เครื่องเคียงข้างจอ / วัชระ แวววุฒินันท์ / อียิปต์-ส่อง-ชมพู่

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

อียิปต์-ส่อง-ชมพู่

 

เปิดหน้าจอโทรทัศน์ หรือไถจอโซเชียลตอนนี้ จะพบอยู่ 3 เรื่องที่เป็นกระแสอยู่คือ “ทหารอียิปต์ตะลุยเมืองระยอง”, “ช่องส่องผี” และ “ดราม่าน้องชมพู่”

ทุกพื้นที่ข่าวล้วนรวมหัวกันเล่นข่าวดังว่า บางสื่อไม่ได้นำเสนออย่างเดียว แต่ขยี้แล้วขยี้อีก จนนึกไม่ออกว่าพรุ่งนี้จะเหลืออะไรให้ขยี้อีก

3 ข่าวนี้ ที่มาก่อนเพื่อนคือ “คดีน้องชมพู่” ที่ลากยาวมาร่วมเดือนแล้ว โดยมี “ช่องส่องผี” ตามมาทีหลัง และน้องใหม่แต่มาแรงชิงพื้นที่ข่าวไปไม่น้อยก็คือ “ทหารอียิปต์” ที่มาพร้อมกับความแตกตื่นทั้งประเทศ

สำหรับกรณีน้องชมพู่นั้น นับวันจะมีตัวละครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถูกคาดเดาไปต่างๆ นานา บางคนหะแรกดูเหมือนจะเป็นตัวประกอบ แต่ภายหลังกลับมาแย่งซีนเป็นตัวเอกเสียอย่างนั้น ตอนที่เขียนนี่ก็รู้สึกจะมีคนเลี้ยงวัว กับหมาเห่าเพิ่มขึ้นมาอีก

กว่าคดีจะปิดคงมีตัวละครแปลกๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

 

ถามน้องๆ ใกล้ชิดว่า ทำไมเรื่องนี้คนสนใจติดตามกันมาก

น้องบอกว่า “มันเหมือนดูละครไงพี่” คือดูแล้วจะมีอารมณ์ร่วมตามไปด้วย นอกจากจะสงสัยใครแล้ว ยังมีความสนุกถึงท่าทีคนรอบข้าง ที่เหมือนมีพิรุธ หรือมีข้อให้จับสังเกตต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้

แต่คนทำข่าวก็สนุกที่จะหาแง่มุมออกมานำเสนอราวกับเป็นนักสืบเสียเอง เหมือนอ่านนิยายสืบสวนของอกาธา คริสตี้ ยังงั้น

นอกจากแง่มุมเชิงวิทยาศาสตร์ที่มีเรื่องหลักฐานการชันสูตรศพและนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ยังมีแง่มุมทางไสยศาสตร์ที่คนไทยชอบเข้ามาอีกด้วย อย่างให้คนทรงมานั่งทางในเพื่อสืบหาเบาะแสของคดี เรียกเรตติ้งได้ดีกว่าละครค่ำเสียอีก

ความสนุกของผู้ติดตามอยู่ตรงที่… “เหมือนจะมีพิรุธ”

นี่เลย ที่ทำให้คนติดตามงอมแงม เพราะได้เอามาเมาธ์มาวิเคราะห์กันว่า วันนั้นพูดอย่าง วันนี้ทำไมพูดอีกอย่าง วันก่อนพูดเรื่องเวลาแม่นมั่น มาวันนี้บอกว่าจำไม่ได้

ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กหญิงที่เหมือนจะเป็นพยานในเหตุการณ์ ก็บอกหนูหลับ มาอีกวันบอกหนูเล่นมือถืออยู่เลยไม่เห็น …เอาไงจ๊ะหนู

ความน่าสนุกในการสืบสวน มีทั้งทดลองเดินย้อนรอยน้องชมพู่ว่าจะเดินหลงไปได้จริงไหม ต้องเจอความยากง่ายของเส้นทางอย่างไรบ้าง มีทดลองขับรถว่าลุงพลตัวละครที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าจะไป-กลับใช้เวลาเท่าไหร่ตามคำให้การ

มีการสัมภาษณ์คนนั้นคนนี้ แล้วเอามาถามคนที่ถูกกล่าวถึงว่าคิดว่าอย่างไร ดูๆ ไปเสี่ยงต่อการถูกหาว่า “เสี้ยม” ไม่น้อย

ที่อึมครึมคือบรรยากาศของชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งถูกสงสัย ทั้งถูกสอบสวน ทั้งไม่ไว้ใจกันและกัน

ยิ่งผลการชันสูตรออกมาว่า “เป็นการเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ” ก็ยิ่งสร้างความอึมครึมให้อบอวลไปทั้งหมู่บ้านไม่น้อย

บางคนบอกว่า ถ้าอยากคลี่คลายคดีนี้เร็วๆ ให้ไปถาม “เรนนี่”

 

เรนนี่เป็นใคร ก็คือคนที่เป็นต้นเหตุของข่าวที่ 2 ที่จะพูดถึงต่อไป นั่นคือกรณี “ช่องส่องผี”

