มุมมองโหรวสุ มีเกณฑ์ยุบสภา เปลี่ยนตัวนายกฯ สิ้นปี โควิดมีอีกระลอกปีหน้า ปลายปี 2565 อาจเปลี่ยนขั้วรัฐบาล!/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

พิชญ์เดช แสงแก่นเพ็ชร์

 

มุมมองโหรวสุ

มีเกณฑ์ยุบสภา เปลี่ยนตัวนายกฯ สิ้นปี

โควิดมีอีกระลอกปีหน้า

ปลายปี 2565 อาจเปลี่ยนขั้วรัฐบาล!

 

โหรวสุ หรือวสุวัส คำหอมกุล โหราศาสตร์ชื่อดังที่หลายคนสนใจในคำทำนายของเขา หลายสิ่งเกิดขึ้นจริงตั้งแต่ปี 2563 มาจนถึงสถานการณ์ในปีนี้

มติชนสุดสัปหาห์ จะชวนไปมอง “สถานการณ์บ้านเมือง”

นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในประเทศนี้

 

: โควิดกับประยุทธ์อะไรจะไปก่อนกัน?

จะเรียกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปก่อนก็ได้ แต่จะไปแบบที่ว่าอาจจะยุบสภาแล้วมีเลือกตั้งใหม่ แต่ว่าประยุทธ์ไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก โดยที่กลุ่มที่เป็นรัฐบาล-จัดตั้งรัฐบาลยังคงเป็นขั้วอำนาจเดิม ยังคงมีอำนาจอยู่ นั่นคือกลุ่มของพรรคพลังประชารัฐ แต่อาจจะเปลี่ยนนายกฯ เป็นคนอื่น ที่อาจจะพอมีบารมีและทำให้คนร้องยี้น้อยกว่า พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นมาแทน เพื่อรักษาหน้าตัวเองแค่นั้น

สำหรับการเลือกตั้งใหม่ในครั้งถัดไป น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ไปจนถึงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 เป็นช่วงรอยต่อปีนี้ถึงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม ต้องระวังอย่างหนึ่งในดวงเมืองช่วงนั้น มันเหมือนดวงเมืองในอดีตช่วงหนึ่ง ที่มีการเลือกตั้งแล้วแต่ผลเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ก็อาจจะมีการรัฐประหารอีกครั้ง อาจจะมองเป็น “การรัฐประหารตัวเอง” ก็ได้

แต่จากที่ดูตอนนี้ “การยุบสภา” เป็นไปได้มากที่สุด ส่วนการรัฐประหารจะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้ง หากผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่ฝั่งผู้มีอำนาจต้องการ

รัฐประหารนี้ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ หรืออาจจะตั้งคณะรัฐประหารขึ้นทำอะไรมาอีกรอบหนึ่ง มันจะออกไปในลักษณะนี้

หนทางที่มองออกในตอนนี้ เขาจะยอมเปลี่ยนแค่ตัวนายกฯ เพื่อลดแรงกดดัน ผ่านการยุบสภา

 

: ไม่มีเปลี่ยนม้ากลางศึก?

ยังไม่มีแววของการเปลี่ยนม้า ไม่มีเกณฑ์ที่จะลาออก เพราะถ้าเขาจะเปลี่ยนเขาจะต้องเปลี่ยนตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว เพราะว่ามันมีเกณฑ์ว่าจะปรับ ครม. หากปรับตอนนั้นก็คือจบ ก็จะอยู่ยาว จนกว่าจะยุบสภา

ดวงเมืองตอนนี้ต้องบอกว่ากลุ่มผู้มีอำนาจอยู่ในจุดที่ไม่ได้เสียอำนาจอะไร การที่มีปัญหาคนตายมากๆ มีปัญหาหลายๆ อย่างที่ทำให้คนไม่ทนอันเป็นผลมาจากการบริหาร แล้วมีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างหนัก รวมทั้งคนที่เคยรักเคยเชียร์รัฐบาลมาก่อนเริ่มเปลี่ยนใจไม่เชื่อ

ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะไม่โดนผลกระทบอะไร แต่ตอนนี้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น เลยต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีเปลี่ยนนายกฯ

แต่กลุ่มที่ตัดสินใจหลักๆ ของผู้มีอำนาจ จะเป็นกลุ่มขั้วเดิมอยู่

 

: การเปลี่ยนขั้วอำนาจไม่มีทางเกิดขึ้นในเร็ววัน?

