ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรก นักการทูตนามิเบีย สิงคโปร์พบแล้ว 2 ราย ช่วงเปลี่ยนเครื่อง

สื่อญี่ปุ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกแล้ว เป็นนักการทูตชาวนามิเบีย วัย 30 ปี สิงคโปร์พบเป็นครั้งแรกด้วย 2 รายเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินชางงี 

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เจแปนไทม์รายงานว่า แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกแล้ว เป็นนักการทูตชาวนามิเบียวัย 30 ปี เพศชาย ซึ่งมีผลตรวจโควิดเป็นบวกหลังเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะใกล้กับกรุงโตเกียวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 พ.ย.) “ฟูมิโอะ คิชิดะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยว่า มีผู้ที่เดินทางมาจากนามิเบียรายหนึ่ง ซึ่งผลตรวจโควิดเป็นบวก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าบุคคลดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่

วันเดียวกัน ญี่ปุ่นได้ประกาศปิดพรมแดนสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาใหม่ ซึ่งรวมถึงผู้ที่เดินทางมาเพื่อธุรกิจ นักเรียนต่างชาติ และนักศึกษาฝึกงานต่างชาติ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากกังวลเรื่องการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยด้วยว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อชาวต่างชาติที่เดินทางกลับเข้ามาในญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่น แต่หากคนกลุ่มนี้ได้เดินทางมาจาก 14 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน พวกเขาจะต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนด

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ สวมหน้ากาก และรักษาระยะห่าง พร้อมเน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดในบรรดาประเทศกลุ่ม G7

ด้าน เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เริ่มติดตามเจ้าหน้าที่สนามบินที่อาจสัมผัสกับผู้เดินทาง 2 รายที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งได้มาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินชางงี ระหว่างเดินทางจากแอฟริกาไปออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาตอนใต้ โดยบินจากเมืองโยฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้มายังสิงคโปร์ ด้วยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน แต่เมื่อเดินทางถึงนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย ปรากฏว่าทั้งคู่มีผลตรวจเป็นบวก

ผู้เดินทางส่วนใหญ่ของเที่ยวบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่เดินทางจากโยฮันเนสเบิร์กยังคงอยู่ในพื้นที่เปลี่ยนเครื่องกระทั่งเครื่องออกเดินทางไปยังซิดนีย์ อย่างไรก็ตาม มี 7 รายที่ลงจากเครื่องแล้ว ในจำนวนนี้ 6 ราย กักตัวที่บ้าน ส่วนอีก 1 ราย ซึ่งเป็นสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อบนเที่ยวบินดังกล่าว ถูกนำไปกักตัวที่สถานกักตัว

ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทางสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาตอนใต้ และเลื่อนเวลาการเปิดรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และซาอุดิอาระเบีย ออกไปก่อน เนื่องจากความกังวลเรื่องสายพันธุ์โอไมครอน เพราะทั้ง 3 ประเทศเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับผู้เดินทางจากแอฟริกาตอนใต้ไปยังเอเชีย ทั้งนี้ เที่ยวบินที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนนั้น เดินทางมาถึงสิงคโปร์ก่อนที่มาตรการนี้จะบังคับใช้

สิงคโปร์แอร์ไลน์เผยว่า พนักงานทุกคนบนเที่ยวบินจะต้องกักตัว และเข้ารับการตรวจโควิด