การ์ตูนที่รัก : ONE PIECE เล่ม 33 ถึง 44 คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

 

ONE PIECE เล่ม 33 ถึง 44

คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

 

จากเล่ม 33-44 ลูฟี่จะพาเราเข้าใกล้รัฐบาลโลกมากยิ่งขึ้น

อุ่นเครื่องด้วยการเล่นเกมเดวี่แบ็กไฟต์กับกลุ่มโจรสลัดฟ็อกซี่ตามธรรมเนียมโจรสลัดที่ผู้ชนะสามารถขอตัวลูกเรือจากฝ่ายตรงข้ามไปได้ และลูกเรือที่ถูกขอไปจะต้องสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเรือลำใหม่

เกมแรกพวกลูฟี่แพ้ ฟ็อกซี่ขอตัวช็อปเปอร์กวางเรนเดียร์พูดได้ไป ช็อปเปอร์ร้องห่มร้องไห้ “ฉันไม่อยากอยู่กับพวกนี้ ฉันออกสู่ทะเลเพราะต้องการอยู่กับทุกคน เพราะลูฟี่ชวนฉันฉันถึงยอมออกสู่ทะเลนะ”

แต่โซโลพูดว่า “เลิกพล่ามได้แล้ว แกเป็นคนตัดสินใจออกสู่ทะเลเอง ไม่ว่าแกจะต้องตายที่ไหนอย่างไร แกก็ต้องรับผิดชอบมันเอง จะไปโทษใครอื่นไม่ได้”

ตรงนี้เป็นจิตวิทยาเล็กๆ ที่อยากเน้นย้ำ คนเราเมื่อตัดสินใจทำอะไรลงไป แม้ว่าจะเป็นผู้อื่นชักชวนหรือยุยง นาทีสุดท้ายคนตัดสินใจก็คือเรา เราจึงเป็นผู้รับผิดรับชอบโดยตรง คือ accountability จะมามัวโทษคนอื่นถือว่าใช้ไม่ได้ หลายคนจะติดขัดอยู่ที่ตรงนี้ ทั้งไม่รับผิดรับชอบและโทษคนอื่นอยู่เสมอๆ

ทักษะชีวิตที่ดีกว่าคือยืดอกรับแล้วพัฒนาต่อไป

เมื่อลูฟี่ปะทะฟ็อกซี่ในเกมสุดท้าย เขาถูกทุบลงไปกองนับครั้งไม่ถ้วนแต่เป็นไปตามขนบการ์ตูนญี่ปุ่นที่ตัวเอกลุกขึ้นได้ด้วยความมุ่งมั่นขั้นสูงสุดเสมอ “แม้จะล้มลงไปกี่ครั้งก็ตาม เขาก็ยังยืนยันลุกขึ้น” เรียกเสียงเชียร์รอบสนามจากทั้งสองฝ่าย

จะว่าไปแล้วการ์ตูนกลุ่มนี้โม้ไปได้เรื่อยๆ ว่าพระเอกของเราเก่ง พวกเขาก็จะโม้ไปเรื่อยๆ โดยไม่เกรงใจคนอ่านจริงๆ ไม่เพียงทำจนคู่ต่อสู้ยอมแพ้แต่เอาจนคนอ่านยอมแพ้และเข้าใจว่าความมุ่งมั่นคืออะไร ไปจนถึง “แรงจูงใจ” คืออะไร

ที่อยากเพิ่มเติมคือ แรงจูงใจ หรือ motivation อย่างเดียวไม่พอ คนเราต้องการ volition ด้วย คือความปรารถนาและการตัดสินใจที่เกิดจากตนเองจริงๆ มิใช่คนอื่นมามอบให้

เหมือนลูฟี่ที่ปรารถนาจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดตั้งแต่แรกโดยมิได้มีใครมาขอ เขาจึงมีทั้งสองอย่างนั่นคือ motivation & volition โดยที่ต้องสามารถรักษาระดับของทั้งสองอย่างได้นานพอจนกว่าจะถึงเป้าหมาย

ฟ็อกซี่ใช้ลำแสงเอื่อยเฉื่อยสะกดให้อากัปกิริยาของลูฟี่เชื่องช้าเอื่อยเฉื่อย ลูฟี่จึงถูกถลุงอยู่ฝ่ายเดียว อ่านถึงตรงนี้จะพบคำศัพท์ “เอื่อยเฉื่อย” สลับกับคำศัพท์ “ไม่มีแรง” หลายครั้ง

ชวนให้อยากเติมความรู้ความเข้าใจเรื่องผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ตรงนี้

ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีอาการทั้งสองอย่าง คือ “เฉื่อยชา” และ “อ่อนเพลีย” (retardation & fatigue) อาการทั้งสองอย่างถูกเรียกด้วยคำศัพท์ภาษาไทยอีกหลากหลาย เช่น เชื่องช้า หรือเหนื่อยง่าย มากยิ่งขึ้นคือ เอาแต่นอน หรือขี้เกียจ เป็นเรื่องที่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่สามารถอธิบายให้คนรอบข้างคือพ่อแม่หรือคนรักเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเขามิได้ขี้เกียจแต่เขาเฉื่อยชาและอ่อนเพลียจริง มิได้แกล้งและไม่อยากจะเป็น

บางคน กล้ามเนื้อของเขาอ่อนแรงลงจริงๆ เชื่อยากใช่ไหมครับ ก็น่าเห็นใจคนรอบข้างเพราะจะไม่มีใครเชื่อจนกว่าจะเกิดแก่ตนเอง

 

ลูฟี่เอาชนะฟ็อกซี่ได้แล้วเดินทางต่อไปเพื่อหาช่างเรือมีฝีมือซ่อมเรือโกอิ้งแมรี่ที่รับใช้พวกเขามานาน

พวกเขาเดินทางมาถึงเกาะวอเตอร์เซเว่น ช่างทำเรือแจ้งว่าเรือโกอิ้งแมรี่ซ่อมมิได้อีกแล้วจำเป็นต้องปลดระวาง

อุซบอย่างเว่อร์ไม่ยินยอมทอดทิ้งโกอิ้งแมรี่ เว่อร์มากเสียจนทะเลาะและลงไม้ลงมือกับลูฟี่อย่างรุนแรงแล้วตัดมิตรขอแยกทางเดิน

ในขณะเดียวกัน สาวงามนิโคโรบินก็หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมข้อกล่าวร้ายความชั่วช้าของนางอย่างฉกาจฉกรรจ์

บัดนี้พวกเขาเหลือ 5 คน คือ ลูฟี่ โซโล ซันจิ นามิ และช็อปเปอร์

ลูฟี่ทิ้งอุซบง่ายๆ แต่ไม่ยอมให้โรบินหายตัวไปง่ายๆ เธอถูกกล่าวหาว่าตั้งใจหาวิธีอ่านอักขระโบราณเพื่อที่จะปลุกอาวุธที่ทรงพลานุภาพที่สุดในโลกขึ้นมา โจทย์ครั้งนี้พาลูฟี่และพวกเข้าไปอยู่ตรงกลางศึกสามด้าน

พวกหนึ่งคือบริษัทต่อเรือกาเลราคอมปานี ซึ่งมีไอซ์เบิร์กเป็นผู้จัดการ

พวกที่สองคือนักแยกชิ้นส่วนเรือ ที่มีไซบอร์กแฟรงกี้เป็นหัวหน้าแก๊ง

พวกที่สามคือกองทัพเรือและสายลับของรัฐบาลโลก ที่ได้รับคำสั่งเอาตัวโรบินมาให้ได้ไม่ว่าต้องจ่ายเท่าไรก็ตาม

หมายถึงไม่ว่าจะมีใครต้องตายหรือตายหมดทั้งเกาะก็ตาม

 

ชื่อจริงของแฟรงกี้คือคาติฟูแลม เขาและไอซ์เบิร์กเป็นลูกศิษย์ของช่างต่อเรือในตำนานชื่อ ทอม เรื่องราวของทอมกินเนื้อที่อีกหลายสิบหน้าอย่างน่ากินใจ เขาไม่เพียงได้สร้างทางรถไฟข้ามทะเลเพื่อเชื่อมเศรษฐกิจของเกาะต่างๆ ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ แต่ยังหาญกล้าขัดใจรัฐบาลโลกเรื่องแบบแปลนเรือรบที่อันตรายที่สุดในโลกด้วย

ทอมถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิตโดยผู้พิพากษาสูงสุดของรัฐ เรื่องราวครั้งนั้นและความผิดพลาดของแฟรงกี้ทำให้ไอซ์เบิร์กและแฟรงกี้แตกคอกันตั้งแต่นั้นมาและไม่เผาผีกันในวันนี้

โดยไม่มีใครรู้ว่าทอมได้ฝากความลับยิ่งใหญ่เอาไว้แก่ลูกศิษย์ทั้งสอง

เป็นรัฐบาลที่ชอบสะสมอาวุธ ไม่ชอบสร้างทางรถไฟเชื่อมภูมิภาค แล้วใช้ศาลกำจัดคนเห็นต่าง มีปรากฏในหนังสือการ์ตูนวันพีซเรื่องนี้

มิใช่เรื่องจริง

 

