ชาวปากีฯ ลุกฮือต่อเนื่อง ขับไล่นายกฯ ชี้มาจากกองทัพ-โยงทุจริตเลือกตั้ง

วันที่ 20 ต.ค. รอยเตอร์ และ สเตรตส์ไทม์ รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองใน ประเทศปากีสถาน หลังจากประชาชนหลายหมื่นคนรวมตัวเดินขบวนต่อเนื่องในเมืองการาจี เพื่อขับไล่ นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ซึ่งขบวนการประชาธิปไตยปากีสถาน (พีดีเอ็ม) ของกลุ่มพันธมิตรแกนำฝ่ายค้าน 9 พรรคที่จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนก.ย. กล่าวหาว่านายข่านได้รับแต่งตั้งโดยกองทัพ จากการ ทุจริตการเลือกตั้ง เมื่อปี 2561

การประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ต.ค. เป็นการรวมตัวประท้วงใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วัน และมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อต่อเนื่อง ขบวนการพีดีเอ็มระบุว่าภายใต้การนำของรัฐบาลนายกฯ ข่าน ปากีสถานเผชิญหน้ากับการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร และแสดงความคิดเห็น รวมทั้งการกวาดล้างนักวิจารย์ และนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านรัฐบาล นอกจากนี้ยังบริหารประเทศล้มเหลว และทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

น.ส.มาเรียม นาวาซ ลูกสาวผู้เป็นทายาททางการเมืองของนายนาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัย กล่าวระหว่างร่วมการประท้วงว่า นายข่านฉกฉวยอาชีพ และอาหารไปจากประชาชน พร้อมเปิดเผยว่ามีตำรวจนำกำลังบุกมายังห้องพักของตนที่โรงแรมในเมืองการาจี

จากนั้นจับตัวนายมูฮัมหมัด ซาฟดาร์ สามีของตน เพราะสมาชิกพรรคเพื่อความยุติธรรมปากีสถาน (พีทีไอ) ของนายกฯ ข่าน แจ้งความว่านายซาฟดาร์ทำผิดกฎหมายจากกรณีกล่าวสโลแกนการเมืองที่สุสานของบิดาแห่งปากีสถาน มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์

ขณะที่ นายพิลาวัล บุตโต ซาร์ดารี ลูกชายของ นางเบนาซีร์ บุตโต อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง 2 สมัย ก่อนถูกลอบสังหาร หัวหน้าพรรคประชาชนปากีสถาน (พีพีพี) และหนึ่งในแกนนำคนสำคัญของพีดีเอ็ม กล่าวว่าเกษตรกรกำลังหิวโหย และเด็กรุ่นใหม่กำลังผิดหวัง ด้าน นายฟากีร์ บาลูจ วัย 63 ปี หนึ่งในผู้ประท้วง ให้สัมภาษณ์ว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องลาออก พร้อมตะโกนว่า “ไปซะอิมราน ออกไปซะ!