จรัญ พงษ์จีน : วัดกระแสก่อนศึกเลือกตั้งนายก อบจ. 20 ธ.ค.

จรัญ พงษ์จีน

เหลือเวลาสัปดาห์เดียวแล้ว “ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด” หรือ “นายก อบจ.” ที่รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตัดสินใจปล่อยผีนำร่อง สิทธิเสรีภาพจะได้กลับงอกงามขึ้นมาใหม่ โดย “ประชาชน-พลเมือง” อีกครั้ง

ทำสงครามสันติภาพกันทั่วประเทศ 76 จังหวัด ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม กั๊กไว้ดูทิศทางลม หนึ่งสนามใหญ่ “กรุงเทพมหานคร”

ตามกฎและข้อบังคับของกติกาการเมือง ต้องมีผู้แพ้ ผู้ชนะ เสมอไม่มี ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว ทำให้ศึกชิงนายก อบจ.โค้งสุดท้ายดุเดือดเลือดท่วมจอ เริ่มมีข่าวคราว “ชกใต้เข็มขัด-เล่นไพ่โกง” ใครมีของดีอะไร หน้าตักเท่าไหร่ งัดมา “ใส่กันหมด”

2 หัวเมืองที่รัวกันสุดฤทธิ์ เดือดปุดๆ เหมือนมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยกองทัพฉลาม สามารถ “ชิงพื้นที่ข่าว” ได้เป็นเนื้อเป็นหนังมากที่สุด ต้องยกเครดิตให้อันดับ 1 สนามเลือกตั้ง “เชียงใหม่”

ที่ชิงดำกัน 2 เบอร์ใหญ่ ระหว่าง “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์” อดีตนายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ 2 สมัย ในนามทีม “เชียงใหม่คุณธรรม” กับผู้ท้าชิง “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร” หรือที่รู้จักมักคุ้นในชื่อ “ส.ว.ก้อง” สวมปลอกแขน “พรรคเพื่อไทย”

คู่นี้ถือว่า “ช้างชนช้าง” เพราะดีกรีระดับห้าดาวด้วยกัน

“บุญเลิศ” นั่งนายก อบจ.เชียงใหม่มา 2 สมัย ฐานเสียงตระกูล “บูรณุปกรณ์” แข็งโป๊ก

ขณะที่ “ส.ว.ก้อง” ก็มิใช่หมูสามชั้นมันอร่อย เป็นวุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2551 ด้วยคะแนนเฉียดๆ 2 แสนแต้ม เบาเสียเมื่อไหร่

เหนือสิ่งอื่นใด ทั้ง 2 มาจากฐานที่มั่นเดียวกัน คือได้รับแรงสนับสนุนมากด้วยความผูกพันจากตระกูล “นายใหญ่-ชินวัตร” อยู่ใต้เงาปีก “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” มาด้วยกัน

“ส.ว.ก้อง” อาจจะใกล้ชิดมากกว่า แต่ “บูรณุปกรณ์” ก็ใช่ย่อย “ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์” หลานสาวของ “บุญเลิศ” เล่นการเมืองระดับชาติ ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 เชียงใหม่ มาตั้งแต่ปี 2554 ผูกปีอีกสมัย เมื่อเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมาก็ลงในนาม “พรรคเพื่อไทย” ได้รับฉันทานุมัติจาก “บ้านใหญ่-ชินวัตร”

ศึกช้างชนช้างเมืองเหนือ เข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อ “ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. นำทัพคนเสื้อแดงไปเหยียบจมูกช่วย “บุญเลิศ” หาเสียง

การหาเสียงเลือกตั้ง ไม่ใช่อ่านบทกวี ปากย่อมพาไป ฟาดเอา “พรรคเพื่อไทย” แน่นอนว่าลูกไปแคนนอนกระทบชิ่งทิงนองนอย ขาใหญ่เจ้าถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จะว่ายน้ำย่อมตัวเปียก หลัง “ทัพเสื้อแดง” โผล่ไปช่วย “บุญเลิศ” ไม่กี่อึดใจต่อมา “นายใหญ่-น้องหญิง-ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ร่อนจดหมายเขียนด้วยลายมือ ส่งผ่านเพจเฟซบุ๊กถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่

“ฝากฝังพิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) ผู้สมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ เบอร์ 1 เพื่อที่ผมและน้องสาวจะได้ใช้สมองแนะนำการแก้ปัญหาเชียงใหม่ผ่านก้องต่อไป”

พร้อมคัดท้ายในจดหมายด้วยลายมือว่า “ถ้ายังบ่ลืมเฮาตึงสองคนเตื่อ ขอได้โปรดเลือกพิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้องเบอร์ 1) ฮื้อกำเน่อ…กี๊ดเติงหาเจียงใหม่บ้านเฮาขนาดครับ” ลงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