อาจจะมี แต่เป็นไปได้ยาก เขาคงไม่ยอมให้เปลี่ยนได้ง่ายๆ อย่างการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยชนะอันดับที่ 1 แต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ในครั้งหน้านี้ก็เช่นเดียวกัน จะตั้งรัฐบาลก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้ายังเป็นกติกาเดิมอยู่ แล้วรัฐธรรมนูญที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนพิจารณาการแก้ไข ดูจากดวงเมืองที่เป็นอยู่แบบนี้ บอกเลยว่าที่ทำกันคือ ปาหี่

ดังนั้น ถ้ามีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ปลายปีก็ยังใช้รัฐธรรมนูญเดิมอยู่ แล้วก็จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงใดๆ การจะเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลได้ ต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่ หากยังใช้ฉบับนี้อยู่ ก็ยากจะเปลี่ยนแปลง แล้วช่วงนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีเรื่องของ covid เข้ามาทำให้องค์ประชุมไม่ครบ

รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงแก้ไม่ทันในสมัยสภานี้

 

: โควิดจะจบเมื่อไหร่?

ตามดวงเมืองที่เห็นตอนนี้คือยังไม่ใช่ตัวเลขสูงสุด มันจะเพิ่มขึ้นอีกในตอนเดือนสิงหาคม-กันยายน จะขึ้นไปสู่จุดที่พีกที่สุด คนติดเชื้อมากที่สุด การเสียชีวิตจะสูงขึ้นกว่านี้มากๆ ที่สำคัญจะมีการระบาดระลอกใหม่อีกในปีหน้า แต่ในระลอกใหม่ของปี 2565 จะไม่หนักเท่ารอบนี้แล้ว

ดังนั้น เราจะต้องอยู่กับโรคโควิดไปจนถึงเดือนมิถุยายน-กรกฎาคม 2565

ณ วันนั้น ตัวเลขคนติดเชื้อ-คนตายจะไม่ส่งผลอะไรตอระบบสาธารณสุข แล้วการท่องเที่ยวน่าจะเริ่มเป็นปกติ หรืออย่างเร็วที่สุดคือช่วงสงกรานต์ปีหน้าคือเร็วสุด ในหลายจังหวัดจะเริ่มเปิดได้

จากดวงเมืองที่ผมดูก่อนหน้านี้ก็มีทำนายเรื่องของโรคระบาดเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากจัดการของภาครัฐที่ปล่อยมาจนเป็นแบบนี้

 

: ประเทศจะเริ่มมีข่าวดี-สัญญาณบวกบ้างในช่วงไหน

หลังจากปลายปี 2565 ไปแล้วเราจะเริ่มเห็นอะไรดีขึ้น

อย่างเช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการเริ่มแก้ไขจริงจัง ถึงตอนนั้นจะมีรัฐบาลเปลี่ยนขั้ว ไม่ใช่ขั้วอำนาจชุดนี้เข้ามามีอำนาจ

แล้วบรรดา ส.ว.ที่เคยต่อต้าน ก็จะไม่มีสิทธิไม่มีเสียงต่อต้านได้ ไม่มีแรงมากดดันอะไรได้อีก เพราะทุกคนเห็นแล้วว่าการจัดการล้มเหลวของโควิด แล้วเห็นว่าการจัดการของรัฐบาลเก่าภายใต้รัฐธรรมนูญเดิมๆ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

และเมื่อถึงวันนั้นสังคมเราจะมีการเรียกร้องเปลี่ยนแปลงอะไรใหญ่ๆ แต่ไม่ถึงขั้นปฏิวัติ ซึ่งภาพรวมคือมีสัญญาณไปในทางบวกมากกว่า แต่ก็ยังมีกลุ่มนักการเมืองบางคนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไร

ประชาชนอาจจะยังกำหนดอะไรได้ไม่มากเต็มที่ จนกว่าจะรอหลังจากนั้นอีก 5-6 ปีถัดไป

 

