ทุกอย่างซอฟต์ได้ด้วยอีโมจิ/Cool Tech จิตต์สุภา ฉิน

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

Cool Tech

จิตต์สุภา ฉิน

@Sue_Ching

Facebook.com/JitsupaChin

 

ทุกอย่างซอฟต์ได้ด้วยอีโมจิ

 

แป๊บๆ วันอีโมจิโลก หรือ World Emoji Day ของปีนี้ก็ผ่านพ้นไปอีกแล้ว และเป็นประจำทุกๆ ปีที่องค์กร Unicode Consortium ที่ทำหน้าที่ดูแลอีโมจิโดยตรงจะประกาศว่าปีนี้จะมีอีโมจิใหม่ๆ รูปไหนถูกเพิ่มเข้ามาบนคีย์บอร์ดให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้กันบ้าง

จะว่าไปหน้าที่การคัดเลือกอีโมจิใหม่ๆ ถึงจะดูง่ายแต่ก็ไม่น่าจะง่ายเหมือนที่คิด เพราะคณะกรรมการจะต้องพิจารณาจากข้อเสนอที่มีคนส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก

ข้อเสนออีโมจิใหม่แต่ละรูปจะต้องมาพร้อมกับคำอธิบายอีโมจิรูปนั้นๆ พร้อมเหตุผลกำกับว่าทำไมมนุษยชาติถึงจะจำเป็นต้องมีอีโมจิรูปนี้ไว้ใช้โดยที่จะต้องมีข้อมูลสนับสนุนเหตุผลที่ว่าด้วย

การจะคัดเลือกให้อีโมจิใหม่รูปไหนผ่านก็จะต้องทำตามแนวทางที่กำหนดไว้ซึ่งมีรายละเอียดยุบยับไปหมด

อย่างเช่น อีโมจิจะต้องไม่จำเพาะเจาะจงเกินไป อีโมจิจะต้องไม่สื่อถึงแบรนด์หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

อีโมจิจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับใครคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือจากไปแล้วก็ตาม และจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเทพยดาฟ้าดินใดๆ ด้วย

อีโมจิใหม่จะต้องไม่ใช่อีโมจิที่เราสามารถหยิบอีโมจิเดิมที่มีอยู่แล้วมาผสมเข้าด้วยกันเพื่อสื่อความหมายได้เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อน (เช่น เราจะไม่ได้เห็นอีโมจิรูปเด็กทารกแหกปากร้องเพราะผู้ใช้งานสามารถใช้ภาพเด็กทารกมาผสมเข้ากับภาพหน้าร้องไห้เองได้ง่ายๆ)

และอีโมจิจะต้องอยู่ต่อไปได้นานๆ ไม่ใช่เทรนด์อะไรที่มาแป๊บๆ แล้วก็ดับไป

นอกจากนี้ ก็อย่างที่เราอาจจะสังเกตเห็นกันมาแล้วก็คือการจะอนุมัติให้ใช้อีโมจิอะไรได้บ้างนั้นคณะกรรมการก็จะต้องคำนึงถึงความเท่าเทียมกันในสังคมด้วย

เรามีอีโมจิสีผิวต่างๆ ให้เลือกใช้ได้ อีโมจิคนพิการ อีโมจิกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ฯลฯ

 

สําหรับอีโมจิใหม่ของปี 2021 คณะกรรมการได้แย้มพรายออกมาประมาณ 30 แบบที่จะพร้อมให้ใช้งานกันได้ในช่วงปลายปีนี้ซึ่งก็ประกอบไปด้วยอีโมจิสีหน้าใหม่ๆ ทั้งอีโมจิเอามือปิดตาและแอบมองลอดนิ้วมือ อีโมจิหน้าละลาย อีโมจิทำวันทยหัตถ์ อีโมจิน้ำตาปริ่มดวงตา อีโมจิรังนกแบบมีไข่และไม่มีไข่ อีโมจิขบริมฝีปาก ดิสโก้บอล ไม้ช่วยพยุงเดิน ฟิล์มเอ็กซเรย์ สไลเดอร์ ถั่ว ปะการัง ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ที่ใกล้หมด ไปจนถึงอีโมจิแปลกๆ อย่างตัวโทรล หรือผู้ชายตั้งท้อง