ราคาต่อรองศึกชิงนายก อบจ.เชียงใหม่ ระหว่าง “เสี่ยโต๊ะ” แชมป์เก่า กับ “ส.ว.ก้อง” ผู้ท้าชิงเลยปั่นป่วนชวนเสียว

 

ทีนี้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปดู ศึก “วัวชน” คู่เอกที่สนามเลือกตั้งชิงนายก อบจ.สงขลา มีผู้สมัคร 4 คน ประกอบด้วย 1. “จะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์” อิสระ 2. “พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล” กลุ่มสงขลาประชารัฐ 3. “ร.ต.ไพเจน มากสุวรรณ์” พรรคประชาธิปัตย์ 4. “นางภัทราวรรณ ขำตรี” กลุ่มเพื่อสังคม

ตัวเต็ง ตามสภาพ ชิงดำกันแค่เบอร์ 2 กับเบอร์ 3 “ผู้การชาติ” มีดีกรีอดีตผู้อำนวยการเลือกตั้งภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ อดีต ส.ส.เก่าเขต 2 สังกัดพรรคความหวังใหม่ และเป็นเพื่อน ตท.12 รุ่นเดียวกับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” วางแผน ซุ่มหาเสียง เพื่อเก้าอี้ตัวนี้มายาวนาน

กับ “ไพเจน” อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน ที่มาพลิกโผเอาเกือบวินาทีสุดท้าย ได้กลายมาเป็นตัวยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดิมทีทำท่าจะมอบหมายให้ “พล.ต.ท.สาคร ทองมณี” อดีตนายตำรวจมากฝีมือ เป็นตัวแทนลงสมัคร

ปกติ ใครก็ตามที่ได้รับฉันทานุมัติให้เป็นตัวยืนในนามพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าสนามเล็กหรือใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเป็นญาติวงศ์ ส.ส. ก็มักจะลอยลำเข้าป้าย ประสบชัยชนะมาตลอด

แต่ศึกเลือกตั้งใหญ่ผู้แทนราษฎรเมื่อต้นปี 2562 ดังที่ทราบ ภาคใต้เปลี๊ยนไป๋ เสาไฟฟ้าล้มระเกะระกะ แถม “พรรคพลังประชารัฐ” คือพรรคที่สามารถโฉบมาหยิบชิ้นปลามันกวาดที่นั่ง ส.ส.ไปได้มากถึง 13 ที่นั่งด้วยกัน เฉพาะในจังหวัดสงขลาแห่งเดียว พลิกล็อกถล่มทลาย “พปชร.” ยึดหัวหาดไป 4 ที่นั่งจาก 8 ที่นั่งที่ประชาธิปัตย์ผูกขาดมาตลอด

แชมป์เก่าสนามเลือกตั้งภาคใต้คือ “ประชาธิปัตย์” เลยทำท่าจะเยี่ยวเป็นเลือด ต้องประกาศเปลี่ยนม้าก่อนทำศึก จาก “ผู้การสาคร” มาเป็น “ไพเจน”

กระนั้นก็ตาม ถ้าวัดฝีมือกันตัวต่อตัวระหว่าง “พ.อ.สุชาติ” กับ “ไพเจน” ฝ่ายแรกน่าจะร้อนแรง เพราะอาบน้ำร้อนมาก่อน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด 3 มุ้งใหญ่ของจังหวัดสงขลา ปกติจะแยกกันเดิน รวมกันตี ทางใครทางมัน ได้ประกาศแท็กทีมเป็นทองแผ่นเดียวกัน ระหว่าง “ถาวร เสนเนียม” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม “นิพนธ์ บุญญามณี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ “เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ “นายกชาย”

หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ร่วมผลักดัน “ไพเจน มากสุวรรณ์” เป็นตัวแทนเพื่อรักษาเมือง ในตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา

ด้วยประการดังกล่าว การเห็นใบไม้ร่วง เมื่อศึกเลือกตั้งใหญ่ ส.ส. พ.ศ.2562 อย่าเพิ่งนำมากำหนดทิศทางลมในการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่จะระเบิดเถิดเทิงขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม

ขณะนี้อัตราต่อรองศึกชิงนายกบ่อยาง ระหว่าง “พ.อ.สุชาติ” กับ “ไพเจน” ถือว่าสูสีก้ำกึ่ง เสมอไหน-เสมอกัน อย่างดีก็แค่ครึ่งลูก เสมอเป็นแพ้ ราวๆ นั้น

สรุป ศึกเลือกตั้ง อบจ. สนุกทั้งเชียงใหม่-สงขลา