เบบี้ ‘บอมบ์’ เมอร์/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

เบบี้ ‘บอมบ์’ เมอร์

 

แม้นายทักษิณ ชินวัตร จะถือเป็นรุ่นพี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่ในแง่เจเนอเรชั่น ถือว่าร่วม “เจน” กัน

คือ “เบบี้บูมเมอร์”

ซึ่งเมื่อไปเทียบกับเจนวาย เจนแซด แล้วต้องถือว่าเป็น “รุ่นเก่า”

ดังนั้น เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปขอเวลาอีก 5 ปีที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ขณะเดินสายลงพื้นที่ไป จ.นครศรีธรรมราช

ทำให้เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นายทักษิณในนามโทนี่ วู้ดซัม ใช้รายการ Care Talk x Care Clubhouse ครั้งที่ 17 เขย่า พล.อ.ประยุทธ์อีกครั้ง

แต่เขย่าครั้งนี้แรง

เป็นเบบี้ “บอมบ์” เมอร์ คือ โยนระเบิดใส่กันตรงๆ ผ่านหัวข้อ “7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ?”

ทั้งนี้ นายทักษิณวิพากษ์ พล.อ.ประยุทธ์ตรงๆ ว่า

“นายกฯ อยู่มา 7 ปี บอกขอเวลาอีกไม่นาน และจะขออีก 5 ปี ไม่นานหรือ”

“5 ปีแรก มีอำนาจล้นเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยังทำอะไรไม่ได้… 7 ปีจึงสุดแสนจะแย่ที่สุด ทรมานที่สุดของคนไทย”

“ผมรุ่นพี่ ยกมือไหว้รุ่นน้องหน่อย พอเถอะท่าน เรามันแก่แล้ว เรามันเบบี้บูมเมอร์ ไม่เข้าใจหรอกว่าเด็กรุ่นหลังคิดยังไง…วันนี้เบบี้บูมเมอร์อย่านั่งเป็นนายกฯ เลย พอแล้ว ให้เจนเอกซ์เจนวายทำเถอะ”

 

การยกมือไหว้ขอร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ “วางมือ” ของนายทักษิณดังกล่าว

ปรากฏว่าวันเดียวนั้นคือวันที่ 12 ตุลาคม

มี “คลิปหลุด” ออกมาสู่สาธารณะ

เป็นเหตุการณ์ที่แกนนำและ ส.ส.เพื่อไทยประมาณ 30 คนไปรับประทานอาหารค่ำที่บ้านของนายพงษ์ศักดิ์ รัตพงศ์ไพศาล

ระหว่างรับประทานอาหารนั้นได้มีแกนนำพรรคต่อสายให้นายทักษิณวิดีโอคอลล์เพื่ออวยพรวันเกิดให้นายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำ ส.ส.ภาคอีสาน ในโอกาสครบรอบวันเกิด 69 ปี

ปรากฏว่า มีคำพูดของนายทักษิณที่ได้เป็นคีย์เวิร์ด และเป็นส่วนขยายสำคัญ หลังจากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ “วางมือ”

โดยนายทักษิณบอกว่า

“ผมมีหลายแนวทาง รับรองว่าแต่ละแนวทางเนี่ย ส.ส.ที่คิดจะออก รับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน เที่ยวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์ เพราะว่าชนะธรรมดา มันไม่ให้เป็นรัฐบาลหรอก ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล ต้องเอาแลนด์สไลด์ชนิดที่ไม่กล้าเป็นรัฐบาล”

อันสะท้อนว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดครั้งหน้า

นายทักษิณวาดหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องชนะแบบแลนด์สไลด์

นั่นก็ย่อมหมายว่าคงจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อจะก้าวไปถึงจุดหมายนั้นให้ได้

 

ซึ่งการทุ่มเทดังกล่าว แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยออกมา

แต่ก็น่าสังเกตว่า เป็นห้วงเวลาเดียวกับการที่พรรคเพื่อไทยกำลังเตรียมปรับโครงการสร้างพรรคใหม่

นอกจากจะตั้งกรรมการบริหารพรรคเสริมแล้ว

ยังเริ่มคิกออฟแคมเปญใหม่ออกมา

เพื่อให้สอดคล้องกับวันประชุมใหญ่พรรค ในวันที่ 28 ตุลาคม ที่ จ.ขอนแก่น

โดยจะใช้เป็นแคมเปญ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ประชาชน” สำหรับการเลือกตั้งใหม่ที่จะมีขึ้น

