เพจดัง ชี้ผลปรากฎแล้ว บุคลากรแพทย์ไทยติดโควิดแม้ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม

เพจดัง ชี้ผลลัพธ์เริ่มปรากฎ หลังบุคลากรการแพทย์ของไทย ฉีดซิโนแวค 2 เข็มแล้ว ยังติดโควิดอื้อ ยกเทียบ มาเลเซีย ฉีดไฟเซอร์ ให้บุคลากรด่านหน้า แล้วได้ผลดีกว่า

วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เพจ เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล ที่เขียนขึ้นจากหมอ แสดงความคิดเห็นเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด ความว่า เมื่อวานมีรายงานข่าวเล็กๆจากเชียงราย ระบุว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เผยแพร่รายงานข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2564 ทั้งสิ้น 42 ราย
ในจำนวนนี้ เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 20 ราย เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2564
รพ. เชียงรายประชานุเคราะห์ ได้สรุปสถานการณ์ตอนหนึ่งว่า จนถึง 10.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย.)
พบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อแล้ว 36 ราย ขณะที่ วันที่ 20 มิ.ย. 2564 พบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 7 ราย

รายละเอียดมีเท่านี้ จริงๆ อ่านแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าจะแปลความว่ายังไง ถึงวันที่ 21 มี จนท. ติดรวม 36 ราย อาจจะเป็นจำนวนสะสมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ได้ จะสรุปอย่างพาดหัวว่า 2 วันเป็น 56 ก็อาจจะไม่ถูกเสียทีเดียว อย่างไรก็ตามวันที่ 22 วันเดียว ก็มีรายงาน 20 ราย โดยนัยสำคัญของประเด็นนี้ ก็คือ อนุมานว่า จนท. บุคลากรใน รพ. น่าจะได้รับวัคซีนกันครบ 2 เข็มแล้ว แน่นอนว่า เรารู้กันว่า
วัคซีน โดยเฉพาะ SinoVac นั้น เคลมว่าแค่ป้องกันการเกิดอาการรุนแรง เพราะฉะนั้น หลายคน
อาจจะไม่รู้สึกอะไร ก็เป็นเรื่องปกตินี่ ไปดูอีกข่าวกัน

เป็นรายงานจากมาเลเซีย มีการติดตามบุคลากรด่านหน้า ที่ได้รับวัคซีน ครบ 2 เข็ม ทั้งหมด 272,019 คน พบว่า มีการติดเชื้อโควิด 9 ราย โดยจากการสืบสวน พบว่า 8 รายนั้นมีประวัติสัมผัสผู้ป่วย
ในช่วงที่ได้รับวัคซีนไม่ถึง 2 สัปดาห์ นัยคือ อาจจะติดได้จากช่วงที่ ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไม่ขึ้นเต็มที่

สำหรับมาเลเซียนั้น เขาเลือกใช้ Pfizer ให้กับบุคลากรด่านหน้าครับ แต่รายงานนี้ผ่านมาสักสองเดือนแล้ว คือ 19 เมษายน ก็ไม่แน่ว่า หลังติดตามต่อมาถึงวันนี้ อาจจะมีบุคลากรที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกก็ได้
ส่วนของไทยเองผมก็อยากเห็นการเก็บข้อมูล และการรายงานข้อมูลแบบนี้เหมือนกัน

กรณีของมาเลเซียนี้ สำหรับผม เป็นตัวเปรียบเทียบได้ชัดเจนดี เรียกว่า ค่อนข้างประทับใจเลยล่ะ
เพราะวันที่ SinoVac เข้ามาล็อตแรก จำกันได้นะครับปลายกุมภาพันธ์ ที่มีการต้อนรับ แถลงกันใหญ่
Pfizer ล็อตแรก ก็ไปถึงมาเลเซีย แทบจะวันเดียวกัน หลังจากที่ผมพยายามทำใจเชื่อตามที่ผู้เชี่ยวชาญของไทย ให้เหตุผลว่า เรานำ Pfizer มาไม่ได้ เพราะการขนส่ง จัดเก็บนั้น ยากเกินไป สิ้นเปลืองเกินไป

ที่สิงคโปร์ทำได้ มีคนบอกว่า ประเทศเขาเล็กและรวยมาก อ่ะ ยอมทำใจให้เชื่อ โป๊ะ เหมือนโดนฟาดหัวด้วยถาด เราดีใจมาก กับ SinoVac มาเลเซีย เอา Pfizer มาได้พร้อมๆ กัน ประเทศเขาไม่ได้เล็กกว่าเราเท่าไหร่ และไม่ได้รวยกว่าเราเท่าไหร่ แต่เขาทำได้ ???

ฉึก!!! รู้สึกเหมือนโดนแทง เมื่อทางการของมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์ว่า ที่นำ Pfizer มานี้ เพื่อให้กับบุคลากรด่านหน้า เพราะพวกเขาควรได้รับวัคซีน ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด

ย้ำอีกที อย่างที่เคยย้ำมาตลอด ตั้งแต่ต้นปีที่ถกกันว่าจะเอาตัวไหนดี ย้ำว่า SinoVac นั้นก็ใช้ได้
ใครที่มีความกลัว เทคโนโลยีใหม่ ไม่ใช่เรื่องผิด ก็ใช้ SinoVac ไป แต่คนที่ศึกษาแล้ว ประเมินแล้ว
ต้องการใช้ วัคซีนที่น่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า พวกเขาก็ควรได้รับ ได้ใช้เช่นกัน