เครื่องเสียง / พิพัฒน์ คคะนาท /JBL L100 Classic 75

เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท [email protected]

 

JBL L100 Classic 75

 

คุ้นๆ กันไหมครับ, กับที่จ่าหัวเอาไว้นั่น นั่นแหละครับคือลำโพงรุ่นที่ JBL ได้นำออกสู่ตลาดในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ซึ่งได้ผลิตออกมาจำกัดจำนวนแบบ Limited-Edition ดังที่ได้บอกกล่าวไปเที่ยวก่อน ที่เรียนถามว่าคุ้นๆ กันไหม ก็คือชื่อ JBL L100 Classic เพราะออกตลาดมาเมื่อสองปีก่อน และได้นำมาพูดคุยบอกกล่าวคุณๆ ให้ทราบกันแล้วคราวที่มาถึงบ้านเรา แต่กับรุ่นนี้ที่เห็นมีเลข 75 ต่อท้าย ก็พอจะเข้าใจกันได้นะครับ ว่าหมายถึงอะไร

โดยพื้นฐานของลำโพงรุ่นนี้ หรือคราวที่ออก Model L100 Classic มา ก็นำมาจากต้นแบบของลำโพงที่ได้ชื่อว่าขายดีตลอดกาลของค่ายนี้ คือ JBL L100 ซึ่งมีอีกชื่อที่เรียกแบบรู้กันของผู้คนในวงการว่า The Century นั่นเอง

คือจำได้ว่าเคยอ่านเจอในหนังสือ The JBL Story : 60 Years of Audio Innovation ที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี ค.ศ.2006 ผู้เขียน คือ Mr. John M. Eargle ได้บันทึกเอาไว้ตอนหนึ่งว่า …and L100 became the company’s all time best seller. ครับ

ตอนที่ทำ Model L100 Classic ออกมานั้น ได้คงโครงสร้างและภาพลักษณ์แบบดั้งเดิมเอาไว้ทุกกระเบียดนิ้ว ชนิดที่แค่เห็นแผ่นโฟม Quadrex ปิดหน้าตู้ซึ่งเป็นแบบเซาะร่องตารางสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแล้ว ก็ทำเอาระลึกชาติได้นั่นเลย

ตัวตู้เป็นไม้วอลนัทแท้แบบวีเนียร์ เมื่อเปิดแผงโฟมออกจะเห็นแผงหน้าตู้ และแผงหลัง ลงสีดำด้านแบบเดิมๆ ไม่ผิดเพี้ยน พูดได้ว่าด้วยภาพลักษณ์แล้วกลิ่นอายเก่าๆ โชยมาให้สัมผัสรับรู้ได้แบบเต็มๆ นั่นเทียว

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะกลับมาในสไตล์ Retro แบบ Vintage ผู้ผลิตบอกว่ากระบวนการออกแบบและผลิต รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีต่างๆ นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามปัจจุบันสมัยของ JBL ที่มีความก้าวล้ำในเชิงนี้กว่าใคร ผสานเข้ากับการคัดสรรชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เป็นพิเศษกว่าปกติ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของลำโพงรุ่นใหม่นี้ นำมาซึ่งความสุนทรีย์ของเสียงดนตรีอย่างชนิดที่จะเป็นประสบการณ์ใหม่ให้แก่ทุกคนที่ได้สัมผัสเสียงอย่างแท้จริง

โดยให้คุณภาพเสียงออกมาได้ด้วยความไพเราะ น่าฟัง ที่ยังคงเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เสียงซึ่งใครต่อใครใหลหลงมาตั้งแต่ครั้งยังเป็น The Century ขณะเดียวกัน The L100 Classic ยังให้ไดนามิก เรนจ์ ได้ด้วยช่วงเสียงที่กว้างอย่างเหลือเชื่อ รวมทั้งยังมีปลายเสียงแหลมที่กระจ่างใส ทอดขยายออกไปได้ไกลเหมือนไม่มีที่สุด โดยยังคงความนุ่มนวล น่าฟัง ปราศจากสากเสี้ยนของความคมแข็งให้ระคายหู อีกทั้งยังให้พลังเสียงในย่านความถี่ต่ำๆ เปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น กระชับ

ซึ่งกล่าวโดยรวมแล้วมันคือมาตรฐานใหม่ของคุณภาพเสียงแห่งศตวรรษที่ 21 โดยแท้

 

JBL L100 Classic ยังคงระบุว่าเป็นลำโพงแบบ Bookshelf โดยมีขาตั้งเตี้ยที่ออกแบบมาใช้ร่วมกันโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อตั้งวางแล้วแผงหน้าของลำโพงจะเชิดขึ้นเล็กน้อย ในระดับที่ทวีตเตอร์จะยิงเสียงตรงไปยังใบหูที่ตำแหน่งนั่งฟังอย่างพอเหมาะ และยังคงใช้ระบบการทำงานแบบ 3-ทาง ร่วมกับท่ออากาศ Bass Reflex ที่แผงหน้าตู้ลำโพง โดยผลักคลื่นเสียงออกทางด้านหน้าแบบ Front Firing Port เหมือนเดิม

ชุดตัวขับเสียงที่ใช้ประกอบไปด้วยวูฟเฟอร์ (JW300PW-8) ขึ้นรูปกรวยด้วยเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ (Pure Pulp) แบบ Cone ขนาด 12 นิ้ว มิดเรนจ์ (105H-1) ขนาด 5.25 นิ้ว ขึ้นรูปกรวยแบบ Cone ด้วยเยื่อกระดาษบริสุทธิ์เคลือบโพลีเมอร์ (Polymer-Coated Pure Pulp) ส่วนทวีตเตอร์ (JT025Ti1) ขนาด 1 นิ้ว ขึ้นรูปแบบ Dome ด้วยไทเทเนียม โดยขอบโดมนั้นใช้วัสดุนุ่ม (Soft Surround) ยึดกับโครงสร้าง ที่แผงหน้าตู้เหนือท่ออากาศขึ้นไปมีสวิตช์แบบลูกบิดสองปุ่ม นั้น, มีให้เพื่อปรับสมดุลเสียงระหว่างย่านความถี่กลางกับสูง

