‘สิระ’ อวดเหรียญบิ๊กป้อม โวสวมไว้ช่วยคุ้มครอง

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้นำเหรียญทองรูปหน้าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จำนวน 2 เหรียญ มีน้ำหนักเหรียญละ 2 สลึง พร้อมกล่าวว่า เป็นเหรียญรุ่น พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ หรือ หลวงพ่อป้อม และเหรียญรุ่นป่ารอยต่อ

เมื่อถามถึงเหรียญที่ห้อยคอ นายสิระ กล่าวว่า เป็นรูปของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตนนับถือและคิดว่าสามารถปกป้องคุ้มครองได้ สมควรนำมาห้อยคอ และมีองค์เดียวที่จะห้อยคอตนได้ เมื่อถามย้ำเหรียญรุ่นนี้มีพุทธคุณอย่างไรจะช่วยรอดทุกคดีหรือไม่ นายสิระ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ยังไม่รู้ แต่เอามาห้อยคอเพื่อความอุ่นใจ

จากนั้น นายสิระ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวาน (16 ก.พ.)ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกฝ่ายค้านทำตัวเหมือน ผู้สื่อข่าวโดยการอ่านข่าวซ้ำ ไม่มีเนื้อหาและไม่ไปแสวงหาเรื่องการทุจริตของรัฐมนตรี แต่ใช้แค่ข่าวสารตามหน้าสื่อ ซึ่งบางคนก็ไม่ต้องทำอะไรเลยเพียงแค่นำคลิปของสื่อมานำเสนอ บางครั้งไม่มีข้อเท็จจริงทำให้รู้สึกผิดหวัง ทั้งนี้ ยังมีผู้อภิปรายบางคน อภิปรายไปด้วยและยกหางตัวเองตลอดว่าตัวเองเป็นคนดีคนเก่ง พูดนานเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้เกิดการประท้วงกัน รวมทั้งคนพูดยังมีอีคิวต่ำ และกำพรืดต่ำ สบถในสภา ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าปล่อยให้คนเหล่านี้มาสบถในที่ประชุมสภาฯ ได้อย่างไร

“ประชาชนทั่วประเทศ เฝ้าดูการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติว่าฝ่ายบริหารจะมีการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างไร แต่กลับไม่มี จะมีเพียงการหยิบข่าวมาพูดตลอด จึงเป็นเรื่องน่าผิดหวัง ผมขอโทษแทน ส.ส. ทั้งสภาฯ ที่ทำให้รู้สึกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เปลืองข้าวเปลืองน้ำ และเปลืองภาษีในการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัตติ ถ้าผมเป็นฝ่ายตรวจสอบ จะทำได้ดีกว่านี้ และคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไม่ควรใช้เวลายาวนาน 4-5 วัน

ผมจึงจะขอปรึกษากับนายชวน ว่าวันนี้ถ้าลงมติได้ก็ลงไปเลย เพราะไม่มีข้อมูลใหม่ และไม่มีหลักฐานการทุจริตอน่างชัดเจน บางคนก็ใช้ไม่ได้ อายุก็เยอะอีคิวก็ต่ำ ขอให้ประชาชนช่วยดู และบางคนนำเรื่องขององค์กรที่ตัวเองเคยอยู่มาพูดในทางไม่ดี ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ทำลายองค์กรของตนเอง ทั้งที่เคยไต่เต้ามาถึงระดับผู้บริหาร อยากถามว่าตัวเองเคยทำแบบนั้นมาก่อนหรือไม่ ในการซื้อขายตำแหน่งหน้าที่ ไม่มีผู้บริหารดีๆ คนไหนที่ออกจากออกองค์กรนั้นแล้ว กลับมาพูดทำลายองค์กรของตนเอง”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ลุกขึ้นยืนประท้วงแบบซี้ซั้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการฟ้องร้องกันอีกหลายคดี