สมุนของไอซ์เบิร์กเองที่เป็นสายลับรัฐบาล พวกเขาสังกัดหน่วย CP ซึ่งมีสแปนดัมจอมวายร้ายเป็นหัวหน้า พวกมันแฝงตัวเข้ามาเป็นช่างต่อเรือที่ไว้ใจได้แล้วขยับขึ้นมารายรอบไอซ์เบิร์กโดยไอซ์เบิร์กไม่รู้ตัว

เป็นเวลาหลายปีที่พวก CP พยายามตามหาแบบแปลนเรือรบมฤตยูนั้นแต่ก็หาไม่พบ ไม่นับว่าคนคนเดียวที่จะอ่านอักขระโบราณของแบบแปลนออกคือเด็กหญิงนิโคโรบินที่หายตัวไปนานแล้ว

การปรากฏตัวของโรบินและพวกลูฟี่ทำให้สมดุลของเกาะพังทลาย โดยที่ไอซ์เบิร์กและแฟรงกี้มีทีท่าว่าน่าจะไม่รอดชีวิตในครั้งนี้

โรบินถูกสแปนดัมรวบตัวเพื่อพาไปพบผู้พิพากษาสามหัวบนเกาะแห่งคำพิพากษาสูงสุดที่ซึ่งมีบัลลังก์และประตูพิพากษาตั้งตระหง่านอย่างน่าเกรงขาม เป็นเวลาที่นักอ่านได้ทบทวนประวัติน่ารันทดของโรบินที่สูญเสียแม่ให้แก่ผู้ปกครองชั่วร้ายคล้ายกันกับที่นามิประสบ

เรื่องราวถูกกดดันซ้ำลงไปอีกด้วยการมาถึงของอะควอลากูนา คือคลื่นยักษ์ที่จะกระหน่ำทั่วเกาะวอเตอร์เซเว่นและบริเวณใกล้เคียงในเวลาไม่นาน

ในขณะเดียวกันกองทัพเรือซึ่งมีเป้าหมายปราบขบถและโจรสลัดให้สิ้นเดินทางมาถึง ดูเหมือนลูฟี่ต้องสูญเสียโรบินแน่นอนแล้ว ส่วนรัฐบาลโลกจะได้ครอบครองอาวุธมหากาฬนั้นในที่สุด

 

กองทัพเรือในการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเครื่องมือที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัฐบาลโลกซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย

กองทัพเรือมีอาวุธทำลายล้างทั้งหมู่เกาะที่เรียกว่าบัสเตอร์คอล

ทำไมทหารจึงสั่งทำลายประชาชนทั้งหมู่เกาะได้ลงคอ คำอธิบายทางจิตวิทยาคือเพราะเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

รัฐบาลโลกตามท้องเรื่องเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นไปตามการทดลองลือชื่อของมิลแกรม (Milgram experiment 1963) และเป็นคำอธิบายว่าเพราะอะไรตำรวจและทหารของรัฐเผด็จการใดๆ จึงทำตามคำสั่งแม้ว่าคำสั่งนั้นจะไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

แต่แล้วแผนการทั้งหมดของสแปนดัมล้มครืนด้วยเหตุผลเดียวคือลูฟี่ไม่ทอดทิ้งเพื่อน

ดังนั้น ลูฟี่จึงสู้ไม่ถอยเพื่อเอาตัวโรบินคืนมา มิวายจะถูกโรบินด่าทอ ถูกอุซบทอดทิ้ง พรรคพวกแตกไปคนละทางเพราะแผนการชั่วร้ายของ CP ไอซ์เบิร์กและแฟรงกี้เสียท่าไปแล้ว แต่ลูฟี่เอาชนะสแปนดัมและสายลับมหากาฬของมันได้ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมลดลงเลยแม้แต่น้อย คือ motivation & volition

จารึกอักขระโบราณที่นิโคโรบินอ่านได้เป็นสิ่งที่ชนรุ่นก่อนตั้งใจทำทิ้งไว้ให้แก่ชนรุ่นหลัง เป็นคำจารึกที่ไม่สามารถทำลายได้ด้วยวิธีใดๆ จารึกนั้นถือกำเนิดพร้อมรัฐบาลโลกเมื่อ 800 ปีก่อน ที่แท้แล้วผู้สร้างและจารึกเรื่องราวเอาไว้ตั้งใจส่งต่อข่าวสารสำคัญที่รัฐบาลโลกจะลบล้างมันออกไม่ได้

ให้คนรุ่นหลังรู้ว่ารัฐบาลได้กระทำอะไรกับประชาชนเอาไว้บ้าง

หลังจากนี้ลูฟี่และพรรคพวกจะได้ผจญภัยแดนซอมบี้ สู้กันอีนุงตุงนังไปอีกหลายเล่มมากจนถึงจบตอนได้โครงกระดูกเดินได้ บรู๊ค มาร่วมขบวนการอีก 1 คน