อย่าถามเลยว่าจากลิสต์อีโมจิใหม่ทั้งหมดที่อนุมัติออกมานั้นแต่ละอันเข้าข่ายความจำเป็นสำหรับมนุษย์เราอย่างไรบ้าง เพราะฉันก็น่าจะตอบไม่ได้เหมือนกัน และนี่ก็เป็นคำถามที่ฉันต้องถามตัวเองเป็นประจำอยู่ทุกปี

ในขณะเดียวกันเพื่อเป็นการต้อนรับวันอีโมจิปีนี้ก็ได้มีการจัดอันดับอีโมจิยอดฮิตที่เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้วและได้รับความนิยมถูกนำมาใช้มากที่สุด โดยที่อันดับหนึ่งก็คือหัวใจไฟลุก ????? ตามมาด้วยใบหน้าตาหมุนวงเหมือนเวียนหัว ????? ใบหน้ายิ้มเปื้อนน้ำตา ?? ใบหน้าถอนหายใจ ????? และอีโมจิหุบนิ้วทั้งหมดมาแตะกัน ?? ซึ่งมักจะรู้จักกันในแง่ของการเป็นอีโมจิที่ใช้แทนการด่าหรือแสดงความหงุดหงิดโมโหในสไตล์ของคนอิตาลีนั่นเอง

จริงๆ ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่าทำไมอีโมจิ 5 รูปนี้ถึงขึ้นแท่นอีโมจิใหม่ยอดฮิตได้ แต่ถ้าจะให้เดาฉันก็คงจะร้อยเรียงเรื่องราวออกมาประมาณว่าสถานการณ์ไวรัสระบาดไปจนถึงการจัดการแก้ไขปัญหาที่ขลุกขลักเสียเหลือเกินก็ทำให้คนรู้สึกใจร้อนรุ่มเป็นไฟ มึนงงกับข้อมูลที่มากมายไปหมดบนอินเตอร์เน็ต แม้จะทำหน้ายิ้มสู้แต่น้ำตาก็ตกในและแอบถอนหายใจตลอดเวลา

ท้ายที่สุดก็เหลือสิ่งเดียวที่จะทำได้ก็คือด่า และด่ามันเข้าไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

 

ทว่า สิ่งที่เราไม่ต้องเดาเอาเองก็คือรายงานเทรนด์ประจำวันอีโมจิโลกซึ่งจัดทำด้วยการสำรวจคนกว่า 7,000 คนในสหรัฐ อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ เพื่อสำรวจเทรนด์การใช้งานอีโมจิและพบข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างที่จะเป็นการช่วยยืนยันว่าการสื่อสารผ่านอีโมจิมันช่วยทำให้ทุกอย่างซอฟต์ลงได้ ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นและเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้นแม้จะไม่ได้เห็นหน้ากันก็ตาม

รายงานฉบับนี้พบว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของคนใช้อีโมจิทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจอีกฝ่ายมากขึ้นถ้าหากว่ามีการใช้งานอีโมจิเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อให้เราสื่อสารกันคนละภาษาแต่ถ้าเราเข้าใจอีโมจิตรงกันการสื่อสารด้านอารมณ์ก็จะสำเร็จได้แม้เราจะไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อมองตาหรืออ่านสีหน้ากันและกัน จากข้อความที่แข็งทื่อก็จะกลายเป็นข้อความที่อบอุ่นทันทีถ้ามีอีโมจิสอดแทรกอยู่ในนั้นด้วย

55 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้อีโมจิรู้สึกสบายใจที่จะสื่อสารอารมณ์ของตัวเองผ่านอีโมจิมากกว่าที่จะต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกันจริงๆ สำหรับคนจำนวนมาก การจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้อารมณ์ของตัวเองได้ผ่านการพูดคุยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เมื่อมีอีโมจิที่เราค่อยๆ เลือกอย่างพิถีพิถันได้การทำเช่นนั้นก็จะง่ายขึ้น

อีกข้อมูลหนึ่งที่ฉันพบว่าน่าสนใจสุดๆ ก็คือการใช้อีโมจิในการจีบหรือออกเดต ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถใช้อีโมจิอะไรก็ได้มั่วซั่ว แต่จากการสำรวจก็ค้นพบแล้วว่ามี 3 อีโมจิที่จะช่วยให้คนอื่นชอบเราได้ง่ายขึ้น กับอีก 3 อีโมจิที่จะทำให้คนอื่นชอบเราน้อยลง

3 อีโมจิชุดแรก คืออีโมจิส่งจูบ ?? อีโมจิหน้ายิ้มที่รายล้อมไปด้วยหัวใจ 3 ดวง ?? และอีโมจิหน้ายิ้มที่ตาสองข้างเป็นหัวใจ ?? ถ้าส่ง 3 อีโมจินี้ก็มีแนวโน้มจะจีบติดมากขึ้น

ส่วน 3 อีโมจิชุดหลังที่ไม่แนะนำให้ส่งถ้าไม่มั่นใจในความสนิทชิดเชื้อกันจริงๆ ก็คืออีโมจิมะเขือม่วง ?? ซึ่งบ่อยครั้งไม่ได้ถูกใช้เพื่อบอกว่าเราชอบกินมะเขือแค่ไหนแต่ใช้แทนสัญลักษณ์อวัยวะเพศชายต่างหาก อีโมจิลูกพีช ?? ที่ก็ไม่ได้ใช้เพื่อสื่อสารว่าอยากกินลูกพีชแต่ใช้แทนรูปก้น และสุดท้าย อีโมจิตาเหล่หน้าทะเล้น ?? ที่ฉันว่าฉันน่าจะไม่เคยได้ใช้เลยเพราะนึกไม่ออกว่าจะใช้ในสถานการณ์ไหน

แต่ก็เห็นด้วยว่าแค่เห็นอีโมจิทำหน้าทำตาแบบนี้ก็รู้สึกอยากยกหมัดมาตั๊หน้าให้บี้แบนขึ้นมาตงิดๆ

 

ครึ่งหนึ่งของผู้ใช้อีโมจิทั่วโลกเห็นด้วยว่าการใช้อีโมจิมาช่วยในการสื่อสารส่งผลกระทบทางบวกต่อสุขภาพจิตของตัวเอง และคนถึง 67 เปอร์เซ็นต์คิดว่าคนที่ใช้อีโมจิเป็นคนที่เป็นมิตร ตลก และเท่กว่าคนที่ไม่ใช้อีโมจิเลย

สำหรับหมวดหมู่ของอีโมจิที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คืออีโมจิแสดงสีหน้าและอารมณ์ อีโมจิเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ อีโมจิอาหารและเครื่องดื่ม อีโมจิสัตว์และธรรมชาติ และสุดท้ายคืออีโมจิรูปวัตถุต่างๆ

ฉันคิดว่าการบอกว่าอีโมจิช่วยทำให้เราสื่อสารอารมณ์ได้ดีขึ้นและเห็นอกเห็นใจมากขึ้นเป็นสิ่งที่จริงแท้แน่นอนที่สุด หลายๆ ครั้งที่ฉันรู้สึกว่าคำพูดในรูปแบบตัวอักษรมันแข็งทื่อเกินไป เพียงแค่ใส่อีโมจิที่ถูกต้องเข้าไปก็ช่วยได้เยอะแล้ว

แต่คีย์เวิร์ดที่สำคัญอยู่ตรงนี้ค่ะ เราจะต้องเรียนรู้การใช้งานอีโมจิที่ถูกต้อง เข้าใจความหมายที่อีโมจินั้นๆ ต้องการจะสื่อ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องรู้ว่าคนที่ได้รับอีโมจิรูปนั้นไปน่าจะรู้สึกอย่างไร

ฉันเคยเจอเหตุการณ์ที่เพื่อนส่งมาขอโทษขอโพยและถามไถ่อย่างร้อนใจว่าเขาทำอะไรให้ฉันโกรธหรือเปล่า แล้วกำกับด้วยอีโมจิมองบนที่ปกติแล้วใช้เพื่อสื่อถึงความเบื่อหน่ายเต็มประดา ?? จนฉันรู้สึกอิหลักอิเหลื่อไม่รู้จะตอบกลับไปว่าอย่างไรดีเพราะมันไม่ได้ดูเหมือนคำขอโทษเลย

เอ๊ะ หรือกลับมาย้อนคิดอีกที…