สถานการณ์โควิด-19 ในเมียนมายังไม่มีวี่แววว่าจะถึงจุดแพร่ระบาดสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นครย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุด ประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศ

ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ เพิ่งออกมาเตือนว่า อัตราการติดเชื้อที่เขตย่างกุ้ง ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ทุกคนจึงควรระมัดระวังตัว

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมา แสดงให้เห็นว่าอัตราการติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มสูงมากเป็นพิเศษในสถานที่ซึ่งมีผู้คนรวมตัวกันอยู่มากๆ

โรงเรียน วัด สำนักแม่ชี เรื่อยไปจนถึงบ้านพักคนชรา คือแหล่งที่มีคนติดเชื้อและเกิดการระบาดมากที่สุด

ข้อสังเกตที่น่าสนใจก็คือ ในย่างกุ้งมีการแพร่ระบาดในชุมชนสูง ดังนั้น ใครก็ตามที่จำเป็นต้องออกจากบ้านหรือที่พักอาศัย มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงตามไปด้วย

นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่มีเพียงไม่กี่ร้อยคนเมื่อเดือนสิงหาคมนี้ ในตอนนี้ทะยานขึ้นเป็น 30,437 คน และมีผู้เสียชีวิตไปถึง 693 คนแล้ว

หลายคนกลัว ลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นลงจนเหลือน้อยที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

สิ่งนี้สะท้อนออกมาให้เห็นได้ชัดจากผลประกอบการของราว 500 บริษัท จากการสำรวจของธนาคารโลก ที่มีมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับผลกระทบในทางลบรุนแรงจากการแพร่ระบาด

แต่มีบางคนไม่กลัว แม้ว่าจะติดเชื้อไปแล้วยังไม่กลัว

 

แม่เฒ่าเต็ง ขิ่น พักอาศัยอยู่ตอนเหนือของนครย่างกุ้ง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นคนแข็งแรง แต่ก็ถูกจัดว่าเป็นคนในกลุ่มเสี่ยงสูงสุดที่ควรหลีกเลี่ยงจากโควิด-19

เพราะแม่เฒ่าอายุถึง 100 ปีแล้ว

ไว พโย ฮัน ส.ส.เขตย่างกุ้ง ยืนยันว่าแม่เฒ่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิดที่อายุมากที่สุดในเมียนมา ดังนั้น จึงกลายเป็นคนเมียนมาที่อายุมากที่สุดที่หายจากโรคนี้ไปด้วยโดยปริยาย

แม่เฒ่าได้รับการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อเมื่อ 23 กันยายนนี้ ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอินเส่ง โยมา ยิกถา รับการรักษาอยู่ 15 วัน ก็ปล่อยตัวออกมาหลังจากไม่พบเชื้อในตัวแล้วเมื่อ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา

สันนิษฐานกันว่าแม่เฒ่าติดเชื้อจากหลานชาย ซึ่งในที่สุดก็ลามออกไปจนครบทั้ง 10 คนในครอบครัว

มีคนถามหลังกลับมาบ้านแล้วว่าเป็นยังไงบ้าง แม่เฒ่าบอกว่า ไม่รู้สึกว่าจะเป็นอะไร กินก็ได้ อาบน้ำเองก็ได้ เดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ

“ถ้ายังเป็นโควิด คงต้องนอนแบ็บ ครวญครางอยู่กับเตียง แต่นี่ยังเดินไปได้รอบๆ ไม่รู้สึกอะไร”

แม่เฒ่าวัย 100 ปีที่ยังร่าเริงแจ่มใส บอกว่า ไม่ได้ประหลาดใจที่หายจากการติดเชื้อได้โดยไม่มีอาการมากมายใดๆ

เหตุผลหนึ่งคือ ด้วยวัย แม่เฒ่าเคยผ่านอะไรมามากแล้ว

“สถานการณ์ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองแย่กว่านี้มาก ได้ยินมาเหมือนกันว่าโรคนี้อันตรายแพร่ออกไปทั่วโลก แต่ฉันรู้สึกว่าโรคนี้ไม่เท่าไหร่นะ”

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ อายุปูนนี้แล้ว ถึงจะตายเพราะโควิดก็คงไม่เป็นไรแล้วละ

“แน่นอน ก็ยังกังวลอยู่กับพวกหลานๆ ลูกๆ ทั้งหลาย ความตายสำหรับฉันไม่สำคัญหรอก อายุมันมากแล้ว เคยหนีจากเหตุการณ์อันตรายๆ รวมทั้งแบบที่ถึงตายมาได้หลายหนแล้ว”

แม่เฒ่าไม่กลัว แต่ลูกๆ หลานๆ เป็นกังวลอย่างมาก วิน วิน ยี หลานสาวของแม่เฒ่าบอกว่า โชคดีอย่างยิ่งที่ครอบครัวที่ติดเชื้อทั้ง 10 คนรอดปลอดภัยทั้งหมด

แต่ทุกคนก็ยังกลัว กลัวที่จะติดเชื้อซ้ำอีกครั้ง ถึงขนาดกักตัวเองกันอยู่แต่ในบ้าน

เพราะหวั่นๆ กันว่า ติดคราวหน้าคงไม่โชคดีเหมือนอย่างคราวนี้อีกแล้ว