังเดินติ๊กติ๊กไปข้างหน้าอย่างไม่น่ากลัว จวนเจียนจะถึงวันเกิดครบรอบ 30 ของเขาอยู่แล้ว แต่เขายังคงย่ำเท้าอยู่กับที่โดยยังไม่มีวี่แววของความสำเร็จสว่างเรืองๆ อยู่ปลายอุโมงค์

เขาร้อนรนกระวนกระวาย ต้องกระเสือกกระสนหาทาง “ขาย” มิวสิเคิลเรื่องที่เขาใช้เวลาแต่งมาแปดปีแล้ว และยังแต่งไม่เสร็จ ยังไปไม่ถึงเพลงเด่นของเรื่องด้วยซ้ำ

มิวสิเคิลที่เขาวาดฝันไว้ว่าจะให้ความแปลกใหม่แก่วงการ เป็นละครไซ-ไฟของโลกอนาคตที่เลวร้าย ชื่อเรื่องว่า Suburbia

ซึ่งเขาเชื่อว่าจะเป็นละครบรอดเวย์ที่ยอดเยี่ยมด้วยเนื้อหาที่ฉีกแนวไปจากเรื่องราวซ้ำซากจำเจ

ในขณะที่เอเย่นต์ผู้คร่ำหวอดในวงการและรู้จักตื้นลึกหนาบางของธุรกิจนี้ดี ฟันธงไปเลยว่าละครของเขาไม่มีทางขายได้ และไม่มีทางหาทุนสร้างได้ เพราะนี่ไม่ใช่ “แนว” ของมิวสิเคิลที่จะประสบความสำเร็จที่บรอดเวย์ จึงไม่มีทาง “ขาย” ให้บรอดเวย์ซึ่งใช้ต้นทุนการสร้างสูงมาก

แม้แต่โรงละคร “นอกบรอดเวย์” (off-Broadway) หรือห่างไกลไปจากบรอดเวย์ (off-off-Broadway) ก็ยังไม่สนใจจะลงทุนทำ

เข็มนาฬิกายังคงดัง ติ๊ก ติ๊ก ไปเรื่อย แต่เสียงระเบิดเป็น “บูม!” ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาถึง

ระหว่างที่เขาร้อนรนจะหาทาง “ขาย” มิวสิเคิลที่เขาต้องการจะนำเสนอเนื้อหาแปลกใหม่ให้แก่วงการ โดยไม่ซ้ำซากจำเจหรือย่ำเท้าอยู่กับที่ ทั้งๆ ที่ยังเขียนไม่เสร็จทั้งเรื่องด้วยซ้ำ ยังขาดฉากสำคัญที่จะเป็นเพลงเด่นเพลงเอกของละคร และวนเวียนอยู่กับการทุ่มเทเวลาในชีวิตทั้งหมดไปกับการแต่งเพลงเอกเพลงนี้

เขาอยู่ในช่วงล่อแหลม ต้องเสี่ยงกับการสูญเสียทั้งคนรัก ซึ่งคอยช่วยสนับสนุนให้กำลังใจมาตลอด แต่ก็ต้องการกำลังใจในการสร้างชีวิตของตัวเองเหมือนกัน และทั้งเพื่อนรักที่คบหากันมาสนิทสนมตั้งแต่วัยเด็ก ผู้ซึ่งเคยมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักแสดง แต่ก็ต้องเลิกรากับการตะกายดาว ไขว่คว้าติดตามความฝันอันไกลลิบ ซึ่งไม่เคยเฉียดกรายเข้ามาใกล้

ไมเคิล (โรบิน เดอจีซัส) เพื่อนรักคนนี้ หันไปทำงานด้านการเงิน กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ทิ้งความฝันของศิลปินในตัวเองไป และคอยช่วยเหลือหางานเสริมรายได้ให้โจนาธาน เพื่อจะยังคงไล่ตามความฝันในโลกศิลปะการละครต่อไป

นาฬิกาชีวิตของไมเคิลเองก็กำลังเดินติ๊ก-ติ๊กไปข้างหน้า รอเวลา “บูม!” ครั้งใหญ่ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายอยู่เหมือนกัน

 

มีฉากเด่นๆ ซึ่งชวนอึ้ง นิ่งขึงตะลึงตะไลไปเลย ในตอนที่ไมเคิลระเบิดใส่หน้าโจนาธาน เป็นฉากที่สะท้อนให้เห็นถึง “ติ๊ก-ติ๊ก-บูม!” ครั้งใหญ่ในชีวิตของเราทุกคน

และฉากคู่ขนานซึ่งแหลมคมเสียดแทงใจระหว่างฉากความเป็นจริงในโลกจริงกับฉากความเป็นจริงในจินตนาการ ในเพลงที่โจนาธานร้องคู่กับซูซาน แฟนของเขา (อเล็กซานดรา ชิปป์)

เสี้ยวหนึ่งในชีวิตของโจนาธาน ลาร์สัน ขณะกำลังดิ้นรนแข่งกับเวลาเพื่อหาทาง “ระเบิด” นี้เต็มไปด้วยความหวัง ความใฝ่ฝัน ความรัก มิตรภาพ ความผิดหวัง และการยอมรับตัวตนของตัวเอง

แอนดรูว์ การ์ฟีลด์ (Spider-Man : No Way Home, The Social Network) รับบทบาทที่ต้องทั้งเล่นบทดรามาและร้องเพลงเองได้อย่างกลมกลืน

และแบรดลีย์ วิตฟอร์ด ซึ่งเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาพอควร มาเล่นเป็นสตีเฟน ซอนด์ไฮม์ นักแต่งมิวสิเคิลยักษ์ใหญ่ผู้หนึ่งในวงการ ผู้เพิ่งล่วงลับไปก่อนหน้าการเปิดตัวของ West Side Story ซึ่งเป็น Boom! ครั้งแรกในชีวิตของเขา และกลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับโจนาธาน ลาร์สัน

บทบาทไม่มากนัก แต่ก็โดดเด่นไม่น้อย

ผู้ที่ชื่นชอบในละครมิวสิเคิลคงจะพอทราบว่าโจนาธาน ลาร์สัน เป็นผู้แต่งละครมิวสิเคิลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเรื่องหนึ่งที่บรอดเวย์ คือ RENT ทว่า ลาร์สันเสียชีวิตไปด้วยโรคเส้นเลือดตีบในคืนก่อนรอบปฐมทัศน์ของละครออฟบรอดเวย์ และชนะใจคนดูและนักวิจารณ์จนได้ย้ายไปเล่นที่บรอดเวย์ และได้กลายเป็นภาพยนตร์ (2006) ด้วยฝีมือกำกับฯ ของคริส โคลัมบัส

ผู้กำกับหนัง tick, tick…BOOM! ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ลิน-มานูเอล มิแรนดา ผู้หลงรักในละครมิวสิเคิล และเป็นเจ้าของเรื่อง เจ้าของความคิด รวมทั้งผู้ประพันธ์ละครมิวสิเคิลที่น่าจดจำอีกเรื่อง คือ Hamilton

แฟนหนังและละครมิวสิเคิลไม่ควรพลาดนะคะ