‘อนุทิน’ ย้ำชัด แนวทาง “ภูมิใจไทย” ปกป้องสถาบัน ดูแลปากท้องประชาชน

‘อนุทิน’ ย้ำชัด แนวทางพรรคปกป้องสถาบัน ดูแลปากท้องประชาชน ยันแก้ รธน.เป็นเอกสิทธิ์

วันที่ 6 เมษายน 2564 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการทำบุญพรรคในวันนี้ ซึ่งย่างเข้าสู่ปีที่ 13 ว่า ทิศทางการเมืองของพรรคเน้นเรื่องการปกป้องสถาบัน การดูแลปากท้องประชาชน และการทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

นายอนุทินกล่าวว่า ช่วงที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้พรรคยังยึดมั่นไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับพรรคภูมิใจไทยในช่วงแรกคนมองเป็นพรรคเฉพาะกิจ แต่จนถึงวันนี้เราเติบโต ถือว่ามีความใช้ได้มาถึง 13 ปี ซึ่งทุกคนในพรรคทำงานอย่างหนัก

เมื่อถามถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีร่างของเราเอง และมีแนวทางชัดเจน อะไรที่เป็นคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญพรรคก็ต้องเคารพ จะไปฝ่าฝืนไม่ได้ ทั้งนี้ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค ไม่เกี่ยวว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ และเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ทุกคน ซึ่งต้องแยกการทำงานระหว่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติให้ถูก

เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไม่ตัดอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ในส่วนนี้พรรคภูมิใจไทยเห็นอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยพูดหลายครั้งแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าอยู่ในแนวทางหลักการประชาธิปไตย และเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองก็ทำได้

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอประเด็นตัดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ ส.ว.อาจคว่ำร่างแก้ไขดังกล่าว หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ต้องถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะบังคับอะไร ส.ว.ได้ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละสภา เรื่องไหนที่ประชาชนได้ประโยชน์ก็ควรสนับสนุน อะไรที่เป็นประโยชน์เฉพาะในสภาก็ต้องพิจารณาว่าจะสนับสนุนหรือไม่ ส่วนเรื่องบัตร 2 ใบ พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย และคงไม่สนับสนุน เพราะของเดิมดีอยู่แล้วไปแก้ทำไม

เมื่อถามว่า วันนี้คณะก้าวหน้าได้จัดกิจกรรม รวบรวมรายชื่อประชาชน 1 ล้านรายชื่อ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นสิทธิที่เขาจะทำอะไรก็ได้ ขอให้ทำตามกฏหมายเท่านั้นก็ชัดเจน ไม่ต้องไปตีความอะไร

นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ว่า ช่วงนี้ พบการระบาดที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยคลัสเตอร์สถานบันเทิง ซึ่งกลุ่มเสี่ยงมีอัตราการติดเชื้อที่สูง ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนใช่ชีวิตอย่างระวัดระวัง ต้องยกการ์ดกันสูง และต้องรู้ว่าอะไรควรทำ อะไร ไม่ควรทำ กระทรวงสาธสรณสุข มีหน้าที่คัดกรอง และรักษา ทำงานเต็มที่

ประเทศไทย กำลังเร่งให้บริการวัคซีน ขอให้รอเมื่อเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ก็ค่อยๆ ลดการ์ดลง แต่ตอนนี้ ยกการ์ดสูงกันก่อน คนไทยต้องช่วยกัน เราเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาแล้ว และเรียนรู้การจัดการ ครั้งนี้ ถ้าคนไทยยังช่วยกัน เห็นแก่ส่วนรวม เราจะควบคุมโรคได้อย่างแน่นอน