โลกและไทยในปี 2565/โลกทรรศน์ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

โลกทรรศน์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

 

โลกและไทยในปี 2565

 

ไม่มีอะไรดีกว่าการมองไปข้างหน้า เราควรมองทั้งแง่มุมของโลกและไทยไปพร้อมกัน ข้อมูลโลกข้างหน้าบางส่วนผมเอามาจาก “The World Ahead 2022” The Economist 2022 แล้วเพิ่มความเห็นเข้าไป

ปี 2564 คือปีที่โลกต้องต่อสู้กับโรคระบาดโควิค-19

ปี 2565 โลกจะถูกครอบงำโดยความต้องการปรับตัวไปสู่ความจริงใหม่ (new realities) ทั้งในด้านปรับโฉมจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นคือ โลกใหม่ของการทำงาน และอนาคตของการเดินทาง และมุ่งสู่ทิศทางที่ลึกกว่าเดิม

ในแง่คิดใหม่ เกี่ยวกับการทะยานขึ้นของจีน การเร่งตัวเร็วของปัญหาสภาวะภูมิอากาศโลก

ส่วนโลกทิศทางใหม่ปีหน้าที่น่าสนใจอาจนำมากล่าวอย่างย่อดังนี้

 

ประชาธิปไตยและอำนาจนิยม

การเลือกตั้งกลางปีของสหรัฐอเมริกาและการประชุมสมัชชาแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในแง่การแข่งขันกันของระบอบการปกครองอันไหนดีกว่ากัน และให้เสถียรภาพการเติบโตและนวัตกรรมด้วย การแข่งขันจะเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ จากการค้า ถึงกติกาด้านเทคโนโลยีด้านวัคซีน ถึงด้านสถานีอวกาศ

จากโรคระบาดสู่โรคประจำถิ่น

ยาเม็ดใช้ต่อต้านไวรัสโควิด-19 การจัดการแอนตี้บอดี้ที่พัฒนาขึ้นและมีวัคซีนมากขึ้นกำลังจะมา เรื่องราวของวัคซีนในโลกพัฒนาแล้ว ไวรัสจะไม่ทำอันตรายถึงชีวิตอีกต่อไปแล้ว แต่ยังจะเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้คนในโลกกำลังพัฒนาต่อไป ถ้าวัคซีนไม่สามารถก้าวขึ้นมาได้แล้ว โรคระบาดโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นหลายๆ โรคที่มีผลกระทบต่อคนยากคนจน แต่ไม่กระทบร้ายแรงต่อคนรวย

ความกังวลเงินเฟ้อ

ด้วยซัพพลาย เชนเกิดดิสรัปชั่น และความต้องการพลังงานอย่างมากของโลกเกิดพร้อมๆ กัน ได้ผลักให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางหลายๆ แห่งแสดงความคิดเห็นว่า ราคาพลังงานสูงขึ้นก็จริง แต่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อสักคนว่าจะเป็นเช่นนั้น กล่าวเฉพาะประเทศอังกฤษ ปีหน้าอังกฤษจะเผชิญวิกฤตการณ์เพราะเสี่ยงต่อการเกิด stagflation ทั้งนี้เนื่องจากอังกฤษเผชิญกับภาวการณ์ขาดแคลนแรงงาน หลังเกิด Brexit ในเวลาเดียวกัน อังกฤษเผชิญกับการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติซึ่งมีราคาแพง

อนาคตของงาน

หลังจากเกิดโรคระบาดโควิด-19 โลกได้เผชิญกับสิ่งที่โลกไม่เคยประสบมาก่อน การพังทลายของระบบการสื่อสาร การคมนาคม การเดินทางของผู้คนทั่วโลก ก่อให้เกิดสภาวะและแนวคิดใหม่เรื่องการทำงานในสถานที่ทำงานต่างๆ อันเป็นเรื่องปกติและมีมาช้านานแล้ว เมื่อเกิดปัญหาการเดินทางไปที่ทำงาน และเกิดโรคอุบัติใหม่ จึงเกิดรูปแบบการทำงานรูปแบบใหม่ ประการหนึ่งคือ การทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home-WFH ในปีหน้า

