ผ่าคดี 112 | ตร.เดินหน้า ลุยแจ้งข้อหาแกนนำ ม็อบตอบโต้ – ยื่นยูเอ็น ชี้ลิดรอนสิทธิประชาชน

เป็นประเด็นการเมืองที่แหลมคม สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎร ที่นอกจากยื่นข้อเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกจากตำแหน่ง แก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วยังมีเรื่องของการปฏิรูปสถาบันอีกด้วย

จนกลายเป็นคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ ให้ใช้กฎหมายทุกมาตราเพื่อควบคุมม็อบ

รวมถึงเรื่องมาตรา 112 ด้วย

แต่กรณีนี้กลับไม่เหมือนกับที่เป็นมา เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุมัติหมายจับ แต่ให้ออกเป็นหมายเรียกแทน

แถมยังเป็นการแจ้งข้อหาแบบรวมกลุ่ม ไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลอีกต่อไป

กลายเป็นคำถามถึงความเหมาะสมที่นำกฎหมายนี้มาใช้ ในสถานการณ์เช่นนี้

ขณะที่ม็อบก็ประกาศล่าชื่อเสนอยกเลิกกฎหมาย พร้อมร้องยูเอ็นว่าเป็นกฎหมายที่ผิดต่อพันธสัญญาเรื่องสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี

จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะมีบทสรุปอย่างไร

เร่งคดี112-รายงานตัวพรึ่บ

หลังจากการส่งสัญญาณใช้กฎหมายทุกมาตราดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เจ้าหน้าที่ก็เดินหน้าในทันที โดยมีรายงานข่าวว่าพยายามยื่นขอหมายจับจากศาล แต่ศาลเห็นว่าเป็นคดีที่ผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงควรให้ออกเป็นหมายเรียกก่อน

โดยในวันที่ 8 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่มีการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดี 112 ใน 3 ท้องที่ ประกอบด้วย ที่สภ.เมืองนนทบุรี นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิ จิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เข้ารับทราบข้อกล่าวหามาตรา 112

พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ระบุว่า เป็นการดำเนินคดีตามความผิดที่ปรากฏในการชุมนุมกันที่บริเวณริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี ซึ่งมีการแสดงละครล้อเลียน โดยมีภาพบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ เมื่อนำภาพมาตรวจสอบดูก็พบว่าเข้าข่ายจาบจ้วงสถาบันจริง

ขณะที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือปอ แกนนำขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และผู้ชุมนุมปราศรัยที่หน้าสถานทูตเยอรมัน 9 คน เข้าพบ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.อคฝ.รรท.ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตาม ม.112 กรณีการชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมัน เมื่อวันที่ 26 ต.ค.

ส่วนที่ สน.ชนะสงคราม นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน พร้อมนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข คอลัมนิสต์เว็บไซต์ประชาไท เข้าพบ พ.ต.ท.โชคอำนวย วงศ์บุญฤทธิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม เพื่อรับทราบข้อหาตามหมายเรียกในข้อหา ม.112 กรณีการชุมนุมปราศรัยและฝังหมุดคณะราษฎร 2563 ที่สนามหลวงระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา

ต่อมาวันที่ 9 ธ.ค. นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ขอนแก่นพอกันที พร้อม น.ส.รวิศรา เอกสกุล น.ส.สุธินี จ่างพิพัฒน์นวกิจ และน.ส.ณัชชิมา อารยะตระกูลลิขิต กลุ่มผู้อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องถึงปัญหาทางการเมืองในประเทศไทยเป็นภาษาเยอรมัน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกข้อหา ม.112 จากการชุมนุมปราศรัยที่หน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ต.ค.

นอกจากนี้เพนกวิน-พริษฐ์ และรุ้ง-ปนัสยา ก็เข้าพบตำรวจบก.ปอท.เพื่อรับทราบข้อหาม.112 อีกเช่นกัน

ทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ก่อนได้รับการปล่อยตัว ให้ใช้สิทธิต่อสู้คดี ไม่มีการคุมตัวส่งเรือนจำของฝากขังแต่อย่างใด

ม็อบสู้-ยื่นฟ้องยูเอ็น

อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถหยุดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดประสงค์การใช้มาตรา 112 ว่าเพื่อสกัดให้ม็อบอ่อนแรง โดยเรื่องดังกล่าวเพนกวิน-พริษฐ์ เผยว่า มองว่าทั้งความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งเชื่อว่าสิ่งที่ได้โพสต์ไปเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย

ขณะที่ตำรวจยังทยอยส่งหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนของตนถูกดำเนินคดีเฉพาะมาตรา 112 ไปแล้ว 7 คดี หากรวมกับคดีอื่นๆ ถูกฟ้องไปแล้วรวม 29 คดี และเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเป็นวันที่ 14 ธ.ค. ต้องไปรับทราบข้อหาที่ สน.สำราญราษฎร์ เรื่องทำทรัพย์สินเสียหายจากการเคลื่อนย้ายกระถางต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ส่วนจะทำให้การชุมนุมลดระดับลงหรือไม่ นายพริษฐ์ระบุว่า ในปีหน้าจะมีความดุเดือดเพิ่มขึ้น กระบวนการต่อสู้จะเข้มข้นมากขึ้นรวมถึงแพร่หลายเป็นวงกว้าง ปีนี้เป็นเหมือนการปักธงประกาศชัยชนะที่ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน แต่ปีหน้าจะมุ่งไปให้ถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และทำให้เรื่องที่ขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น

