สำนักพุทธฯ ไม่วิเคราะห์แทนปชช. 2 พส.ไลฟ์เฟซฯ ชี้เจ้าอาวาสมีหน้าที่เตือนได้ถ้าไม่เหมาะ

พศ.ไม่ตัดสินแทนปชช. กรณี 2 พส.ไลฟ์สด ชี้เป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสหากไม่เหมาะสม ตักเตือนได้

วันที่ 5 กันยายน 2564 นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. เปิดเผยกรณีพระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก มีผู้รับชมพร้อมกันสูงถึงกว่า 2 แสนคน ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ว่า การพิจารณาถึงความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมนั้น จะเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ หรือเจ้าอาวาส ที่เป็นผู้บังคับบัญชาขั้นต้นของพระทั้ง 2 รูป โดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ได้บัญญัติไว้ชัดเจนในมาตรา 38 ว่า เจ้าอาวาสมีหน้าที่อบรมบ่มนิสัยบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้ตั้งอยู่บนความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา และหากบรรพชิตและคฤหัสถ์ไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสสามารถขับไปเสียจากวัดได้

นายสิปป์บวร กล่าวต่อว่า แม้หลายคนจะเห็นว่าการแสดงธรรมเช่นนี้เป็นวิธีการใหม่ รูปแบบใหม่ เป็นนวัตกรรมหนึ่งในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาออกสู่สังคม มองว่าการเผยแผ่พระพุทธศาสนาถือเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว เพราะสังคมเราต้องการให้พระนำหลักธรรมคำสอนสู่สังคมเพื่อให้ทุกคนมีหลักธรรมประจำใจในการดำรงชีวติไม่ให้เกิดความผิดพลาดและสร้างความเดือนร้อนต่อสังคม แต่สิ่งสำคัญในความเป็นพระภิกษุสงฆ์คือ ความสำรวมในความเป็นสงฆ์ ซึ่งตนเชื่อเข้าประชาชนสามารถพิจารณาได้เองว่าพระทั้ง 2 รูป ที่เผยแผ่พุทธศาสนาผ่านไลฟ์สดนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่

“โดยส่วนตัวจะไม่ไปวิเคราะห์แทนพี่น้องประชาชน เพราะเชื่อว่าประชาชน มีองค์ความรู้ มีความคิดเป็นของตนเอง สามารถวินิจฉัย พินิจพิเคราะห์ได้เองว่า การแสดงลักษณะนี้อยู่ในความสำรวมของสงฆ์หรือไม่”นายสิปป์บวร กล่าว