มีฉันทานุมัติกันอย่างกว้างขวางว่า รูปแบบการทำงานในอนาคตคือ รูปแบบผสม แต่ก็ยังมีข้อการโต้แย้งระหว่างกันว่า รูปแบบการทำงาน ในรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เช่น นานกี่วัน? ทำงานแบบไหน? และการทำงานอย่างไหนจะเป็นธรรมต่อลูกจ้างและคนทำงานนั้นๆ ดังนั้น พวกเขาอาจเสี่ยงเรื่องได้รับโปรโมชั่น ยังมีข้อโต้แย้งเรื่องการจ่ายภาษี และการตรวจสอบกลุ่มคนทำงานแบบเคลื่อนที่ไปๆ มาๆ ด้วย

เทคโนโลยีใหม่กระทบรุนแรง

คณะกรรมการกำกับหรือ regulator ต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปมีความพยายามควบคุมบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอยู่หลายปีแล้ว แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ยังเติบโตและทำกำไรด้วยวิธีเถื่อนๆ ต่อไป

แต่ตอนนี้ ทางการจีนกลับเป็นผู้นำจัดการอย่างรุนแรงต่อบริษัทเทคโนโลยีอย่างโหดร้าย ด้วยประธานาธิบดีสี่ จิ้น ผิง ต้องการเน้น deep tech โดยใช้ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ไม่ใช่แค่พอใจกับธุรกิจด้านเกมและเรื่องช้อปปิ้ง สิ่งนี้จะผลักดันนวัตกรรมของจีน หรือทำให้พลวัตอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแข็งทื่อหรือไม่

คริปโตเติบโต

ด้วยเหตุที่เทคโนโลยีดิสรัปชั่นไปหมด คริปโตเคอร์เรนซี่จึงเกิดจากภายในประเทศ โดยกฎเกณฑ์ของผู้กำกับกติกาทางการเงินของประเทศที่เข้มงวด ธนาคารกลางกำลังพิจารณาดำเนินการคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยการรวมศูนย์สกุลเงินดิจิตอล ดังนั้น ผลจะออกมา 3 แนวทาง คือ การต่อสู้เพื่อให้เป็นเงินตราในอนาคต ระหว่างคริปโต บล็อกเชน และกลุ่มของ Defi แล้วบริษัทเทคโนโลยีดั้งเดิมมากๆ และธนาคารกลางจะกระทบกระเทือนรุนแรงมากขึ้นในปี 2565

ภาวะวิกฤตภูมิอากาศ

แม้ว่าไฟไหม้ป่า คลื่นลมร้อน และน้ำท่วม เกิดบ่อยเพิ่มขึ้นมาก แต่บรรดาผู้กำหนดนโยบายก็ยังขาดความกระตือรือร้น เมื่อต้องจัดการสภาวะโลกร้อน มากไปกว่านั้น การลดคาร์บอน เป็นแค่เพียงการแข่งขันกันด้านภูมิรัฐศาสตร์ จริงๆ แล้วการลดคาร์บอนต้องการความร่วมมืออย่างลึกซึ้งมากขึ้นระหว่างชาติตะวันตกและจีน

ตอนนี้ เรากำลังตั้งความหวังจากทีมวิจัยทีมหนึ่งของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ทีมนี้จะใช้บอลลูนลอยสูงขึ้นแล้วปล่อยเถ้าถ่านให้แสงอาทิตย์มัว ด้วยเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดแสงอาทิตย์กระทบโลกได้บ้าง อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีต่างๆ อาจทำให้โลกต้องการเวลาอีกมากเพื่อลดคาร์บอนลง

ปัญหาการท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวนั้นเป็นกิจกรรมที่ใช้เพื่อเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่หลายๆ ประเทศประกาศใช้ยุทธศาสตร์กำจัดโควิด-19 เป็นศูนย์ อันได้แก่ ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นต้น เมื่อยุทธศาสตร์เป็นเช่นนี้ ทำให้ต้องการจัดการอย่างชาญฉลาด เพื่อทำการเปลี่ยนโลกแบบที่ไวรัสที่ระบาดกลายเป็นโรคประจำถิ่น