: ดวง พล.อ.ประยุทธ์

ผมเองไม่มีเวลาเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ชัดเจน ทราบแต่วันเดือนปี ก็จะดูดวงของเขาได้ไม่เต็มที่ จะได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีเวลาเกิด และส่วนใหญ่คนที่ไม่มีเวลาเกิดมาผมก็จะไม่ค่อยรับดูอยู่แล้ว

แต่ว่าภาพรวมของดวง พล.อ.ประยุทธ์เท่าที่ผมดูตอนนี้จะเจอเรื่องหนัก โดนทั้งดาวเสาร์ ดาวจันทร์มีปัญหาหมดเลย เพราะว่าเสาร์กับจันทร์เป็นเรื่องของความนิยม ใครที่มีปัญหาตรงนี้ ทำมุมเสีย ชื่อเสียงเสื่อมเสียทันที

และผมเองย้อนดูอดีต คนที่มีดาวนี้เข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่ยุคทักษิณ ชินวัตร ในตอนปี 2549 เขาก็มีปัญหาดาวดวงนี้เข้ามา

หรือของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อตอนปี 2553 ก็มีดาวดวงนี้ ก็เละเหมือนกัน ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็โดนแบบนี้เหมือนกัน ก็มองว่าเละแล้ว ไม่มีทางจะอยู่ต่อได้ ค่อนข้างจะชัวร์

แต่การที่เขาจะอยู่ต่อได้อีก มันจะต้องมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น

 

: ยุคนี้เรียกว่ายุคกาลีกินเมืองหรือยัง?

ก็น่าจะเรียกอย่างนี้ได้แล้ว เพราะดาวพฤหัสฯ โคจรผิดปกติ จริงๆ ดวงเมืองผิดปกติตั้งแต่ปี 2563 ตอนที่ดาวเสาร์กับดาวพฤหัสบดีมาทับกันพอดีเรียงกันในราศีธนู ถ้าเกิดใครจำได้ในปีที่แล้วก็เกิดขึ้นมาแล้ว แล้วก็เกิดอีกช่วงหนึ่งตอนต้นปีเมื่อกุมภาพันธ์ จุดนี้เองเป็นจุดที่บอกว่าดวงเมืองมันเปลี่ยน เอาง่ายๆ คือใครที่ทำธุรกิจสีเทา คนไม่ดีคนที่ทำไม่ดีจะได้ดิบได้ดี เพราะว่าดวงเมืองเราไม่ดี ไม่สนใจเรื่องความถูกต้อง ใครที่มีเงินทองและมีบารมี ต่อให้ไม่ทำธุรกิจสีเทาไม่ต้องมีอำนาจอะไรบางอย่างที่ไม่ได้มาอย่างถูกต้อง ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วด้วยซ้ำ

โหรวสุทิ้งท้ายว่า ถ้าหากดวงเมืองมันดีขึ้น ดาวพฤหัสฯ ดาวเสาร์ ดาวอังคารโคจรแบบตามปกติตามที่มันควรจะเป็น มันก็จะมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจ กลุ่มขั้วเดิมก็จะเสื่อมอำนาจ คนทำผิดอยู่ได้ไม่นาน และสิ่งที่พวกเขาทำจะสร้างความเสื่อมให้ตัวเองไปเรื่อยๆ มันจะลดทอนลงไปเรื่อยๆ เหมือนสนิมเกิดแต่เนื้อในตน ค่อยๆ เสื่อมลงไปเอง

ดวงเมืองของประเทศเรา ถ้าคนไทยออกมาเรียกร้องอะไรกันเยอะๆ ทำตัวให้ตาสว่างกันจริงๆ คนที่อยู่ฝ่ายเผด็จการ พวกที่มีอำนาจอยู่ในวันนี้ คุณต้องเริ่มมองหาทางลงให้ตัวเองได้แล้ว ควรจะต้องรู้ตัวว่าควรจะต้องทำอะไร ให้ลงได้สวยๆ แต่ถ้าเกิดดันทุรังต่อ มันไม่มีทางออกครับ

มันจะจบด้วยการเปลี่ยนแปลงแบบในรูปแบบที่ไม่ดีแน่ๆ

ชมคลิป