‘อานนท์’ ซัด รบ. อย่าเคลมผลงานไฟเซอร์ ยันจบใน ส.ค. สุกงอมสุด ทุกองคาพยพ ‘ส่ายหัวให้ประยุทธ์’

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การนัดหมายชุมนุมคาร์ม็อบ นำโดยกลุ่มราษฎร แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งกำหนดตั้งขบวนเวลา 10.30 น. ก่อนปราศรัย และเคลื่อนพลไปร่วมคาร์ม็อบใหญ่ “สมบัติทัวร์” ที่นำโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่ถนนวิภาวดี-รังสิต เพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเรียกร้องรัฐบาลใหม่ที่มาจากประชาชน ตามวิถีทางประชาธิปไตย

เวลา 11.35 น. นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวปราศรัย บนรถโมบายตอนหนึ่งว่า

สถานการณ์ถึงจุดสุกงอมที่สุดแล้ว ไม่เกินสิ้นเดือนสิงหาคม ประยุทธ์ออกไปแน่ ถนนทุกสายจะมุ่งสู่ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อนำพาประเทศนี้ผ่านวิกฤตไปได้ ประยุทธ์อยู่ไม่มีทางหาย จะเลี้ยงโควิดไม่ให้ม็อบเกิด ตอนนี้ทุกองคาพยพ ไม่ว่าจะเสื้อแดง เหลือง หรือ กปปส. หรือแม้แต่ชนชั้นนำไทย ทุกคนส่ายหัวให้กับประยุทธ์แล้ว เพราะเล็งเห็นว่าประยุทธ์คือต้นตอปัญหา ประยุทธ์ไม่ออก ไม่ต้องไปพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปสถาบัน ดังนั้น เป้าหมายแรกที่เราต้องทำให้ได้ คือไล่ประยุทธ์ออกไป ต้องชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริงของประเทศนี้ หากไม่ดำเนินนโยบายผิดพลาด สถานการณ์ไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้ ไม่มีทางแทงม้าตัวเดียว ให้เราไปฉีดวัคซีนด้อยคุณภาพ

“แล้วขอร้อง อย่าเสนอหน้ามาแย่งซีน ให้ประชาชนเลือกเอง วัคซีนที่มีคุณภาพ พวกเราจะเลือกเอง วันนี้ทุกคนที่ออกมาชุมนุม ทั้งคาร์ม็อบ มอไซค์ หรือเดินเท้า วันนี้ทุกคนเอาชีวิตมาเดิมพัน เพราะเราเสี่ยงโควิด พอๆ กับนอนอยู่บ้าน ต่อแถวเข้าธนาคาร ถ้าเราไม่ออกมาวันนี้ พวกเรามีโอกาสตายกันทุกคน ถ้าไม่มีการจัดหาด้วยรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ บ้านเมืองเราไม่มีทางรอด พี่ ป้า น้า อา ออกมาสู้เพื่อลูกหลาน ลูกหลานก็ต้องออกมาสู้ด้วยเหมือนกัน

พวกที่ประณามว่าเราด้อยค่าวัคซีน ขอพูดหยาบๆ ไปต่อแถวฉีดซิโนแวค ไม่ใช่ไปแย่งหมอเขา การเอาไฟเซอร์เข้ามา ไม่ใช่ผลงานรัฐบาล แต่เกิดจากการเรียกร้องของพวกเรา อีกกลุ่มที่น่าสงสาร คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดนรัฐบาลหลอกใช้ ถามหน่อยได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์หรือไม่ ดังนั้น ถ้าได้ยินเสียงผม ทำหน้าที่ไป แต่สำนึกไว้ว่า รัฐบาลไม่ได้สำนึก ส่งพวกท่านมาตายแทนพวกเขา” นายอานนท์กล่าว และว่า

วันนี้เราเดิมพันด้วยชีวิต ถ้าไม่สู้ก็ตายจริงๆ ตายอย่างหมา ตายอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ตายอยู่ข้างถนน โดยไม่มีใครเหลียวแล นายกฯต้องมาจากประชาชน

“ลงจากตำแหน่งเมื่อไหร่ คุกคือบ้านสุดท้ายของประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าไม่ได้มาจากประชาชน เปลี่ยนนายกฯกี่คนก็จะเป็นแบบนี้ และต้องคิด ต้องเก็บไปฝันด้วยว่าต้องยึดสันติวิธี อย่าไปหลงกล ให้เราเป็นฝ่ายเริ่มต้น ยึดมั่นสันติวิธีให้ถึงที่สุด และอย่าไปหลงกลสันติวิธีแบบไทยๆ นั่งพับเพียบให้ตำรวจเอากระบองตีหัว แต่คือการทำทุกวิธีให้รัฐบาลเกิดความไม่สบายใจ กดดัน โดยไม่ทำร้ายใคร ไม่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ คือการดื้อแพ่ง สละตนเองด้วยการทำผิดกฎหมายเล็กๆ น้อย เพื่อให้เห็นความอยุติธรรมที่อยู่เหนือกฎหมาย” นายอานนท์กล่าว

โดยประชาชนปรบมือให้กับผู้ที่เสียสละ จากการดื้อแพ่งและปรบมือให้ประชาชนที่พร้อมจะเดินเคียงข้าง

“เรียนรู้การต่อสู้ไปด้วยกัน ต่อไปนี้ นั่งพับเพียบ กินหมูกระทะ ไม่มี ยกเพดานขึ้นสูง อะไรที่ไม่เคยเห็น จะเกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร และอะไรที่เคยมี จะไม่มีให้ได้เห็นอีกต่อไป อย่ามาทำร้ายเราก่อนก็แล้วกัน”