ปฏิบัติการมิชชั่นพอสสิเบิล จับ ‘ลูแปง ไต้หวัน’ ตำรับเคค็อกเทล เผยเหตุฤทธิ์มรณะนักเสพดับสยอง / โล่เงิน

โล่เงิน

ปฏิบัติการมิชชั่นพอสสิเบิล
จับ ‘ลูแปง ไต้หวัน’ ตำรับเคค็อกเทล
เผยเหตุฤทธิ์มรณะนักเสพดับสยอง

เรื่องราวของยาเคนมผง เคยาทะเลทราย และอีกหลายยาที่เรียกว่าสูตรค็อกเทลยังคงไม่หายไปจากหน้าสื่อ เมื่อตำรวจเปิดปฏิบัติการไล่ล่าล้างบางยานรกที่มอมเมาสังคมไทยมาช้านาน
การผสมสารเสพติดหลายชนิดเหมือนจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่นั่นเป็นเทคนิคที่นิยมในหมู่นักค้านักเสพอยู่แล้ว เพื่อลดต้นทุน เพิ่มมูลค่า เพิ่มความแรงและความสนุกมากขึ้น ทั้งยังไม่มีสูตรตายตัว ตามแต่จริตผู้เสพ
หารู้ไม่ ความอยากรู้อยากลอง นำมาสู่การสังเวยหมู่นักเสพรอบเมืองกรุงและปริมณฑล ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมเป็นต้นมา รวมแล้ว 10 ศพ ซึ่งผลทางแพทย์ระบุว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลว และยังมีคนเจ็บอีกหลายราย
การตายข้างต้น เกิดเป็นคดีความในอีกหลายท้องที่ ซึ่งตำรวจจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่เกี่ยวกับเหตุครั้งนั้นไปแล้ว 9 ราย และยังมีคดีจับยาเคอีกยิบย่อยนับไม่ถ้วน
ทำเอาเรื่องยาเสพติดที่แพร่ระบาดหนักตั้งแต่ต้นปีถูกผลักเข้าไปในที่ประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ที่มีเรื่องการปราบปรามยาเสพติดเป็นส่วนสำคัญ
โดย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ติดตามสืบสวนแหล่งขายยาเสพติดในโลกออนไลน์ เนื่องจากมีการซื้อ โฆษณาชักชวนผ่านโซเชียลและดาร์กเว็บเป็นอย่างหนัก นับตั้งแต่เมื่อปี 2563 ที่โควิด-19 แพร่ระบาด
ส่งผลให้การตรวจคัดกรองของเจ้าหน้าที่เข้มข้นมากขึ้นจนการซื้อ-ขายแบบเดิมเต็มไปด้วยความลำบาก

ล่าสุด 25 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจนครบาล และตำรวจนครบาล 5 ได้บุกจับกุมนายโช วาย เชิน ชาวไต้หวัน ฉายา “ลูแปง ไต้หวัน” นักผสมและค้ายาเสพติด อายุ 38 ปี ได้ที่คอนโดมิเนียมย่านราชเทวี พร้อมเคตามีน ยาอี ยาไอซ์ เฮโรอีน โคเคน ยานอนหลับจำนวนมาก รวมถึงเครื่องปั่น และแก้วบีกเกอร์พลาสติก
ปฏิบัติการครั้งนี้ “บิ๊กปั๊ด” พร้อม พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3, พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 นำกำลังปฏิบัติการพิเศษสยบไพรีรุดเข้าสอบปากคำนายโชถึงที่คอนโดฯ
ก่อนที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์จะเผยว่า เดือนตุลาคม 2563 บก.ปส.3 บช.ปส.ตรวจยึดยาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ในกล่องขนมเตรียมส่งผ่านพัสดุต่างประเทศ พบเป็นยาเคตามีนและไอซ์ หรือที่เรียกว่าเคนมผง โดยคนร้ายได้ใช้ชื่อและนามสกุลปลอมหลบกบดานตามคอนโดฯ หรูรอบกรุงเทพฯ ในย่านลุมพินี, พระราม 9, ทาวน์อินทาวน์, รามคำแหง และสุขุมวิท
ภายหลังการจับกุม ยังพบสูตรการผสมยาเสพติดบันทึกอยู่ในโทรศัพท์มือถือนายโช มีคราบสารเสพติดในเครื่องปั่นที่ตรวจยึด 3 ชนิด คือ ยาเค ยาอี และยานอนหลับ ลักษณะเดียวกับยาเคนมผงที่ตำรวจจับกุมได้ในหลายพื้นที่ตามข่าว

