‘นายกฯ’ ปลื้มผลประชุมสุดยอดอาเซียนฯ นานาชาติชมจัดการโควิด-19 เยี่ยม

‘นายกฯ’ ปลื้มผลประชุมสุดยอดอาเซียนฯ นานาชาติชมจัดการโควิด-19 เยี่ยม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวในที่ประชุมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 37 และการประชุมทั้งหมด ตลอด 4 วันที่ผ่านมา ในส่วนของการประชุมสุดยอดอาเซียนสามารถสรุปกรอบได้เป็น 14 การประชุม คือ กรอบแม่โขง 2 การประชุม และกิจกรรมอื่นๆ ประกอบด้วย การทบทวนแผนงานประชาคมอาเซียน แผนฟื้นฟูของอาเซียน คลังอุปกรณ์สำรองทางการแพทย์ของอาเซียน เครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะของอาเซียน และสักขีพยานการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป โดยตลอดระยะเวลาที่นายกฯ เข้าร่วมการประชุมก็ได้รับคำชมจากนานาประเทศ ที่สามารถจัดการสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยในอนาคตระบบการสาธารณสุขไทยจะเป็นต้นแบบให้ต่างประเทศมาศึกษาได้

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในการดำเนินการเรื่องสำคัญคือ การทบทวนกึ่งวาระแผนงานของประชาคมอาเซียน ค.ศ.2025 ทั้งสามเสา การจัดทำวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียน หลังปีค.ศ. 2025 การทบทวนการดำเนินการตามกฎบัตรอาเซียน การสนับสนุนให้ประดับธงอาเซียนในสถานที่ราชการและบรรเลงเพลงอาเซียนในการประชุมและกิจกรรมของอาเซียนให้มากขึ้น การส่งเสริมการประสานภูมิภาคในอาเซียนให้มากขึ้น และที่สำคัญคือการลงนามอาร์เซ็ป ที่ริเริ่มโดยประเทศอาเซียนบวกเพิ่มประเทศคู่ค้าใหญ่อีก 5 ประเทศ รวม 15 ประเทศ ซึ่งยังไม่ครบ เพราะขาดประเทศอินเดีย อีก 1 ประเทศ ที่ยังไม่ได้ลงนาม โดยใช้ระยะเวลาในการเจรจาก่อนจะลงนามประมาณ 6 ปี ซึ่งนายกฯ มีส่วนสำคัญในฐานะคู่เจรจา เพื่อลดข้อจำกัดต่างๆ ที่เคยเป็นประเด็นทำให้ไม่สามารถลงนามได้