เผยแพร่ |
---|
การเป็นคุณพ่อคุณแม่ในยุคโควิด-19 แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง คือ เรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยต่าง ๆ แม้อยู่ที่บ้านก็ต้องสวมใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ และเลี่ยงการพบปะคนนอกครอบครัว รวมถึงแยกการใช้ของร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนในบ้านจะปลอดจากเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัส
แต่บางครอบครัวก็อาจจะเป็นกังวลได้ เนื่องจากลูกหลานยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะในวันที่ 1 พ.ย.64 ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันเปิดภาคเรียนที่ 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานพยาบาลเอกชนแห่งใหม่ ที่ครบครันทั้งด้านการแพทย์ การพยาบาล และการบริการอย่างประทับใจ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 เม.ย.64 ในวันนี้มีข้อมูลดี ๆ และสารประโยชน์มาฝากผู้ปกครองทุกท่านอีกเช่นเคย
พญ.เพ็ญรวี ขาวสำลี กุมารแพทย์ ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณพ่อคุณแม่ในจ.ศรีสะเกษ ให้คำแนะนำว่า “การใช้ชีวิตของเด็ก ๆ ที่โรงเรียน ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมต่าง ๆ อาจจะขาดความรอบครอบในการดูแลตัวเอง โอกาสที่จะได้รับเชื้อและแพร่กระจายในกลุ่มเด็กก็มีมากขึ้น
โดยจากสถิติพบว่าเด็กไทยติดเชื้อร้อยละ 13.05 ของผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ และพบอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 0.01 ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำให้เด็กและวัยรุ่นที่มีความเสี่ยง จำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19
นอกจากนี้ เพื่อคลายความสงสัยของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งอาจจะรู้สึกกังวลต่อประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของวัคซีน หมอจะมาให้ข้อมูลสั้น ๆ เกี่ยวกับวัคซีนที่นำมาใช้ในปัจจุบัน จำนวน 3 ชนิด ดังต่อไปนี้
- วัคซีนเชื้อตาย (Inactivated Vaccine) ได้แก่ วัคซีนของบริษัทซิโนแวค และชิโนฟาร์ม
- วัคซีนชนิดไวรัสเวคเตอร์ (Viral Vector Based Vaccine) ได้แก่ วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และสปุตนิก
- วัคซีนชนิด mRNA (mRNA Based Vaccine) ได้แก่ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
ในปัจจุบันมีเพียงวัคซีนชนิด mRNA ทั้งของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา เท่านั้นที่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพในการป้องกันโรคและความปลอดภัยในเด็กและได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนโดยองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย รวมถึงมีคำแนะนำจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ให้ใช้ในเด็ก อายุตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไปได้
สำหรับผลข้างเคียงของวัคซีน mRNA พบว่าในเด็กและวัยรุ่นมีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงมีเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง และหายภายใน 1-2 วัน ได้แก่ เจ็บในตำแหน่งที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และมักพบหลังการฉีดเข็มที่ 2 รวมทั้งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ดี มีข้อมูลพบว่าในเด็กชายช่วงอายุระหว่าง 12-17 ปี มีรายงานการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ประมาณ 60 ราย จาก 1,000,000 โดส ขณะที่เด็กหญิงช่วงอายุเดียวกันจะพบได้น้อยกว่ามาก ประมาณ 10 ราย ซึ่งเมื่อเข้ารับการรักษาทุกคนล้วนหายกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติดี
ส่วนข้อมูลวัคซีนเชื้อตายนั้นยังอยู่ในระหว่างการศึกษาในต่างประเทศ และรอพิจารณาขึ้นทะเบียนโดยองค์การอาหารและยาไทย คงต้องรอติดตามข้อมูลต่อไป
ดังนั้น ด้วยความห่วงใยจากทีมแพทย์โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ เพื่อป้องกันเด็ก ๆ ในวัยเรียน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ครอบครัวและโรงเรียนควรมีแนวทางเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการเน้นย้ำให้ความรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19 และความสำคัญต่อการสวมหน้ากากอนามัย หรือผ้าปิดปาก การเว้นระยะห่าง ล้างมือสม่ำเสมอ รวมไปถึงผู้ปกครองและคุณครูจะต้องทำเป็นตัวอย่างให้เด็ก ๆ เกิดความเข้าใจ และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตัวเป็นอย่างดี”
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามข่าวสารของโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ พูดคุยกับคุณหมอได้ที่ เฟซบุ้กแฟนเพจ “แม่และเด็กโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ” และ “โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ” LINE OA @pssk (มี @ข้างหน้า) หรือโทร 045-968-888