ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 - 31 ธันวาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีโอกาสไปร่วมงานสัมมนาประจำปีของสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดนครราชสีมา
“เช็กความพร้อม สู่มหานครโคราช” ทำให้มีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นที่นั่นพร้อมหน้าพร้อมตา
พบความแตกต่างของตลาดอสังหาฯ โคราชกับจังหวัดอื่นๆ อย่างน่าประหลาดใจ
ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการบ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียม ในหลายๆ จังหวัดของประเทศเจอภาวะตลาดชะลอตัว ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการแวะเข้าเยี่ยมชมโครงการของผู้สนใจลดน้อยลง จำนวนคนจองลดน้อยลง
และยังพบปัญหาการปฏิเสธปล่อยกู้ของธนาคารเพิ่มมากขึ้น
แต่ที่โคราชไม่ใช่เช่นนั้น โครงการอสังหาริมทรัพย์บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ของบริษัทอสังหาฯ ที่นี่มีอัตราการเติบโตกันเป็นปกติในปีที่กำลังจะผ่านไป บางบริษัทอาจดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
เรียกว่า สวนทางกับทิศทางอสังหาฯ รวมทั้งประเทศกันเลยทีเดียว
สอบถามหาข้อมูลข้อเท็จจริงกัน จึงได้รู้ว่า เศรษฐกิจโคราชที่รับรู้กันว่าเป็นเมืองชุมทางการขนส่งทางถนน ทางรถไฟ และเป็นชุมทางการค้าภาคอีสานก็จริง โคราชเป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทก็จริง
แต่อีกความจริงหนึ่งที่คนภายนอกมักลืม คือโคราชเป็นเมืองที่มีข้าราชการกินเงินเดือนจำนวนมาก เพราะเป็นที่ตั้งส่วนราชการต่างๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนมาก อาทิ เป็นที่ตั้งของกองทัพภาคที่ 2 ทำให้มีข้าราชการประจำที่อยู่โคราชเป็นจำนวนมาก
ข้าราชการทั้งหลายไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ไม่ได้สูญเสียรายได้จากการ “ล็อกดาวน์เมือง” จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทุกคนยังได้รับเงินเดือนเป็นปกติ เมื่อมีความพร้อมและมีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ก็ตัดสินใจซื้อเป็นปกติ
อสังหาฯ บ้าน คอนโดฯ เมืองโคราชจึงค้าขายกันเป็นปกติด้วยประการฉะนี้
ส่วนอสังหาฯ โรงแรม รีสอร์ต บนเขาใหญ่ที่ได้รับผลกระทบธุรกิจท่องเที่ยวชะงักเพราะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด แม้จะเป็นพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช แต่ก็เหมือนเป็นส่วนเศรษฐกิจที่เป็นอิสระไม่ได้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโคราชโดยตรง เป็นคนกรุงเทพฯ มาเที่ยวเขาใหญ่วันหยุดแล้วก็กลับ
วิกฤตใหญ่ทำให้เราเห็นมุมมองอะไรบางอย่างที่แปลกแตกต่างไปจากเดิม
ยามเศรษฐกิจโลกเฟื่องฟู การท่องเที่ยวบูม การส่งออกคึกคัก จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวมาก ก็จะสร้างรายได้ให้กับจังหวัดได้เยอะ เป็นที่น่าอิจฉาของจังหวัดอื่นๆ
ตรงกันข้าม เมื่อเศรษฐกิจโลกและประเทศถูกไวรัสโควิด-19 ล็อกดาวน์ การเดินทางถูกตัดขาด ธุรกิจท่องเที่ยวหยุดเฉียบพลัน จังหวัดที่มีรายได้จากท่องเที่ยวรายได้หายเกือบหมด จังหวัดที่มีรายได้กระจายหลายทางค่อยยังชั่วหน่อย จังหวัดที่มีรายได้ประจำเงินเดือนไม่ค่อยมีปัญหา
ดูท่าต้องมาทบทวนแนวทางการพัฒนากันใหม่ทั้งหมด
ตั้งแต่การผลิตสินค้าและบริการของตลาดโลก เรื่องโครงสร้างการผลิตและรายได้ของประเทศ จนถึงระดับจังหวัดว่า ควรมี porfolio แหล่งที่มารายได้แบบไหนจึงจะมีเสถียรภาพรับแรงกระแทกวิกฤตการณ์ต่างๆ ได้ดี
นี่ชวนกันคุยชวนกันคิดกันเองนะ ไม่ได้นำเสนอรัฐบาล เพราะท่านมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอยู่แล้ว
555