จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 15-21 มกราคม 2564

จดหมาย

ระดับโลก

การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา

กล่าวปราศรัย พูดในวิดีโอ และในทวีต ปฏิเสธไม่ยอมรับผลเลือกตั้งในสหรัฐ และยุยงผู้สนับสนุนของเขา

ยุยงให้เกิดความรุนแรง พร้อมกับปฏิเสธไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง

จนเกิดการบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภานั้น

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐ ได้ติดตามสถานการณ์ และเศร้าใจอย่างมากกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐ

องค์กรของเราเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสหรัฐหาทางลด ไม่ใช่เพิ่มบรรยากาศของความหวาดกลัว ความไม่แน่นอน และความโกลาหล

เรายังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีและรัฐบาลของเขา ประกันว่าจะสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและซื่อตรง

ต่อต้านข้อมูลเท็จและบิดเบือน

ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ตามอำนาจหน้าที่ของตน

เพื่อป้องกันและประณามการโจมตีทำร้ายและการข่มขู่

การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างสงบ

ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงภัยต่อสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยของประชาชน และหลักนิติธรรมในสหรัฐ

การยอมรับความเห็นของกลุ่มขาวสุดโต่งและกลุ่มสุดโต่งอื่นๆ ของประธานาธิบดี ยิ่งช่วยกระพือไฟแห่งความโกลาหลและความรุนแรง ดังที่เราเห็นกันในวันนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐทุกคนต้องเคารพ คุ้มครอง และปฏิบัติให้เป็นผลซึ่งสิทธิมนุษยชน

รวมทั้งสิทธิที่จะปลอดจากความรุนแรง การข่มขู่ และการเหยียดผิว

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งทำงานให้ผู้มีอำนาจทุกคนเคารพกฎหมาย ปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน และต้องรับผิดหากไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ในระดับโลกเราได้ประจักษ์ถึงความเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จเสียเอง และยุยงให้เกิดความรุนแรงทางการเมืองและการเหยียดผิว เพื่อรักษาอำนาจของตนเองเอาไว้ คนทั้งโลกจับตามองอยู่ เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนและสมาชิกของเรากว่า 10 ล้านคน

เป็นจุดที่คนในสหรัฐต้องใคร่ครวญสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ยุยงให้ผู้สนับสนุนของเขาก่อความรุนแรงและความวุ่นวายมาตลอด มันไม่ใช่การทำหน้าที่ของผู้นำ แต่เป็นของผู้ยุยงปลุกปั่น

เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนต้องประณามคำพูดของประธานาธิบดี

บ๊อบ กู๊ดเฟลโลว

รักษาการผู้อำนวยการบริหาร

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐ

 

มีหลายคนถามถึง

ท่าทีของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

ต่อการเมืองสหรัฐ

เมื่อแอมเนสตี้ สาขาในไทย ส่งแถลงการณ์มาให้พิจารณา

ก็เลยลงให้อ่านว่าเขามีท่าทีอย่างไร

กล้าแสดงจุดยืนต่อมหาอำนาจโลกหรือเปล่า

เลือกปฏิบัติ จ้องแต่จะเล่นงานรัฐบาลไทย หรือไม่

โปรดพิจารณา

 

ระดับท้องถิ่น

เรียน บรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์

การเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านพ้นไป

มีการพูดให้ประชาชนฟังแล้วว่า มีการทุจริตมาก

แต่ประชาชนก็ยังเลือกอยู่อีก

แสดงว่า ประชาชนจำนวนมากไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ

ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรให้ประชาชนเลือกตัวแทนไปเลือก ส.ส. หรือ อบจ. น่าจะเป็นสิ่งจำเป็น

โดยแบ่งเป็น 2 พวก

พวกหนึ่ง คือพวกที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ขึ้นไป ไม่ต้องเลือกตัวแทน

ส่วนพวกที่การศึกษาต่ำกว่านี้ ต้องเลือกตั้งตัวแทน

เช่น ประชาชน 100 คน เลือกตัวแทนให้เหลือ 50 คนหรือ 40 หรือ 30 คน ไปเลือก

ขอแสดงความนับถือ

วันชัย

 

ดูเหมือนคุณ “วันชัย” จะเคยเสนอแนะแนวทางแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง

และยังยืนยันแนวคิดนี้ คือให้มีระบบตัวแทนเลือกตั้ง

ซึ่งไม่รู้ว่า จะมีผู้เห็นด้วย มากเพียงใด

ยิ่งการจำแนก “ประชาชน” ตามระบบการศึกษาด้วยแล้วยิ่งไม่แน่ใจ

บางทีมันก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า ผู้มีการศึกษาที่มากกว่าจะมีวิจารณญาณในการเลือกดีกว่า

การให้ประชาชนมีสิทธิโดยเท่าเทียมกัน

น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ากระมัง