จะยังคง 3 ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มราษฎรไว้เป็นเป้าหมายหลักเช่นนี้

ซึ่งในวันที่ 10 ธ.ค. ได้จัดกิจกรรมเสวนาที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป มีการพูดถึงเรื่องกฎหมายมาตรา 112 เป็นการเฉพาะ และประกาศเปิดเว็บไซต์ เพื่อรวบรวมรายชื่อเสนอยกเลิกมาตรา 112

ขณะที่ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ระบุว่า วันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธ.ค.63 มีการตีความตัวบทมาตรา 112 อย่างกว้างขวางไร้ขอบเขต โดยมีบทลงโทษที่รุนแรงมาก มีประชาชนถูกดำเนินคดีนี้กันแล้วมากกว่าหนึ่งพันคน

โดยในรอบสัปดาห์ มีการใช้กฎหมายนี้ดำเนินคดีต่อแกนนำคณะราษฎรแล้วกว่า 30 คนด้วยกัน

กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จะไปยื่นข้อเรียกร้องต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ และนานาชาติให้กดดันต่อรัฐบาลไทยให้ยกเลิกมาตรา 112 และยุติการดำเนินคดีแกนนำคณะราษฎรทุกคน ทั้งนี้ จะมีการประชุมประเทศสมาชิกสหประชาชาติทั่วโลกประจำปี 2564 ในเดือนเมษายน-มิถุนายน 2564 กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์

โดยข้อเรียกร้องนี้จะถูกนำมาไปสู่การตรวจสอบและพิจารณาในที่ประชุมสหประชาชาติและมีมติกันต่อไป

เป็นการเคลื่อนไหวสู่ระดับโลก ซึ่งต้องจับตาว่าจะมีผลอย่างไร

โดนแล้ว25ราย-กวิ้นหนักสุด

ขณะที่มีรายงานว่าล่าสุดมีแกนนำและผู้ชุมนุมไม่ต่ำกว่า 25 คน ถูกแจ้งข้อหาความผิดมาตรา 112 จากเหตุการณ์หลายกรณี อาทิ กรณีปักหมุดคณะราษฎร ที่สนามหลวง วันที่ 20 ก.ย. กรณีการชุมนุมที่จ.อุบลราชธานี จ.นนทบุรี การชุมนุมม็อบเฟสต์ กรณีการส่งจดหมายราษฎรสาส์น การชุมนุมไล่ขี้ข้าศักดินาที่หน้ารัฐสภา การชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน โดยพบว่านายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เป็นบุคคลที่ถูกดำเนินคดีมากที่สุดถึง 7 กรณี รวมคดีอื่นๆ รวมแล้ว 29 คดี

ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคดีมาตรา 112 ยังมีข้อสงสัยคือจะทำอย่างไรต่อไป เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าในวันปราศรัยของการชุมนุมโดยเฉพาะแกนนำ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. มีเนื้อหาหรือข้อความใดบ้างที่เข้าข่ายความผิดมาตรา 112

ในส่วนของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตอนนี้ยังไม่มีข้อห่วงใยใดๆ แต่จะเตรียมการคัดค้านการฝากขัง และทำหน้าที่ทนายความโดยแนะนำในข้อกฎหมายต่างๆ ให้กับแกนนำและผู้ชุมนุม หลังจากถูกดำเนินคดี

ส่วนประเด็นที่ตำรวจจะใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้นกับแกนนำ ทนายกฤษฎางค์มองว่า มาตรานี้ไม่ได้ใช้มานานแล้ว แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศใช้ยาแรงกับผู้ชุมนุม ตำรวจก็ปฏิบัติตาม จึงอยากขอให้ตำรวจและพนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมในการนำพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีมาพิสูจน์ความผิด

มายด์-ภัสราวลี เปิดเผยว่า ทั้งหมดได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ม.112 ในปัจจุบันถูกยกเลิกไปในหลายประเทศทั่วโลก ขณะนี้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เพื่อต้องการกำราบประชาชนที่เห็นต่าง ขอยืนยันว่าแม้รัฐจะบังคับใช้กฎหมายมาตรานี้เพียงใด ทางกลุ่มก็จะชุมนุมต่อไปไม่ได้เกรงกลัวเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย และยังคงเรียกร้อง 3 ข้อ เหมือนเดิมอย่างแน่นอน

ขณะที่นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ ระยอง ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ทำไมทางตำรวจถึงเพิ่งมาแจ้งข้อกล่าวหา 112 เรื่องการใช้มาตรา 112 ถือว่าเป็นเครื่องมือการกลั่นแกล้งของฝ่ายรัฐบาลที่ใช้กับคนที่เห็นต่างทางการเมืองหรือเปล่า หรือมีการสั่งการมาจากใครบางคนหรือผู้มีอำนาจหรือเปล่า

เป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้กันอีกยาวไกล