ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/ ซิตี้ ‘แฮทช์แบ็ก’ – ‘อี:เอชอีวี’ ‘ฮอนด้า’ รุกเดือดตลาดรถเล็ก

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

ซิตี้ ‘แฮทช์แบ็ก’ – ‘อี:เอชอีวี’

‘ฮอนด้า’ รุกเดือดตลาดรถเล็ก

 

สิ้นสุดการรอคอยเสียที เมื่อฮอนด้าเปิดตัวอีโคคาร์รุ่นใหม่ต่อยอดความสำเร็จของ “ซิตี้” ด้วย “ซิตี้ แฮทช์แบ็ก” 5 ประตู และ “ซิตี้ อี:เอชอีวี” รถไฮบริดพลังงานลูกผสมน้ำมัน-ไฟฟ้า

ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย อีกหนึ่งฐานใหญ่ในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า

และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่รถ “อีโคคาร์” มีพลังงานไฮบริดเป็นทางเลือก ที่สำคัญทั้ง 2 รุ่นตั้งราคามาได้ “น่าโดน” เหลือเกิน

ทำให้ตลาดรถยนต์เมืองไทยช่วงโค้งสุดท้าย คึกคักขึ้นมาทันที

 

ฮอนด้า “ซิตี้ แฮทช์แบ็ก” แม้จะเป็นรถ 5 ประตู และบอดี้ใกล้เคียงกับ “ฮอนด้า แจ๊ซ” ที่ครองใจวัยรุ่นชาวไทยมายาวนานข้ามทศวรรษ แต่ไม่ได้มาทำตลาดแทนแบบเต็มตัว เพราะฮอนด้าต้องการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ขึ้นมาในเมืองไทย อีกทั้งแจ๊ซยังขายดิบขายดียอดไม่มีตก

หน้าตาด้านหน้าใกล้เคียงกับซิตี้ 4 ประตู เด่นด้วยกระจังหน้าแบบโครเมียม ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED

เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารหรูหราสวยงามในโทนสีดำ มาพร้อมเบาะหนัง (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

ส่วนรุ่นท็อป “RS” เปิดตัวออกมาพร้อมกันไม่ต้องรอให้เสียเวลา ประดับชุดแต่งสไตล์สปอร์ต กระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS

กันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED

กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว

สปอยเลอร์หลังตกแต่งสีดำแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

ด้านในเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งแถบสีแดง มาพร้อมพนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว

เพิ่ม “ฮอนด้า คอนเน็กต์” (Honda CONNECT)

เบาะนั่ง อัลตร้า ซีต แยกพับแบบ 60:40 พับได้ราบเรียบ และสามารถยกเบาะนั่งขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับบรรทุกสิ่งของที่มีความสูง

 

ขุมพลังบล๊อกเดียวกับ “ซิตี้” DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที

ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

สะดวกสบายด้วยมีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด

โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมัน E20

เทคโนโลยีความปลอดภัย โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)

ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) เป็นต้น

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น

RS 749,000 บาท

SV 675,000 บาท

S+ 599,000 บาท

เมื่อเทียบรุ่นต่อรุ่นถือว่าแพงกว่าซิตี้ 4 ประตูเพียง 1 หมื่นบาท ยกเว้นรุ่นต่ำสุดคือ S+ ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ราคาอยู่ตรงกลางระหว่างซิตี้รุ่น S และ V

 

ส่วนซิตี้ อี:เอชอีวี RS เป็นครั้งแรกในเซ็กเมนต์ซิตี้คาร์และอีโคคาร์ของประเทศไทย ที่มีรถพลังงาน Full Hybrid มาเป็นตัวเลือก

ภาพรวมไม่ต่างจากซิตี้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ โลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย เสริมความสปอร์ตในสไตล์ RS รอบคัน ด้วยกระจังหน้าและสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB) พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED

กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว มาพร้อมล้ออัลลอย 16 นิ้วดีไซน์สปอร์ต

ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะหนังกลับดีไซน์สปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

ฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศตอนหลัง พร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI

ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต (Remote Engine Start) ฯลฯ

 

หัวใจหลักระบบขับเคลื่อนถอดแบบมาจากรุ่นใหญ่อย่างแอคคอร์ดž เพียงแต่ย่อส่วนลงมา ด้วยนวัตกรรม Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว

ระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งเป็นระบบ Full Hybrid แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,000 รอบต่อนาที

อัตราการประหยัดน้ำมัน 27.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร สามารถรองรับน้ำมัน E20

ด้วยเป็นรุ่นท็อปของซิตี้ งานเทคโนโลยีจึงจัดเต็ม อาทิ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนซิ่ง (Honda SENSING)

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ

ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, ระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Brake Hold ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

และเทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ “ฮอนด้า คอนเน็กต์” (Honda CONNECT)

ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ด้วยการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร สูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

มีให้เลือกรุ่นเดียว ราคา 839,000 บาท