แต่ในขณะเดียวกัน จำนวนมากเท่ากับครึ่งหนึ่งของการเดินท่องเที่ยวเป็นการเดินทางเพื่อประกอบธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งดีต่อโลก แต่อีกด้านหนึ่ง การเดินทางเพื่อประกอบธุรกิจซึ่งต้องใช้จ่ายสูงมีภาระให้ต้องชดเชยแก่นักท่องเที่ยวทั่วไป

 

ไทยในปี 2565

กระแสโลก สู่กระแสไทย

คริปโตเคอร์เรนซี่ วิกฤตภูมิอากาศและโรคระบาด มาไทยแน่นอน อีกทั้งทลายและทะลุระบบโครงสร้างเก่าหลายระบบ รวมทั้งโครงสร้างการเมืองอนุรักษนิยม ไทยเป็นส่วนหนึ่งของกระแสโลก ไทยไม่มีอะไรพิเศษพอเป็นข้อยกเว้น

ดังนั้น ไทยย่อมต้องเผชิญกับเทคโนโลยีดีสรัปชั่นหลายตัว โดยเฉพาะคริปโตเคอร์เรนซี่ ผมไม่ทราบว่า ความเติบโตของคริปโตเคอร์เรนซี่ในโลกก่อให้เกิดด้านมืดบ้างหรือเปล่า

ด้านหนึ่ง คริปโตเคอร์เรนซี่ อาจเป็นลาภของคนโลภที่อยากร่ำรวยเร็วเพียงชั่วข้ามคืน และเป็นมหันตภัยชั่วข้ามคืนก็ได้

ในเวลาเดียวกัน ด้วยอานุภาพของเทคโนโลยีเคลื่อนย้ายเงินง่าย ไว ไร้ที่ติ แต่อาจช่วยผ่องถ่ายเงินของมิจฉาชีพทำได้ง่าย ไว และไร้ร่องรอยก็ได้

ไทยหนีไม่พ้นภาวะวิกฤตภูมิอากาศแน่นอน ปีที่ผ่านมา เราต้องเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 อันแสนสาหัสทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจยาวนานร่วม 3 ปีแล้ว พร้อมกันนั้น เราเผชิญน้ำท่วมทั่วประเทศ เผชิญฝนตก ลมแรง และน้ำท่วมรุนแรงทั่วภาคใต้ของไทย นี่เป็นคำเตือนของวิกฤตภูมิอากาศแล้ว แต่ดูเหมือนรัฐไทยมิได้สนใจมากนัก ดังคำที่ว่า…น้ำท่วม ทำไงได้ ก็ฝนตก ทำไงได้…

เราไม่มีทางจัดการโรคระบาด อันเป็นโรคระบาดใหม่ได้ เฉกเช่นเดียวกัน เราควบคุมภาวะวิกฤตภูมิอากาศไม่ได้ เหตุไม่ใช่เราไม่มีเครื่องมือ ประเด็นหลักคือ สำนึกทางการเมืองของรัฐไทยมากกว่า

ท่ามกลางวิกฤตที่ควบคุมไม่ได้ อนุรักษนิยมสุดขั้วไทย ตื่นตระหนกกระทั่งหวาดระแวง โดยฟื้นฟูประเพณีเก่าเพื่อมุ่งไปสู่อนุรักษนิยมสุดขั้วเพื่อครอบงำสังคม แบ่งแยกกองทัพก็แล้ว ควบรวมหรือยึดโภคทรัพย์ก็แล้ว อีกยังแทรกแซงสถาบันศาสนาเพียงเพื่อนำสถาบันหลักสู่แนวอนุรักษนิยมเพื่อบดขยี้พลังก้าวหน้าที่เริ่มจากเด็กๆ

น่าประหลาดใจ ยิ่งมั่นคงกลับยิ่งไร้เสถียรภาพ สมบูรณ์จำแลงก็ยิ่งอ่อนแอ ในขณะที่ขุนศึกและนายทุนล้วนถูกดิสรัปต์เอาตัวไม่รอดพ้นในปีหน้า

การเมืองไทยปีหน้าจึงเหมือนคริปโตเคอร์เรนซี่ วูบวาบและปั่นป่วน