ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 29 ม.ค. – 4 ก.พ 2564

ขอแสดงความนับถือ

 

มีก้อนอิฐ และดอกไม้

มาถึงมติชนสุดสัปดาห์

เริ่มที่ก้อนอิฐก่อน

 

เรียน บ.ก.ครับ

ผมขอแจ้งการลงรูปผิดในมติชนรายสัปดาห์ ฉบับ 2110 ครับ

คอลัมน์ของศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ หน้า 59

เนื้อหาเป็นเรื่องของนายผี อัศนี พลจันทร แต่ลงรูปเป็นจิตร ภูมิศักดิ์ ครับ

ผมไม่เเน่ใจว่าผู้เขียนลงผิด หรือทีมงาน แต่สังเกตว่าช่วงหลังๆ มีผิดพลาดเกือบทุกเล่มครับ

ฝากเรื่องคุณภาพของการทำงานด้วยครับ

ยังอยากอ่านงานไปเรื่อยๆ ครับ

กัมปนาท บริบูรณ์

สมาชิกคนหนึ่ง

 

มิใช่ความผิดของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ อย่างแน่นอน

เป็นความผิดพลาดของทีมงานและ บ.ก.ไม่ถ้วนถี่ในการตรวจตรา

จึงเกิดความผิดพลาด (อีกแล้ว)

ขออภัย และขอบคุณ การเอาใจใส่ของกัมปนาท บริบูรณ์

 

ส่วนดอกไม้ มาจากผู้ที่ใช้นาม

“ข้าราษฎรผู้น้อย”

เขียนมาว่า

มติชนสุดสัปดาห์เล่มนี้น่าสนใจที่รูปของชายสามคนด้านมุมบนขวา และรูปท่านรอง และข้าพเจ้าขอแสดงความไว้อาลัยด้วย

…เริ่มเรื่องเลยครับ

ท่านแรก ดร.ป๋วย อุ่นใจ

ชื่อท่านนั้นมาก่อนเลยครับ เฮ้ย…ดร.ป๋วย ตรงกับท่านอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในอดีต

ถัดมาอยู่ ม.มหิดล สถาบันเดียวกับผม

…คณะวิทยาศาสตร์ เอกชีววิทยา ผมก็เคยเรียนที่ตึกกลม

…กระผมเรียนคณะวิทยาศาสตร์ตอนปีสอง พอขึ้นปีสาม ข้ามฝั่งไปเรียนที่ศิริราช

…ท่านที่สอง อ.ชาตรี ผมไม่คุ้นชื่อท่าน เพราะผมรู้น้อยเอง

แต่ดูคณะสถาปัตย์ อันนี้สนใจมากครับ

การเมืองคือเรื่องของสถาปนิกเหรอ เกิดคำถามครับ หักมุม 180 องศา จาก ดร.ป๋วย

มาท่านที่สาม ใช่เลย ก็แนะนำมาตั้งแต่เล่มก่อนๆ

ตอนนั้นชื่อของท่านสมองอันเรียบของผมยังไม่เก๊ต

แต่เห็นชื่อหนังสือที่มีคำว่า “ศักดินา” รีบหามาอ่านเลยครับ

เพราะเป็นคำที่มีในหนังสือของจิตร ภูมิศักดิ์

สามหนุ่มสามมุม

ต้องศิโรราบต่อมติชนสุดฯ ครับ

สุดยอดเจ็ดเซียนจริงๆ …ขอคารวะสักหลายๆ จอก

…ขอคารวะ

จากข้าราษฎรผู้น้อย

 

ส่วนมาก ผู้ที่ข้ามฝั่งไปเรียนที่ศิริราช มักจะไม่ดื่ม

แต่เมื่อ “ข้าราษฎรผู้ร้อย” คารวะมาหลายๆ จอกเช่นนี้

มีแต่คงต้องตอบสนองด้วยความขอบคุณ

และขอบคุณแทนป๋วย อุ่นใจ, ชาตรี ประกิตนนทการ และณัฐพล จริงใจ ที่ให้ความสนใจในงานเขียน

ซึ่งหากไม่เข้าใจผิด

ตอนนี้ “ข้าราษฎรผู้น้อย” คงอาจกำลังใช้วิทยายุทธ์ปราบไวรัสโควิด-19 อยู่ด้วยกระมัง

 

ส่วน “ป๋วย อุ่นใจ” ผู้ร่วมสำนัก “ตึกกลม” กับข้าราษฎรผู้น้อย

ใน “มติชนสุดสัปดาห์” ฉบับนี้ ใช้ความเป็นนักชีววิทยา

ไขปริศนามุขไวรัลที่ขจรขจายไปทั่วโซเชียลนี้อย่างน่าสนใจ

“อยากรู้ว่าติดโควิดหรือไม่ ต้องผายลมแล้วดมดู”

เพราะอย่างที่ทราบ หนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19

ราวๆ 80 เปอร์เซ็นต์ คือความสามารถในการรับรส-รับกลิ่น หายไป

การมิได้กลิ่น “ผายลม”

จึงเป็นสัญญาณเตือนถึงการตกเป็นเหยื่อโควิด-19

 

ที่น่าตกใจไปกว่านั้น

จอมยุทธ์ป๋วยบอกว่า มีผลวิจัยและผลการทดลองทยอยออกมาระบุว่า

การติดเชื้อโควิดในบางคน อาจจะทำให้การสูญเสียประสาทสัมผัสในการรับรส ทั้งรสชาติปกติ (taste) ไปจนถึงรสซาบซ่า ชา เผ็ดร้อน ที่เรียกกันว่าเคมิสธีสิส (chemesthesis) ไปจนหมดสิ้น (ageusia)

หรือถ้าเบาหน่อยก็แค่ทำให้การรับรสเพี้ยนไป (dysgeusia)

อาจจะต้องใช้เวลารักษานาน 6 เดือนถึง 2 ปี

บางเคสหาย

บางเคสก็ดับไปเลย

หรือบางเคสผลออกมาเพี้ยนๆ มันทำให้ชีวิตของคนป่วยสับสน และทรมาน

อาการแบบนี้เรียกว่าพารอสเมีย (parosmia)

หมดกันกับความสุนทรีย์ทางอาหาร!

 

โลกมีผู้ป่วยโควิด-19 ทะลุ 100 ล้านคนไปแล้ว

ไม่รู้ว่าจะมีคนตกอยู่ในภาวะทรมานอย่างข้างต้นสักเท่าไหร่

อืมม…บางที คำผรุสวาท “ผายลมมารดาเจ้า”

อาจเป็นความไพเราะ และหอมหวน ที่หลายคนปรารถนาจะได้กลิ่น!!