The L100 Classic ระบุว่าเป็นลำโพงอิมพีแดนซ์ 4-โอห์ม กำหนดให้ใช้กับแอมปลิไฟเออร์ 25-200Wrms วัดค่าความไวได้ 90dB (2.83V/1m) ให้การทำงานตอบสนองความถี่ 40Hz-40kHz (-6dB) มีจุดตัดความถี่ที่ 450Hz และที่ 2.5kHz ขั้วต่อสายลำโพงแบบ Binding-Post 5-ทาง มิติโครงสร้างตู้ (กว้าง x สูง x ลึก) 15.3 x 25.1 x 14.6 นิ้ว

น้ำหนัก 26.7 กิโลกรัม/ตู้

 

ส่วนที่มาที่ไปและทำไมต้องเป็น Model L100 Classic 75 ในวาระพิเศษนี้ Mr. Jim Garret ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และการวางแผนผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงของ Harman International (ปัจจุบัน JBL อยู่ในเครือนี้ที่กว่าสี่ทศวรรษได้ชื่อว่าเป็น American Company รายใหญ่ทางด้านเครื่องเสียง แต่ปัจจุบันของปัจจุบันฮาร์แมน อินเตอร์ ก็ตกเป็นของ Samsung ไปเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ซึ่งหากจะพูดให้ดูดีหน่อยก็คือค่ายใหญ่จากเกาหลีเข้ามาเป็น Partner รายใหญ่, ว่างั้นเถอะ) ได้บอกว่า

“เราประสบความสำเร็จอย่างมากกับรุ่น L100 Classic นับแต่เปิดตัวมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2018 และเราคิดว่าไม่มีวิธีใดที่จะดีไปกว่าการฉลองครบรอบ 75 ปี ของแบรนด์ JBL ด้วยลำโพงรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่อาจจะเป็นลำโพงที่โดดเด่นที่สุดของเราตลอดกาล และเชื่อว่าลำโพงที่ไม่เหมือนใครคู่นี้ จะถูกกำหนดให้เป็นรุ่นที่คนรักดนตรีทั่วโลกมีความต้องการอย่างมาก”

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ JBL L100 Classic 75 คือวีเนียร์ไม้สักที่สวยงามซึ่งประดับอยู่ทุกด้านของผนังโครงสร้างตู้ลำโพง ที่แผงหน้าของพื้นผิวได้ถูกเสริมด้วยตะแกรงโฟม Quadrex สีดำ ที่ถูกขับเน้นด้วยตราสัญลักษณ์ JBL สีทองและดำ ป้ายรุ่นพิเศษมีอยู่ทั้งที่ด้านหน้าและด้านหลังของตู้ลำโพง รวมถึงป้ายแผ่นโลหะที่ระลึกซึ่งมีลายเซ็นของวิศวกรใหญ่ของอย่าง Chris Hagen กำกับเอาไว้ รวมถึงมีหมายเลขเฉพาะของแต่ละคู่ที่มีหมายเลขตรงกัน

ซึ่งทั้งหมดมีการผลิตออกมาเพียง 750 คู่เท่านั้น

 

ทางด้านระบบเสียงของลำโพงรุ่นพิเศษนี้ ได้มีการออกแบบระบบกันสะเทือนของวูฟเฟอร์ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาใหม่ทั้งระบบ รวมทั้งชุดขั้วต่อที่ให้สามารถใช้งานได้แบบ Bi-Wiring เหมือนเดิม เป็นขั้วต่อระดับพรีเมียมแบบ Gold-Plated รวมทั้งชุดขาตั้งเฉพาะที่เป็นแบบดั้งเดิม Model JS-120

ทางด้านชุดตัวขับเสียงที่ใช้ในลำโพงรุ่นนี้ มีแตกต่างไปจากรุ่นคลาสสิคเดิมเล็กน้อย รวมทั้งมีการปรับปรุงและปรับแต่งบางด้านเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก โดยยังคงใช้ทวีตเตอร์ที่เป็นไทเทเนียม โดม ซึ่งได้ผนวก Acoustic Lens ไว้ที่ด้านหน้า ทำงานร่วมกับมิดเรนจ์ที่เปลี่ยนไปใช้รุ่น JM125PC-8 ขนาด 5 นิ้ว การทำงานในย่านความถี่ต่ำยังคงเป็นหน้าที่ของ JW300SW-8 ซึ่งทำงานในระบบ Bass Reflex โดยได้มีการปรับจูนที่เป็นการเพิ่มพลังเสียงในย่านความถี่ต่ำให้มากยิ่งขึ้นผ่านท่ออากาศที่ด้านหน้า

เวลานี้ทั้งลำโพง L100 Classic 75 และอินติเกรตเต็ด แอมป์ SA750 ยังไม่ได้ออกสู่ตลาด แต่เปิดราคาค่าตัวมาแล้วที่ US$5,500.- กับ US$3,000.- ตามลำดับ โดยมีกำหนดลงตลาดประมาณเดือนพฤษภาคมที่จะถึง

สำหรับแฟนานุแฟนค่ายนี้ในบ้านเราลองสอบถามกำหนดการมาถึงที่แน่นอน รวมทั้งประมาณการด้านราคา และถ้าจะ Pre-Order กับผู้นำเข้าเอาไว้ก่อน ก็น่าจะไม่ผิดกติกาแต่อันใด