เป็นที่น่าสังเกตว่าคำว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย” เป็นลายมือของ “นายทักษิณ”

ที่ถูกตีความนี่เป็นการซ่อนแบรนด์การเมืองยี่ห้อนายทักษิณเอาไว้

เพื่อตอกย้ำความจดจำถึงนายทักษิณทั้งตัวบุคคลและนโยบายประชานิยม

ขณะเดียวกันมีการลด “สี” ของเพื่อไทยจากเดิม แดง ขาว น้ำเงิน เป็นสีแดงสีเดียว

นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย อธิบายว่า เพื่อตอกย้ำเพื่อไทยมีพรรคเดียว ไม่มีพรรคสำรอง ไม่มีแตกแบงก์ร้อยแบงก์พัน ส่งผู้สมัครพรรคเดียว 400 เขต กับ 100 ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่มีพรรคสาขาใดๆ ทั้งสิ้น

นายภูมิธรรมบอกอีกว่า เหตุผลที่เลือกสีแดงเพราะสะท้อนจิตวิญญาณของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งคือรากฐานและพื้นฐานการต่อสู้ของคนเพื่อไทย

นอกจากการรีแบรด์พรรคใหม่แล้ว แกนนำพรรคเพื่อไทยยังบอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์อีกหลายอย่างที่จะปล่อยออกมา

รวมถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคในห้วงเวลาที่เหมาะสม

อันจะเป็นจุดขายอีกจุดหนึ่งที่ทำให้สังคมสนใจและติดตาม

 

นี่จึงถือว่า เป็นแผนรุกการตลาดอันชำนาญเกมของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย

ที่มาครบทั้ง “แพ็กเกจ”

โดยนายทักษิณรุกผ่าน “โทนี่ วู้ดซัม” ประสานกับกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ที่มีคลับเฮาส์เป็นเวทีสื่อสารกับสังคมโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

ล่าสุดยังมีคลิป “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ฟื้นรำลึกถึงมหาอุทกภัยเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ออกมาเผยแพร่ ให้สอดรับกับสถานการณ์น้ำท่วมในเดือนตุลาคม 2564 อย่างเข้าบรรยากาศ

อันตอกย้ำว่า พี่น้องชินวัตร แม้จะถูกกันให้เป็น “คนนอก” มิอาจเข้ามาเกี่ยวข้องการเมืองโดยตรง

แต่พี่น้องชินวัตรกลับสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเข้ามามีบทบาทซึ่งนับวันมีแต่จะร้อนแรงขึ้น

 

ขณะที่ในส่วนพรรคเพื่อไทย ผลแห่งการปรับขบวนทัพใหม่ ก็สามารถทำให้ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ สร้างผลสะเทือนตกกระทบเข้าไปภายในพรรคพลังประชารัฐอย่างร้าวลึก ทั้งในพี่น้อง 3 ป. พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และเลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จนมิอาจประสานได้อย่างลงตัวแม้กระทั่งตอนนี้

และตอนนี้กำลังรอการประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 28 ตุลาคม

เพื่อคิกออฟแคมเปญใหม่ในการลุยสนามเลือกตั้ง

ภายใต้เป้าหมายจะต้องให้เกิดแลนด์สไลด์ในระดับ “มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล” อย่างที่นายทักษิณประกาศ

 

ซึ่งการโหมประโคมเพื่อรุกกลับทางการเมืองของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยที่มากด้วยความคึกคักนี้

ย่อมสร้างแรงกดดันไปยังอีกฝั่งฟาก และก็คงไม่ยอมงอมืองอเท้า รอรับชะตากรรมอย่างไร้การต่อต้าน

ตรงกันข้าม พรรคพลังประชารัฐแม้จะประสบปัญหาความมีเอกภาพ

แต่ก็ยังใช้ความได้เปรียบในความเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล เดินหน้าเก็บคะแนนอย่างต่อเนื่อง

การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล มีถี่ยิบอย่างที่เห็น

และมีพลังดูดนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างมีพลัง

ยิ่งกว่านั้น อาวุธหลักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระยังอยู่ครบถ้วน และพร้อมจะถูกนำมาใช้เมื่อสบโอกาส