เป็นที่ทราบว่าเคตามีนเป็นที่นิยมของกลุ่มนักเสพในประเทศไต้หวัน จึงมีนายทุนชาวไต้หวันมาลอบเปิดโรงงานผลิตอยู่ตามแนวชายแดนไทยฝั่งเมียนมา โดยยาเสพติดที่ได้จะแบ่งขายในประเทศไทย ส่งกลับไปขายที่ประเทศไต้หวัน และส่งขายในประเทศโซนยุโรป ส่วนยาเคนมผงและเคทะเลทรายที่ระบาดในไทยนั้นไม่มีการผูกขาดในตลาด เพราะยาเสพติดที่ส่งตรงมาจากแหล่งผลิต จะยังไม่ถูกผสมหรือปรุงแต่งใดๆ แต่มักจะผสมขึ้นมาใหม่ในระดับผู้ต้องการค้าปลีก
เห็นได้ว่า “สูตรค็อกเทล” นี้ไม่ได้มีเพียงประเทศไทย แต่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย
สำหรับนายโชถือว่ามีการปกปิดตัวเองเป็นอย่างดี และมีความสามารถในการปรุงยาได้หลายชนิด แม้จะทำธุรกิจในรูปแบบที่แตกต่างจากเครือข่ายของคนไทย แต่มีผู้ร่วมขบวนการเป็นคนไทยคอยช่วยเหลือ ทำให้สามารถทำธุรกิจมาได้อย่างยาวนาน
ยาของนายโชยังเป็นที่นิยมในหมู่นักเที่ยวกลางคืน เท่าที่ตรวจสอบตอนนี้มี 15 ชนิด หนึ่งในนั้นคือยี่ห้อแบล็กเลเบิล

อย่างไรก็ตาม จากการซักถามนายโช เจ้าตัวยังระบุว่า สาเหตุที่ผู้เสพยาเคนมผงแล้วเสียชีวิตนั้น ก็เป็นเพราะการเสพผิดวิธี แท้จริงต้องละลายน้ำและดื่ม เรียกว่า “Happy water” ไม่ใช่การสูดดมแบบยานัตถุ์เข้าทางจมูกแบบปกติ
ทั้งนี้เนื่องจากที่จมูกจะมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก ทำให้ยาดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วและออกฤทธิ์แรงขึ้นจนร่างกายรับไม่ไหวและเสียชีวิตในที่สุด
ขณะเดียวกันตำรวจยังคงหาความเชื่อมโยงของนายโชกับเครือข่ายยาเสพติดในไทย เพราะผู้ต้องหาลอบค้ายาเสพติดมานาน มีข้อมูลที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกมาก จึงยังไม่ชี้ชัดว่ามีแก๊งค้ายา “มิคาโดะ” จากย่านสายไหมมาเกี่ยวโยงหรือไม่
สำหรับแก๊งมิคาโดะ เป็นแก๊งรถซิ่งที่พัวพันในวงการค้ายาเสพติด เคยเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2550 ก่อนทิ้งช่วงหายไปแล้วกลับมาอีกครั้ง ปี 2554-2556 อยู่ในพื้นที่ สน.โชคชัย สน.พหลโยธิน และ สน.สายไหม ปัจจุบันมีชื่อกลับมาปรากฏบนสื่ออีกครั้งหลังการตาย 10 ศพของวัยรุ่นเสพเคนมผง ที่เชื่อว่ามาจากเอเย่นต์ของเครือข่ายนี้
แก๊งมิคาโดะมีหัวหน้าสั่งการอยู่หลายคน มีชายเจ้าของสูตรยา รองลงมาเป็นนอมินีคอยประสานกลุ่มพ่อค้ารายใหญ่ ที่กระจายตัวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถัดมาคือกลุ่มพ่อค้ารายย่อย
ทั้งนี้ ย่านสายไหมถือเป็นทำเลทองในการขนถ่ายยาเสพติดรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากเป็นรอยต่อระหว่าง จ.ปทุมธานี ซึ่งการข่าวว่ามีแหล่งซุกยาอยู่ที่ อ.ลำลูกกา สะดวกต่อการนำเข้าหรือส่งออกต่างจังหวัด
การจะปราบผู้ค้ายานรกเหล่านี้ให้เข็ดหลาบ แม้หนทางยังอีกยาวไกล แต่สงครามครั้งนี้ยังไม่จบ คงต้องติดตามกันต่อไป