ฝรั่งเศสพักงานบุคลากรการแพทย์ 3,000 คน หลังฉีดวัคซีนโควิดไม่ทันเส้นตาย

วันที่ 16 ก.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า บุคลากรการแพทย์ในฝรั่งเศสราว 3,000 คน ถูกระงับการปฏิบัติงาน หลังไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ตามข้อกำหนดโดยรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. และเส้นตายเพิ่งสิ้นสุดไปวันที่ 15 ก.ย.

นายโอลิเวียร์ เวร็อง รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุแอร์เตแอ็ฟว่า บุคลากรสาธารณสุขนับสิบคนยื่นจดหมายลาออกเนื่องจากข้อกำหนดดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรสนับสนุน แต่ไม่มี “ความโกลาหล” ใดๆ และเสริมว่า บุคลากรจำนวนมากที่ถูกระงับการปฏิบัติงานเป็นเพียงการชั่วคราว

“หลายคนตัดสินใจได้รับวัคซีน เนื่องจากเห็นว่าภาระผูกพันนั้นเป็นความจริง สิ่งสำคัญที่สุดคือว่า ทุกคนที่ติดต่อกับคนฝรั่งเศสที่เปราะบางหรือสูงอายุเป็นผู้ได้รับการฉีดวัคซีน” นายเวร็องกล่าว

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศว่า บุคลากรสาธารณสุขทั้งหมด รวมถึงผู้อยู่ในโรงพยาบาล สถานพยาบาล และบ้านพักคนชรา และพยาบาลประจำบ้าน ต้องได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนเพื่อป้องกันโควิด-19 มิฉะนั้น อาจถูกระงับการปฏิบัติงานหรือไล่ออกหลังเส้นตาย ในปัจจุบันมีบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศราว 2.7 ล้านคน

AP

ความเคลื่อนไหวของนายมาครงเป็นส่วนหนึ่งของชุดมาตรการเพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนหลังอัตราการฉีดวัคซีนชะลอตัวลงในช่วงฤดูร้อน

ตั้งแต่เดือนส.ค. ผู้ใหญ่ทุกคนที่ไม่มีบัตรสุขภาพที่แสดงสถานะการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจโควิดเป็นลบ ไม่สามารถเข้าร้านเหล้าและร้านกาแฟ หรือเดินทางไกลด้วยรถไฟ

จนถึงตอนนี้ ประชากรเกือบ 2 ใน 3 ของฝรั่งเศสได้รับวัคซีนครบถ้วน โดยอีกร้อยละ 10 ได้รับวัคซีนเพียง 1 โดส ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 7 วันของประเทศ ลดลงเมื่อวันพุธที่ 15 ก.ย. ต่ำกว่า 100 คน ต่อประชากร 100,000 คน เป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.