โดยเฉพาะเมื่อนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย เร่ง “รุก” มาก

ก็อาจเกิดภาวะ “หลังรั่ว” หรือเปิดช่องโหว่ ให้ถูกย้อนเกล็ดคืนได้ง่ายๆ

อย่างตอนนี้ “คลิปหลุด” ก็กำลังถูกตั้งแท่นเพื่อรอเชือด และอาจเป็นปัญหาได้ในอนาคต

 

คลิปหลุดที่ว่า ก็คือคลิปที่นายทักษิณวิดีโอคอลล์เข้ามาอวยพรวันเกิดนายเกรียงนั่นเอง

โดยในคลิปตอนหนึ่ง นายเกรียงเป็นผู้สอบถามถึงความเป็นไปได้ในการให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป

ซึ่งนายทักษิณได้ตอบในคลิปว่า คุณหญิงพจมานเป็นคนไม่ชอบการเมืองที่สุด แต่ที่ผ่านมาตกกระไดพลอยโจน

คุณหญิง (พจมาน) อาจจะอายุมากไปนะ และถ้าไม่จำเป็นอย่างยิ่งยวด คุณหญิงจะไม่ขอลงการเมือง เพราะไม่ชอบ สอง ปราศรัยไม่ถนัด ไม่ถนัดที่จะพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เป็นคนนั่งเป็นประธานในที่ประชุมได้ แต่ว่าไปขึ้นปราศรัย ขึ้นเวทีทักทายประชาชนทำไม่เป็น

ในช่วงท้ายของคลิป นายทักษิณกล่าวด้วยว่า “ผมมีหลายแนวทาง รับรองว่าแต่ละแนวทางเนี่ย ส.ส.ที่คิดจะออก รับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน เที่ยวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์ เพราะว่าชนะธรรมดา มันไม่ให้เป็นรัฐบาลหรอก ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล ต้องเอาแลนด์สไลด์ชนิดที่ไม่กล้าเป็นรัฐบาล”

คลิปภายในนี้ถูกแชร์ออกจากกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย และหลุดออกมาสื่อมวลชน ทำให้เป็นข่าวใหญ่โต

และเข้าทางฝ่ายรัฐบาลและกลุ่ม “นักร้อง” (เรียน) ในทันที

เมื่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประสานเสียงว่าอาจเข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมืองจากบุคคลภายนอก

มีความผิดตามมาตรา 92(4) ของกฎหมายพรรคการเมือง

โทษถึงยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารเป็นเวลา 10 ปีด้วย

จึงจะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาในเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนการยุบพรรคต่อไป

 

ในกรณีนี้แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย จะบอกว่า ไม่น่าจะเข้าข่ายครอบงำ

“ผมเข้าใจว่าเป็นการสนทนา ปราศรัย พูดจากันธรรมดา ในที่สาธารณะใครๆ ก็ทำได้ ไม่น่าจะถึงขั้นนำมาเป็นหลักฐานในการจะยุบพรรค แต่ถ้าเมื่อไหร่ไปเริ่มดำเนินการกันในพรรคจึงจะเข้าข่าย แต่ที่ที่เขาคุยกันอยู่นั้นไม่ใช่พรรค เป็นที่สาธารณะ” นายวิษณุกล่าว

แต่กระนั้น ก็ไม่ใช่เครื่องการันตีว่า ประเด็นนี้จะไร้ปัญหา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยสามารถรุกจนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมือง

ฝ่ายที่กุมอำนาจอยู่ในปัจจุบัน ก็อาจมี “ไม้เด็ด” หรือ “มหัศจรรย์แห่งกฎหมาย” มาเป็นตัวช่วยสกัด

ที่อาจทำให้นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยเผชิญชะตากรรม ถูกยุบพรรคและตัดสิทธิอย่างที่เคยเกิดก็ได้

นี่จึงเป็นเกมที่เราอาจจะได้เห็น

โดยหากนายทักษิณยังรุกเป็น “เบบี้บอมบ์เมอร์” เข้าใส่เพื่อนร่วมเจนที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไม่หยุดยั้ง

ก็ย่อมต้องเจอการตอบโต้กลับอย่างร้อนแรงเช่นกัน