สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/”อำนาจ”เสื่อม-“เกราะ”เสื่อม

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

—————-

“อำนาจ”เสื่อม-“เกราะ”เสื่อม

—————-

หลังจาก ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ตะโกน ขอ”เกราะ”คุณภาพดีๆ เพื่อจะได้ปลอดภัย และมีขวัญกำลังใจ ดูแลชาวบ้านจากโรคระบาดโควิด

ที่สุด ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ลงนามในแถลงการณ์แพทยสภาในสถานการณ์โควิด-19ฉบับที่1 เมื่อ 8 กรกฏาคม ก่อนการ”ล็อกดาวน์”พื้นที่เสี่ยงออกมา 1 วัน

ช้าหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่มา

ว่าที่จริงไม่ได้หือ ได้อือ กับ แพทยสภามานานแล้ว

แต่การออกมายืนร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ อันรวมถึงชาวบ้านด้วย คงทำให้ผู้กุมอำนาจได้ตระหนักว่าองค์กรตามกฎหมายของหมอๆยังเอาด้วย

โดยสิ่งที่ร่วมเสนอคือ

1. สนับสนุนให้ภาครัฐและเอกชน จัดหาวัคซีนโควิด อย่างหลากหลาย เพียงพอโดยเร็วที่สุด เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่อเชื้อกลายพันธุ์ เช่น กลุ่มวัคซีน mRNA ครอบคลุมทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเพื่อฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว

2. สนับสนุนให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าได้รับวัคซีนที่เหมาะสม เช่น กลุ่มวัคซีน mRNA อย่างรวดเร็ว

3. สนับสนุนให้รัฐบาล เอกชนให้ผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อ เพื่อยืนยันและเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็วที่สุด

4. สนับสนุนให้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร สถานที่และทรัพยากรต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

5.สนับสนุนการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงด้านวิชาการของแต่ละราชวิทยาลัยและวิทยาลัย ซึ่งเป็นองค์กรในกำกับของแพทยสภา

6. สนับสนุนให้ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 47

7. สนับสนุนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าชนิดใดโดยเร็วที่สุด เพราะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้

8. สนับสนุนให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

ข้อเสนอ8 ข้อ ข้างต้นคงไม่ทำให้มีใครมาโวยวายว่า ไปด้อยค่าวัคซีนที่ใช้อยู่ กัน 2 ชนิดลง

เพราะตอนนี้คนส่วนใหญ่ เขาเห็นตรงกันถึงความมุ่งมั่นที่จะหาวัคซีนคุณภาพดี มาใช้ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันอยู่กับวัคซีนแค่ 2 ตัว

และว่าที่จริง การเลือก ล็อกดาวน์อีกครั้ง

หากล็อกแล้ว สามารถทำตาม ข้อเรียกร้อง 8 ข้อ ได้ เราเชื่อว่า “วิกฤตโควิด19″คงดีขึ้น

อ้อ ถ้าจะมีเพิ่ม ข้อ 9 ให้สมบูรณ์ นั่นก็คือ สนับสนุนให้ดูแลประชาชนที่สูญเสียคนในครอบครัว อย่างเหมาะสม

อย่าให้มีเรื่อง ห้องดับจิตล้น ไม่มีเมรุเผา ด้วยยอดสูญเสียเพิ่มขึ้นแน่ๆ

รับมือไม่ดี ระวังจะมีภาพอน็จอนาถเหมือนอย่างที่อินเดีย

นี้เป็นข้อเสนอพื้นๆ ที่ยังไม่ได้ก้าวไปถึงการเรียกร้องการเยียวยา การดูแลสวัสดิภาพ สวัสดิการ และผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ด้วยรู้ดีว่า คงไปหวังอะไรไม่ได้มาก

ตอนนี้ แค่หวัง อย่าให้ตัวเอง คนในครอบครัวติดเชื้อ ถ้าติดแล้วขอให้ได้ตรวจ ได้ดูแลรักษาให้กลับมามีชีวิตได้อีก ก็ถือเป็นฝันอันสุงสุดแล้ว

ไม่หวังอะไรกับ รัฐบาล ศคบ. ฯลฯ อะไรอีกแล้ว

เพราะดูทีท่าว่า “พวกท่าน”เอง การจะเอาตัวรอดจากวิกฤตครั้งก็ ก็คงยาก

เนื่องจากไม่ใช่วิกฤตปัญหาโรคระบาด เท่านั้น หากแต่มันลามไปถึง “วิกฤตศรัทธา” ในระดับต่ำสุดขีดแล้ว

พูด-เสนอ-ทำ อะไร ผิดไปหมด

การเลือกล็อกดาวน์ครั้งนี้ เดิมพันสูง

หาก เจ็บ ไม่จบ ก็ตัวใครตัวมัน

อำนาจแม้จะเป็น”เกราะ”ดีแค่ไหน

แต่อำนาจเสื่อมจากวิกฤตศรัทธา เกราะที่ใช้กำบังก็เสื่อมลงด้วย