เผยผลสอบช็อก! กองทัพโคลอมเบีย “ฆ่ายัดข้อหากบฏ” มีเหยื่อเกือบ 6,500 ราย

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 บีบีซี รายงานผลการสอบสวนชวนช็อกใน ประเทศโคลอมเบีย หลังจากศาลยุติธรรมพิเศษเพื่อสันติภาพ (เจอีพี) ตรวจสอบพบว่ากองทัพโคลอมเบียสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 6,402 รายระหว่างปี 2545-2551 หนำซ้ำยังกล่าวหาเหยื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มกบฏเพราะต้องการเพิ่มจำนวนจับตายเพื่อข่มขวัญ กองกำลังติดอาวุธปฏิวัติโคลอมเบีย (ฟาร์ก) ในช่วงวิกฤตความขัดแย้งนองเลือดที่ยืดเยื้อมากว่าครึ่งศตวรรษ

ศาลยุติธรรมพิเศษเพื่อสันติภาพเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบรรลุข้อตกลงสันติภาพที่รัฐบาลโคลอมเบียและลุ่มกบฏฟาร์กร่วมลงนามในปี 2559 โดยเริ่มต้นสอบสวนกรณีกบฏฟาร์กลักพาตัวเหยื่อจำนวนมากในช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบ

แต่ต่อมาเจอีพีพุ่งเป้าการสอบสวนเกี่ยวกับเหยื่อที่ถูกเรียกว่า “ผลบวกเท็จ” (false positives) เหยื่อชายวัยรุ่น ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวยากจน โดยกองทัพมีจุดมุ่งหมายกำจัดชายหนุ่มเหล่านี้ด้วยการตราหน้าว่าเป็นกบฏฝ่ายซ้ายจากกองกำลังฟาร์ก เพื่อเพิ่มอัตราการสังหารฝ่ายต่อต้านทางการ รวมถึงสร้างผลงานว่ากองทัพมีศักยภาพในการปราบปรามกลุ่มกบฏ

ทั้งนี้ สำนักงานอัยการโคลอมเบียได้รับข้อมูลเบื้องต้นจากการสอบสวนของศาลยุติธรรมพิเศษเพื่อสันติภาพเมื่อปีที่ผ่านมาว่า มีเหยื่อในกลุ่มผลบวกเท็จที่ถูกกองทัพสังหาร 2,249 ราย ในช่วงปี 2531-2557 แต่เมื่อตรวจสอบเชิงลึกจึงพบว่ามีผู้บริสุทธิ์ถูกกองทัพฆ่ายัดข้อหามากเป็น 3 เท่าของจำนวนที่พบก่อนหน้านี้ และว่าช่วงที่มีการสังหารเพิ่มยอดมากที่สุดเป็นสมัยของประธานาธิบดีอัลวาโร อูริเบ