วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เฟซบุ๊กแฟนเพจของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานความคืบหน้าของคดี 13 ผู้ปราศรัยคดีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยว่า พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 จะยื่นฟ้อง 13 ผู้ปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ในการชุมนุมเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 ต.ค. 63 หน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย

.

โดยขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 12 ถูกนำตัวไปฟ้องที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตให้ประกันจำเลยทั้ง 12 คน ระหว่างพิจารณา โดยใช้ตำแหน่งคณาจารย์และ ส.ส. ประกันทั้งหมด ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำความผิดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์อีก ต้องมาศาลทุกนัด ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรก่อนได้รับอนุญาต

.

ขณะที่วานนี้ (21 ก.ค. 64) พรรคกรีนแห่งเยอรมนี* (Bündnis 90/Die Grünen) ได้เผยแพร่แถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนกับผู้ชุมนุมทั้ง 13 ที่ถูกยื่นฟ้องในคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 63 โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

.

.

## ประเทศไทย: การเรียกร้องประชาธิปไตยและการวิจารณ์การปกครองแบบอำนาจนิยมไม่ใช่อาชญากรรม##

.

.

ดร.ฟริทยอฟ ชมิดท์ (Dr. Frithjof Schmidt) สมาชิกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และมาร์กาเรเทอ เบาเซอ (Margarete Bause) โฆษกคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ได้แถลงการณ์เกี่ยวกับการดำเนินคดีนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวไทยจำนวน 13 คนในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะมีการสั่งฟ้องคดีในวันพฤหัสบดีนี้ (22 กรกฎาคม ค.ศ. 2021) โดยผู้ต้องหาในคดีนี้ได้เข้าร่วมการชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทยในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 การแถลงการณ์มีเนื้อความดังต่อไปนี้

.

เราขอแสดงจุดยืนร่วมกับผู้ชุมนุมทั้ง 13 คน ซึ่งได้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยร่วมกับผู้คนอีกจำนวนมาก ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา และปัจจุบันถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ หากมีการสั่งคุมขังกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว จะต้องอนุญาตให้สามารถประกันตัวได้ รวมถึงต้องรับประกันว่าจะพิจารณาคดีของผู้ชุมนุมอย่างเป็นธรรม และต้องรับประกันว่าจะเปิดโอกาสให้ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีสามารถติดตามกระบวนการดำเนินคดีได้

.

รัฐบาลทหารของประเทศไทยได้ตอบโต้การชุมนุมเรียกร้องการปฏิรูปตามหลักประชาธิปไตยและหลักนิติรัฐ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐเคารพสิทธิพลเมืองที่เกิดขึ้นทั่วประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยการใช้ความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112) เพื่อปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล จนถึงปัจจุบันมีผู้ถูกดำเนินคดีทางอาญาเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์มากกว่า 100 รายและมีการฟ้องร้องคดีแล้วหลายราย ในกรณีที่ผู้ต้องหาถูกตัดสินว่ามีความผิดผู้ต้องหาอาจมีโทษจำคุกมากถึง 15 ปีต่อหนึ่งข้อกล่าวหา นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ถูกดำเนินคดีอาญาจากการชุมนุมอีกหลายร้อยราย

.

เราขอประณามการดำเนินการที่รุนแรงต่อผู้ที่ชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งรวมไปถึงการฟ้องร้องคดีโดยมีแรงจูงใจทางการเมือง ในประเด็นนี้เรายังได้แสดงจุดยืนในจดหมายที่ได้ยื่นแก่สถานทูตไทยไปแล้วด้วย เราขอยืนหยัดอยู่ข้างทุกคนที่เรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิพลเมืองโดยสันติ

.

รัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและสหภาพยุโรปมีหน้าที่ต้องปกป้องประชาธิปไตย การแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีและเสรีภาพในการชุมนุม อันเป็นคุณค่าพื้นฐานของยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการปกครองแบบอำนาจนิยม การฟ้องร้องคดีโดยมีแรงจูงใจทางการเมืองต้องถูกกล่าวถึงและถูกประณามอย่างเปิดเผย

.

*พรรคในที่นี้ หมายถึง กลุ่มการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรเยอรมัน

.

.

อ่านเนื้อหาฉบับเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/32465

.

อ่านแถลงการณ์ฉบับภาษาเยอรมัน: https://www.gruene-bundestag.de/…/thailand-forderung…

.

อ่านฐานข้อมูลคดีนี้: https://database.tlhr2014.com/public/case/1761/lawsuit/545/