‘จุรินทร์’ โยน ‘ประยุทธ์’ ฟันปรับ ครม. พูดเป็นนัยไม่สลับเก้าอี้ ย้ำถ้าเป็นอย่างเดิมได้ดีสุด

วันที่ 15 มีนาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคว่า ในเรื่องของกระทรวงนั้นได้เรียนนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่า ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งหมดขอให้อยู่ที่ดุลยพินิจของนายกฯ ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล

สำหรับในส่วนกระทรวงพาณิชย์จนถึงนาทีนี้ก็ต้องถือว่ายังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาตนได้มอบงานให้รัฐมนตรีช่วยเป็นจำนวนมาก เพราะกระทรวงพาณิชย์มี 7 กรม 3 องค์การมหาชน 1 รัฐวิสาหกิจ จึงได้มอบหมายงานให้รัฐมนตรีช่วยดูแล 3 กรม 3 องค์การมหาชน ส่วนตนดูแล 4 กรม 1 รัฐวิสาหกิจ แม้ว่าอยู่คนละพรรค แต่เรามาทำงานกระทรวงเดียวกัน

ผมก็เคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวงแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ต้องให้เกียรติรัฐมนตรีช่วยที่มาช่วยงาน ไม่มีการที่จะไปดำเนินการในลักษณะทำคนเดียวไม่มอบหมายงาน ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ที่ผ่านมาก็ทำงานร่วมกันได้ด้วยดี

ส่วนรัฐมนตรีช่วยมาจากพรรคเดียวกันจะช่วยเรื่องงานได้มากน้อยแค่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วผลจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าเป็นไปอย่างเดิมได้ก็จะดีที่สุด เพราะว่าแม้จะคนละพรรคก็ทำงานร่วมกันได้ พร้อมกับยืนยันว่าตนกับรัฐมนตรีช่วยนี้พูดได้เลยว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย ทำงานร่วมกันได้ด้วยดี

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงราคาปาล์มในปัจจุบัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเมื่อตอนต้นปีก็ดีขึ้นมาก เพราะว่าปีที่แล้วเมื่อต้นปีก็อยู่ที่ 2 บาทกว่า 3 บาท แต่ตอนนี้ขึ้นมาเป็น 5-6 บาท โดยประมาณ และบางช่วงก็ขึ้นไปถึง 7 บาทก็มี ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าต้นปีที่แล้ว และราคาปาล์มก็อยู่ในระดับสูงกว่า 4 บาทมา 6-7 เดือนต่อเนื่องแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อบางช่วงที่ขึ้นไปสูงถึง 7 บาท ก็อาจจะมีผลกระทบต่อน้ำมันปาล์มขวดบริโภคอยู่บ้างบางส่วน กระทรวงฯ ก็พยายามแก้ไขว่าจะสร้างความสมดุลได้อย่างไร ทำอย่างไรให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มขายผลปาล์มได้ราคาสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และให้ผู้บริโภคน้ำมันปาล์มขวดซื้อน้ำมันปาล์มขวดในราคาต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยาก แต่กระทรวงฯ ก็ใช้การบริหารจัดการในการแสวงหาความร่วมมือร่วมใจกับทุกฝ่าย

“สุดท้ายผมคิดว่ามันก็ผ่านพ้นสถานการณ์ที่เป็นห่วงว่าจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนจนพอดีมันก็น่าจะผ่านไปได้ ช่วงนี้ราคาปาล์มก็จะอ่อนตัวลงมาบ้าง เพราะผลปาล์มก็เริ่มออกแล้ว ราคาน้ำมันปาล์มขวดก็น่าจะอ่อนตัวลงมาได้ด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างไร ผมก็สั่งการให้กรมการค้าภายในได้เข้าไปดูแล รวมทั้งพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดนิ่งนอนใจไม่ได้ต้องเข้าไปตรวจสอบ เข้าไปติดตามว่ามีที่ไหนไปทุบราคาผลปาล์มให้มันต่ำลงมาเกินกว่าราคาตลาดที่มันควรจะเป็น ก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างเช่นที่กระบี่ผมก็สั่งการไป ผู้ว่าฯ กระบี่ก็รีบเรียกประชุมทันที จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่อย่างนั้นก็ต้องดำเนินคดี เพราะถือว่าผิดกฎหมาย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

“มีรายงานเข้ามาโดยตลอด แต่ผู้ว่าฯ กระบี่ก็เรียกประชุม และเรียกมาป้องปราม แต่ต่อไปนี้ผมบอกแล้วว่าต้องจัดการโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นสุดท้ายผลกรรมจะไปตกอยู่กับเกษตรกรซึ่งเรามีหน้าที่ต้องดูแล และเรื่องราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดก็เหมือนกัน ก็พยายามต้องช่วยดูว่าให้มันสมดุลไม่ใช่ขึ้นไปจนกระทั่งเดือดร้อนกันหมด แต่ว่าต้องยอมรับความจริงว่าถ้าราคาผลปาล์มสูงขึ้นมันก็ทำให้ต้นทุนน้ำมันปาล์มขวดมันก็แพงขึ้นบ้าง แต่เราก็มีตารางราคาอยู่แล้วว่า ถ้าผลปาล์มกิโลละเท่าไหร่ น้ำมันปาล์มขวดก็ควรจะราคาเท่าไหร่”

สำหรับวันนี้ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้จัดโครงการสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคารเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจุรินทร์กล่าวว่า อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ตนคิดว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดการอบรมให้ความรู้สำหรับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคารต่างๆ ให้ได้มีความรู้ในเรื่องของระบบการบริหารจัดการที่ครบถ้วน ทั้งในเรื่องหลักการบริหาร หลักการทางบัญชี หลักการทำการตลาด หลักการบริหารสต็อค รวมทั้งหลักการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แม้แต่วิธีการที่จะส่งเสริมการขายด้วยการทำดิลิเวอร์รี่ ซึ่งเมื่อได้สอบถามผู้ประกอบการที่มาร่วมงานทั้งหมด ก็บอกว่าสนใจมาก และเราก็ไม่ได้อบรมฉาบฉวย 1-2 ชม. แล้วแยกย้ายกลับบ้าน อันนี้ก็อบรมถึง 6 วัน จนกระทั่งเป็นที่เข้าใจกันครบถ้วนทั้งหมด และที่สำคัญก็คือกระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากภาคผู้ประกอบการ ภาคเอกชน เช่น แมคโคร เอสซีบี บีเชพ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราจะได้จัดอีกหลายหลักสูตร หลายครั้ง ซึ่งอันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่มีความชัดเจน ผมคิดว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยสร้างผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ภัตตาคารยุคใหม่ ที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริหารจัดการ และการค้าออนไลน์ ดิลิเวอร์รี่อย่างครบถ้วน ก็จะช่วยให้เขามีทางออก และมีอนาคตในยุคที่เราก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด