ทำไม “ท่าที” ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ต่อหนังสือจาก”สตง.” จึงเหมือนกับ “ปฏิเสธ” ความปรารถนาดี

“ไม่มี” เป็นเสียงจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “องค์กรไหน ใครที่ไหน บอกมา ไม่จริง ก็พูดกันไป”

ยิ่งจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยิ่งหนักแน่น

“เรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยยังตรวจสอบไม่พบ และยังไม่มีรายงานเข้ามาว่ามีการทำผิดในพื้นที่ใดบ้าง”

“สตง.” ก็ต้องหงาย”เงิบ”

จำเป็นต้องหา “คำตอบ” จำเป็นต้องช่วยกัน “สังเคราะห์” และ “วิเคราะห์” ว่าเป็นเพราะเหตุใด

หากย้อนกลับไปยัง “ต้นตอ” หรือแหล่งที่มาของการทำหนังสือจาก สตง.ถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม

ก็จะเข้าใจ

“มีคนโวยผ่านทางเฟซบุ๊คว่า มีการหลอกแม่เขาจะพาไปกราบพระบรมศพ ร.9 แต่สุดท้ายพาไปอยู่หน้าศาล”

นี่คือ “รากฐาน” อันเป็นมูลเชื้อแห่ง “หนังสือ”

กระทรวงมหาดไทยสั่งให้ “ผู้ว่าราชการจังหวัด” และ “นายอำ เภอ” ตรวจสอบทันที

จึงแถลงได้ว่า

“ยังตรวจสอบไม่พบและยังไม่มีรายงานเข้ามาว่ามีการทำผิดในพื้นที่ใดบ้าง”

จำเป็นที่ “สตง.” จะต้อง “ยืนยัน”

จุดอ่อนของ”หนังสือ”ถึงกระทรวงมหาดไทยกระทรวงกลาโหมของ “สตง.” มาจากไหน

1 เป็นจุดอ่อนจาก”ข้อมูล” อัน”เลื่อนลอย”

มิได้เป็นข้อมูลในลักษณะ”ปฐมภูมิ” หรือผ่านการตรวจสอบมาแล้วโดย “สตง.”

หากเสมอเป็นเพียงการโพสต์ใน”เฟซบุ๊ค”

1 องค์ประกอบของ”อปท.”นับแต่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา ถูก”ชำระล้าง”ด้วยอำนาจ”มาตรา 44″ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปีเศษ บทสรุปจึงอยู่ที่คำพูด

“ไม่มี องค์กรไหน ใครที่ไหน บอกมา ไม่จริง ก็พูดกันไป”