จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 30 มิ.ย.- 6 ก.ค. 2560

จดหมาย

เห็นด้วย (1)

ถ้านักการเมืองเลว จับมือกับผู้มีอำนาจ ก็จะเกิดอำนาจที่ไม่เป็นธรรม

จะเกิดจุดต่ำสุดของการเมือง การปกครองไทย

และจะนำมาซึ่งหายนะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ถ้าปัญญาชนเห็นดีเห็นงามกับเขาด้วย ก็ช่วยไม่ได้

ที่อ้างว่าเป็นผู้ดี มีปัญญานั้น จริงหรือ

ปัญญาชนแท้ จะมองไม่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวเป็นอันขาด

ขอผู้มีปัญญาทั้งหลายไตร่ตรองให้ดีก่อนจะสายเกินไป

ประชาชน

 

เห็นด้วย

และขอยืนเคียงข้าง คุณ “ประชาชน” สถานเดียว

เพราะพูดอีก ก็ถูกอีก นี่เป็นหลักแบบแซมเปิล-แซมเปิล

แต่พอเข้าสู่โหมดการปฏิบัตินี่สิ คุณ “ประชาชน” เอ้ย

กลัวค่ายทหารจะปิดไม่ทัน

ด้วยนักการเมือง-ปัญญาชน จะแห่ไปเสนอหน้าขอช่วยงานกันสลอน

บทเรียนแสลงใจมันมีให้เห็นอยู่

 

เห็นด้วย (2)

ประเทศเราเวลานี้ มีผู้อาสามา “สยบ” อาการป่วย และก็ได้ผลว่า “อาการ” สงบ แต่โรคไม่ “สงัด”

เพราะใช้ยาผิดขนาน

ด้วยการใช้รัฐประหารเพื่อแก้ปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง

ซึ่งหลายประเทศ แม้แต่ในแอฟริกาเขาก็เลิกทำกันไปแล้ว

อุปมาเหมือนรักษาปอดอักเสบโดยใช้ “คีโม” ซึ่งปอดอักเสบก็ไม่หาย แต่คนไข้จะอ่อนแอและตายลงในที่สุด

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา “ไม่เสียของดอก” เพราะได้ทิ้ง “ของเสีย” ไว้หลายอย่าง

เช่น ปัญหาความขัดแย้งและฉ้อราษฎร์บังหลวง เศรษฐกิจ ฯลฯ ถูกซุกไว้ใต้เสื่อ

มีคนถือปืนขู่ไม่ให้เลิกเสื่อขึ้นมาดู

“ชนชั้นกลางถึงสูง” บางกลุ่มหลงตัวเองว่าไทยเป็นศูนย์กลางของโลก (ขอโทษเราไม่ใช่จีนนะ) แถมดูถูกคนชาติเดียวกันว่า “โง่เง่า”

แย่กว่าคนอินเดีย แอฟริกา กัมพูชา พม่า ฯลฯ

ไม่สามารถตัดสินใจ หรือมีส่วนในการปกครองประเทศได้

“สื่อมวลชน” บางกลุ่ม ไม่รักในศักดิ์ศรี แถมมีพฤติกรรม masochism ชอบให้เขาดูถูกเหยียดหยาม ผสมกับเป็น sadism ของบางฝ่าย ฉะนั้น ก็ไม่ต้องโวยวายกับ พ.ร.บ.คุมสื่อ เพราะไปเชิญเขามาเอง (คิดว่ามติชนไม่เป็นเช่นนั้นนะ แต่ก็น่าเสียใจที่ติดร่างแหเขาไปด้วย เอาใจช่วยอยู่นะ ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากเป็นกองเชียร์)

นอกจากนี้แล้วก็ทำให้นึกถึงคุณพยาบาล แม้จะเห็นใจและเข้าใจ แต่ก็คงรู้ฤทธิ์ของผลข้างเคียงจากการเชิญเขามา

เขาไม่เห็นหัวเรานะ ถ้าไม่ขู่กันจริง ก็คงไม่ยอม ยังดีที่ชุดเขียว ต้องยอมชุดขาว

ยังไม่นับ กกต. ที่มีความทุกข์ใจในขณะนี้

ถ้า กกต. “ทำหน้าที่” ที่ควรทำเสียแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็คงไม่ต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าดั่งในเวลานี้

เห็นว่า ซื้อกระทะ ซื้อ 1 แถม 1 แถมตะหลิว ให้ด้วย แม้จะเว่อร์ไปก็ตาม

แต่ก็น่าจะดีกว่า 3 ปีแถม 20 ปีนะ

ประเทศนี้ไปได้แค่ 0.4 ไม่ใช่ 4.0 นี่เป็นความคิดของคนแก่ใกล้ตาย ขอร้องเถอะในฐานะคนวัยเกษียณด้วยกัน ถ้าผัว/เมียไม่ให้เข้าบ้าน หลานไม่ให้เลี้ยง ก็จงอยู่เฉยๆ

ปล่อยให้คนรุ่นหลังเขาตัดสินอนาคตประเทศจะดีกว่า

ไม่งั้นจงกลั้นใจตายซะ

จะได้ไม่เปลืองออกซิเจน ดีกว่าไหม

พูดแรงไปป่ะ???

ขอแสดงความนับถือ

ศ.เกษียณ

 

ไม่แร้งสส์ และเห็นด้วยกับข้อเสนอ

สำหรับพวกที่มีพฤติกรรม masochism และ sadism อย่างที่ ศ.เกษียณ ว่า

ต้องฟัดกันให้หนักๆ

ถึงจะรู้สึก

ส่วนจะรู้สึกทุกข์ หรือสุข อันนี้ไม่รู้

แต่เขายิ้มเผล่ รับ 3 ปีแถม 20 ปี ไปเรียบโร้ยแล้ว

 

เห็นด้วย (3)

นานๆ จะเห็นข่าวต้นไม้ล้มทับคนตาย คิดแล้วไม่ถึง 1%

ส่วนเรื่องคนโค่นต้นไม้แล้วต้นไม้ทับคนตัดตาย ได้ยินข่าวบ่อย

กับต้นไม้ใหญ่ ผมเชื่อว่า เขามีรุกขเทวดาสิงสถิตอยู่

เวลาล้มเขาไม่ค่อยจะล้มทับบ้านเรือน หรือตัวคนหรอก

เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย

การที่เขียนเช่นนี้ เพราะสมัยนี้ คนไม่ค่อยรู้จักธรรมชาติของต้นไม้ที่แท้จริง

สมัยก่อนลานวัดมีทราย อากาศ ถ่ายเทได้ น้ำซึมลงดินได้

สมัยนี้คอนกรีตเต็มลานวัด บางแห่งก็เอาซีเมนต์โอบต้นไม้ เขาหาอาหารไม่ได้ เขาก็ต้องตายก่อนอายุขัย

อย่าไปโทษต้นไม้ โดยตัดต้นไม้

ต้องโทษคน ต้องศึกษาธรรมชาติของต้นไม้ ไม่ใช่ตามใจคน

ตะวันรอน อ.ลอง จ.แพร่

 

จะมีอะไรโต้แย้งได้

นอกจากเห็นด้วยสถานเดียว

ยังดี

ไม่มีใครเสนอให้ใช้ ม.44

แก้ปัญหาต้นไม้ล้มทับคน