ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | จดหมาย |
เผยแพร่ |
จดหมาย
แบบ “ฝรั่ง-ฝรั่ง”
21 พฤษภาคม 2564
การหารือยุทธศาสตร์ไทย–สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 7
คณะผู้แทนเจ้าหน้าที่อาวุโสจากสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยเข้าร่วมการหารือยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐ ครั้งที่ 7 ผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564
โดยมีหัวหน้าคณะรองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก อาทุล เคชัป เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายสหรัฐ
นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย
การหารือยุทธศาสตร์เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐและไทย ซึ่งดำเนินมากว่า 2 ศตวรรษ และครอบคลุมความร่วมมือด้านการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจ
ในการหารือครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยถึงหลากหลายประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งความมั่นคงระดับภูมิภาค ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือด้านสาธารณสุข และการดำเนินงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ
ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานต่อพันธไมตรีด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งยังประโยชน์แก่ทั้งสหรัฐและไทย ตลอดจนส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งทั่วภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ
อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลังงานสะอาด ธุรกิจการค้า เทคโนโลยี และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน
สหรัฐยืนยันความมุ่งมั่นต่อประชาชนไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด-19
และจนถึงปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขแก่ประเทศไทยรวมมูลค่าเกือบ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งสองฝ่ายยังได้กล่าวเน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือในเวทีระดับภูมิภาค เช่น กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) อาเซียน และหุ้นส่วนลุ่มน้ำโขง-สหรัฐ
สหรัฐได้เน้นย้ำความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในประเทศไทย นอกจากนี้ สหรัฐยังแสดงความกังวลอย่างยิ่งยวดต่อวิกฤตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในพม่า
สหรัฐและไทยเห็นพ้องกันว่า การพบปะพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างต่อเนื่องจะก่อให้เกิดผลงอกงาม และตั้งตารอการหารือยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐ ครั้งต่อไป
สำนักงานโฆษก
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ส่งอีเมลนี้มาให้อีกที
เหมือนข่าวแจก
แต่เมื่อเป็นระดับยุทธศาสตร์ของทั้ง 2 ประเทศ
และดำเนินการมาครั้งที่ 7 แล้ว
เราก็ควรให้ความสนใจตามสมควร
เพราะทั้งจีนและสหรัฐกำลังแข่งกันมีบทบาทในภูมิภาคนี้และไทยอย่างเข้มข้น
จีนกำลังใช้ “วัคซีน” มัดใจคนไทย
สหรัฐก็พยายามจะเร่งบริจาควัคซีนให้ชาวโลก
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับไทยจะใช้ประโยชน์กับเกมนี้อย่างไร
ขณะที่วัคซีนจีนกำลังทะลักเข้ามา
แล้วไทยได้เปิดทุกช่องทางให้วัคซีนทางเลือกจากสหรัฐเข้ามาเต็มที่หรือไม่
หรือพอเห็นคำว่า “บริจาค” แล้วชักมี “ท่า”
เหมือนตัดสินใจไม่ร่วมโครงการวัคซีนโคแวกซ์
ที่แม้มีปัญหา แต่ก็แสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวโลก
ไม่ว่าในฐานะผู้ให้หรือรับ ไม่ว่ารวยหรือจน
ไม่รู้ว่าการหารือยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 7 ลงรายละเอียดถึงเรื่องวัคซีนหรือไม่
และไทยได้ร้องขอหรือเปล่า
หรือมี “ท่า” พูดไม่ออก
“ปิดช่อง” ทางเลือกไปอีกตามเคย
แบบไทย-ไทย
ของดีมีอยู่
ให้สงสารพี่น้องไทยในวันนี้
ที่ต่างมีจิตตกตระหนักหวั่น-
โควิด-19 เฝ้าถามพัลวัน
ถึงยาทานป้องกันลั่นพารา
เพราะขืนรอ “วัคซีน” รัฐบาล
คงจะอีกหลายกาลนานหนักหนา
กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ ไปหลายครา
อยากบอกว่าใช้ยาไทยเป็นไรมี
ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรไทยชื่อดัง
มาแต่ครั้งโบราณนานแล้วนี่
สรรพคุณขึ้นชื่อลือชาดี
ใช้รักษาไข้ที่ตะครั่นตะครอ
เป็นหวัดเจ็บคอก็ใช้ได้
กระทุ้งพิษไข้ แปรภายในมั่นใจหนอ
โรคระบาดครอบไข้ได้ดีพอ
ฟ้าทะลายโจร ขอบอกออกดีครัน
ในขณะที่โควิด-19
ระบาดเข้าสู่ไทยชวนไหวหวั่น
จะมานั่ง เก๊กซิม ไปทำไมกัน
ทานยานี้เถอะทั่วดีเกินพรรณา
ของดีมีอยู่…
จะหดหู่หัวใจไยเล่าหนา
รัฐบาลท่านมัวมั่วพึ่งพา
เหล่าวัคซีน นานาบรรดามี
สมโชค พลรักษ์
ให้เป็นทางเลือกไทย-ไทย
ตามที่หลายฝ่ายเสนอไว้ให้พิจารณา
ไม่ปิดช่องตาย ว่าไม่น่าเชื่อถือ