เผยแพร่ |
---|
ยิ่งคนที่เคยเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาระบุถึงความเรียกร้องต้องการ”รัฐประหาร” ยิ่งคนที่เคยเป็นแกนนำมวลมหาประชาชนกปปส.ออกมาคัดค้านการแก้ไข”รัฐธรรมนูญ”
ยิ่งทำให้ภาพและความเป็นจริงของสถานการณ์”ก่อน”เกิดรัฐประหารได้รับการฉายให้ชัด
ชัดเจน แจ่มแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นภาพก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกัน ยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นภาพก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เป็นภาพแห่งข้อเสนอ”ถวายคืนพระราชอำนาจ” เป็นภาพแห่งการหยิบยกปมเงื่อนที่มาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ได้เปิดเอาไว้
เราจึงเห็นการขานรับจากพรรคการเมืองบางพรรค เราจึงเห็น การขานรับจากศาสตราจารย์ในทางกฎหมายจากอธิการบดีบางคน จากบางมหาวิทยาลัย
และรวมถึงการเสนอคำขวัญ”ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”จากแกนนำบางคนก่อนเกิดรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ภายหลังการออกโรงของ”เยาวชนปลดแอก”ผ่านปรากฏการณ์การชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเดือนกรกฎาคม กระทั่งนำไปสู่การเกิดขึ้นของ”คณะราษฎร 2563”ในเดือนตุลาคม
สภาพการณ์ทางการเมืองทำให้หลายคนที่เคยมีบทบาทก่อนรัฐ ประหาร 2549 ก่อนรัฐประหาร 2557 เริ่มเผยแสดง
น่าประหลาดที่ท่านเหล่านั้นกลับออกมาแสดงตนเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวของเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ไม่เพียงแต่จะปฏิเสธความเรียกร้องต้องการแห่ง”การปฏิรูป”
หากพวกเขาบางคนโหยหาต่อความเรียกร้องต้องการ”รัฐประ หาร” ตั้งความหวังว่ามีการรัฐประหารโดยทหารออกมาเล่นบทของคนล้างท่อแห่งความขัดแย้งในทางการเมืองเท่านั้น
ปัญหาอันกำลังจะกลายเป็น”วิกฤต”ก็จะหมดสิ้นไป
หมดสิ้นไปเหมือนกับหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 หมดสิ้นไปเหมือนกับหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ปัญหาอันดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะคือปัญหาอันมีความต่อเนื่องมาจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ล้วนแล้วแต่เป็น “ปัญหา” จาก “ท่าน”เหล่านั้นทั้งสิ้น ในที่สุดก็คือ ปัญหาอัน”รัฐประหาร”ได้ก่อขึ้นและทิ้งเอาไว้