ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 5 - 11 กุมภาพันธ์ 2564 |
---|---|
เผยแพร่ |
สรุปข่าวมติชนสุดสัปดาห์
0 พักโทษ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา”
0 พ้นเรือนจำ 14 มีนาคม
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษได้ประชุมพิจารณาผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ โดยในรอบนี้มีผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์ไม่เกิน 500 คน ในจำนวนนี้มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ต้องขังในคดีไร่ส้ม เข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ และจะออกจากเรือนจำวันที่ 14 มีนาคมนี้ ซึ่งนายสรยุทธจะต้องเข้าอบรมโครงการโคกหนองแห่งน้ำใจและความหวังก่อนออกจากเรือนจำ และจะต้องติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (กำไลอีเอ็ม) รวมทั้งต้องรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติตามนัด
อนึ่ง นายสรยุทธซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี 24 เดือน เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการลดโทษมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2563 และครั้งนี้ก็ได้ลดวันต้องโทษเช่นกัน ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ ทำให้โทษของนายสรยุทธเหลือโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน ตามกำหนดจะพ้นโทษในปี 2566
0 ยื่นยุบ “ก้าวไกล” หนุนม็อบ-แก้ ม.112
0 พิธาบอกไร้สาระ-เล็งแจ้งความกลับ
นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ขอให้ตรวจสอบการกระทำของพรรคก้าวไกล กรณีพรรคและสมาชิกพรรคแสดงความเห็นทางการเมือง เข้าร่วมกับผู้ชุมนุม ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมือง ถือเป็นการกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวน หรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน รวมทั้งกรณียื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด และมาตรา 112, ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ตลอดจนการลงมติเห็นชอบร่าง รธน.แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับไอลอว์ ว่าเข้าข่ายการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 45 และมาตรา 92(2) (3) จึงขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัย และเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องนี้ว่า ได้อ่านเอกสารคำร้องที่นายณฐพรส่งให้ กกต.แล้ว ไม่มีอะไรจะพูดอะไรมากนอกจากคำว่า “เลอะเทอะ” และ “ไร้สาระ” พรรคกำลังพิจารณาฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายณฐพร แจ้งความเท็จ
0 ครม.อนุมัติแผ่นป้ายทะเบียนรถ
0 มีตัวอักษรผสมสระ-วรรณยุกต์ได้
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนด ขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถและการแสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ฉบับที่…) พ.ศ. … (กำหนดแผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษ) ซึ่งมีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดให้ลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน มีตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือวรรณยุกต์ หรือตัวเลขได้ เพื่อนำลักษณะแผ่นป้ายดังกล่าวและหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นที่นิยมหรือเป็นที่ต้องการของประชาชนออกเปิดประมูลเป็นการทั่วไป เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
“ตัวอย่างของเรื่องนี้ คือ ใครที่อยากมีป้ายทะเบียนรถยนต์ที่มีชื่อของตัวเราเองก็สามารถมีได้ เช่น ป้ายทะเบียนชื่อ ไตรศุลี 1 ศรีสะเกษ ก็สามารถทำได้” น.ส.ไตรศุลีกล่าว
0 นายกฯ สั่งชะลอดำเนินคดีผู้สูงอายุ
0 รับเงินช่วยเหลือซ้ำซ้อน-นับหมื่นคน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีการรับเงินช่วยเหลือทั้งเบี้ยผู้สูงอายุและบำนาญตกทอด ซ้ำซ้อนของผู้สูงอายุ ซึ่งผิดระเบียบ และกรมบัญชีกลางได้แจ้งมายังกระทรวงมหาดไทยให้ทวงเงินคืน และอาจดำเนินคดี โดยมีผู้สูงอายุรับเงินซ้ำซ้อนอื่นๆ ซึ่งผิดระเบียบกว่า 1.5 หมื่นคน ว่า ขณะนี้เบื้องต้นเราหาทางออกด้วยวิธีเจรจา รอมชอม เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แต่ทางกฎหมายมีคำสั่งให้หาวิธีที่เหมาะสม ต้องดูรายละเอียดกฎหมายว่าจะแก้ไขอย่างไร ขั้นต้นท้องถิ่นใช้วิธีเจรจาไปก่อน
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ระบุว่า “เรื่องเบี้ยผู้สูงอายุนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อน และให้ชะลอการเรียกคืนหรือฟ้องร้องเอาไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบและแก้ไขความคลาดเคลื่อนของข้อมูลต่างๆ กันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ดูแลเรื่องผู้สูงอายุ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นคนจ่ายเงิน และกรมบัญชีกลางที่ดูเรื่องการเบิกจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทุกฝ่ายกำลังคุยกันว่าจะมีทางออกอย่างไร ขอให้คุณตาคุณยายไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมรับปากจะดูแลให้ ผมเข้าใจความรู้สึกของท่านดี ท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำตามระเบียบ”
“อย่างไรก็ดี ทางออกมีอยู่แล้วโดยไม่มีใครต้องเดือดร้อน รอสักหน่อยนะครับ และไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปหาเงินมาใช้คืนหลวงหรือจะต้องขึ้นศาล ผมจะจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยครับ”