ศึกซักฟอกรัฐบาล : ‘สมพงษ์’ กล่าวเปิดอภิปราย ชี้ “ประยุทธ์” ผู้นำค้าความตาย

เริ่มแล้วศึกซักฟอก สมพงษ์ กล่าวหา ประยุทธ์ ผู้นำค้าความตาย โอหังคลั่งอำนาจ ไพบูลย์เงิบ! ชวน เบรกประท้วงถี่ ครูมานิตย์ลั่นไม่ให้ค่าผู้ประท้วงนี้อยู่แล้ว

วันที่ 31 ส.ค. 2564 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล แต่ยังไม่สามารถเปิดประชุมได้ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ

กระทั่งเวลา 09.40 น. องค์ประชุมมีเพียง 222 คนเท่านั้น ทำให้นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พูดออกไมค์ว่า ขณะนี้เลยมา 40 นาที แต่ยังเปิดประชุมไม่ได้ เพราะฝ่ายค้านยังไม่พร้อม ตนขอเสนอให้เลื่อนญัตตินี้ไปอภิปรายในสมัยประชุมหน้าเลย

ต่อมาเวลา 09.45 น. องค์ประชุมครบที่ 243 คน การประชุมจึงได้เริ่มขึ้น โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้อ่านญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรแบบรายบุคคล รัฐมนตรีรวม 6 คน แต่การเริ่มอภิปรายนั้น นายสมพงษ์ พูดผิด โดยเรียกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น พล.อ.ประยุทธ์ ยงใจยุทธ ถึง 2 ครั้ง

ก่อนจะเนื้อหาญัตติในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า เป็นบุคคลที่ไร้ความรู้ ไร้ความสามารถ ทำให้การบริหารประเทศล้มเหลว ผิดพลาดทุกเรื่อง โดยเฉพาะการระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนติดเชื้อจำนวนมาก ประชาชนตายคาถนน ตายในรถ ตายยกครัว ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ รัฐบาลออกมาตรการครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ งบประมาณหมดไปกับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ หนี้สาธารณะชนเพดาน เอสเอ็มอี เลิกกิจการจำนวนมาก

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤต พล.อ.ประยุทธ์ มีพฤติการณ์ฉ้อฉลหลายเรื่อง เช่น การจัดซื้อวัคซีน อ้างว่ามีวัคซีนในพระปรมาภิไธย มาฉีดให้ประชาชน เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบัน และทำให้ยุทธศาสตร์จัดหาวัคซีนผิดพลาด

อีกทั้ง ปล่อยปละละเลยให้ทุจริต แสวงหาผลประโยชน์ของนักการเมืองและข้าราชการอย่างกว้างขวาง ทั้งการทุจริตจัดหาและจองวัคซีนล่วงหน้า การเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมายการจัดซื้อจัดจ้าง การทุจริตกระจายวัคซีนโดยเลือกปฏิบัติ แม้โรงพยาบาลเอกชนจะช่วยจัดหาทางเลือกให้ประชาชน แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับดำเนินการล่าช้า ขาดความจริงใจพฤติการณ์ พล.อ.ประยุทธ์มีลักษณะ “ค้าความตาย”

นายสมพงษ์ กล่าวว่า การที่ประชาชนติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก เป็นผลโดยตรงจากความไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่สนใจชีวิตสุขภาพประชาชน การแสวงหาประโยชน์บนความเดือดร้อนประชาชน ไม่ยึดประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ใจดำทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน จากความโอหังและการเสพติดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้อยู่ในสภาพของคนเป็นโรคโอหังคลั่งอำนาจ ไม่อยู่ในภาวะที่จะเป็นผู้นำประเทศได้อีกต่อไป

หากปล่อยให้บริหารประเทศต่อไป ประชาชนติดเชื้อและเสียชีวิตมากยิ่งขึ้น จนไม่สามารถหาสถานที่ฌาปนกิจได้ทัน ไม่มีหนทางหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ บ้านเมืองจะไร้ความสงบสุขร่มเย็น นำมาซึ่งความหายนะของประเทศ ตามที่กล่าวกันว่า ผู้นำโง่ เราจะตายกันหมด เพราะคนโง่คือภัยอันตรายร้ายแรง เมื่อได้กลายเป็นผู้มีอำนาจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายของนายสมพงษ์ ถูกนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงเป็นระยะๆ ว่าใส่ความ ขัดข้อบังคับ แต่นายชวนยังยืนยัน เป็นไปตามข้อบังคับ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นระบุว่า “ผมไม่ให้ค่าผู้ประท้วงนี้อยู่แล้ว”