จะว่าไปกรณีของ “ช่องส่องผี” นั้นมาไล่เลี่ยกับเรื่องของ “โค้ชฌอน” แต่ได้รับความสนใจและถูกลากมาไกลกว่า เรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องคือพิธีกรของรายการโดนโจมตีในหลายประเด็น ทั้งเรื่องบิดเบือนประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องอวดอุตริว่าสื่อสารกับวิญญาณได้ ทั้งเรื่องเรี่ยไรว่าหลอกลวงหรือไม่

เรื่องลามไปถึงพิธีกรต้องหอบเอาหลักฐานมาเคลียร์เรื่องเงินๆ ทองๆ จากการเรี่ยไร

ลามไปถึงพิธีกรต้องยกขบวนไปขอขมากับอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญที่เป็นที่เคารพนับถือของคนในพื้นที่แบบชุดใหญ่จัดเต็ม

ลามไปถึงสถานีที่ออกอากาศว่าปล่อยให้ออกรายการเช่นนี้ได้อย่างไร จนต้องปลดออกจากผังและถูกปรับ

เห็นว่าอาจจะลามไปถึงเรื่องคดีความด้วยเพราะมีผู้ไปฟ้องร้อง เรื่องนี้ต้องติดตาม

ที่เป็นที่สนใจของผู้คนจนคนทำข่าวต้องเล่นตามกระแส เพราะเรื่อง “ความเชื่อ” นั้นเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากสนใจใคร่รู้ และบวกกับความไม่พอใจของคนในพื้นที่เข้าไปอีก จนเกิดกระแสดราม่าตามมาอีกไม่น้อย

เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อ “จิตใจผู้คน”

 

ส่วนข่าวที่ 3 นั้นเป็นเรื่องที่กระทบต่อ “เศรษฐกิจ” ของผู้คนอย่างจัง

คือกรณี “ทหารอียิปต์” ที่ทำเอาคนระยองแทบกระอัก เพราะพี่แกแหกค่ายเดียนเบียนฟูไม่ยอมกักตัว ออกไปเดินช้อปปิ้งเสียอย่างงั้น

ยิ่งได้ดูคลิปเห็นถึงการดื้อแพ่งไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจโควิด ร้อนถึงสถานทูตต้องมาเจรจาจึงยอม และผลก็ออกมาว่ามีติดจริงๆ ก็ยิ่งสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนไทย

นั่นละ ทุกอย่างจึงโกลาหล คนระยองที่กำลังลุ้นกับเศรษฐกิจก็เหมือนถูกทุบซ้ำลงไปอีก ต้องออกมาโวยวายว่ารัฐบาลทำไมการ์ดตก

เป็นดราม่าที่เล่นไปถึงนายกฯ ตู่ และ ศบค. ว่า เตือนแต่เขาแต่เราตกเอง ทำนองนั้น

ตอนนี้ทหารต้นเหตุบินกลับบ้านสบายใจเฉิบแล้ว ทิ้งปัญหาที่ต้องแก้ไขกองใหญ่ไว้กับประเทศไทย โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ จ.ระยอง เห็นมีมาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจออกมาทันทีทันควัน ขนาดที่ว่าใครไปเที่ยวระยองแล้วติดโควิด รับไปทันที 1 แสนบาทกันเลย เหมือนโปรโมชั่นเกมโชว์อะไรยังงั้น

นี่ยังดีว่าผลการตรวจชาวระยองจำนวนหลายพันคนผลออกมาเป็นลบ จึงสบายใจขึ้นหน่อย แต่จะให้แน่ต้องรอหลังจากเกิดเหตุ 14 วันจึงจะมั่นใจได้

คิดในมุมดี ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นโดยไม่เกิดผลร้ายแรงมีคนติดเชื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้นเป็นระลอกสอง แต่ทำให้ภาครัฐได้เห็นถึงปัญหาและช่องโหว่ที่ต้องตามอุดตามแก้ในเรื่องระเบียบวิธีปฏิบัติต่างๆ และทำให้คนไทยเองที่อาจจะรู้สึกสบายๆ ไม่ระวังตัวมาก ก็จะได้การ์ดไม่ตกกัน

เพราะคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังออกโรงเตือนดังๆ เสมอว่า ระวังโควิดรอบ 2 มาแน่นอน เพราะดูจากสถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลกที่ยังพุ่งปรี๊ดอยู่ จึงต้องระวังอย่างใกล้ชิด

และตามมาด้วยปัญหาปากท้อง ที่ถ้าโลกยังป่วย ไทยเราเองก็ยากจะเอาตัวรอดได้

 

ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุข ก็เป็นปัญหาพอแรงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีปัญหาไวรัสการเมืองกลายพันธุ์แทรกซ้อนเข้ามาอีก จากในกรณี 4 กุมารลาออกเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ชื่อตอนที่ว่า “อียิปต์-ส่อง-ชมพู่” อาจจะมีคู่แข่งเสียแล้ว นั่นคือ “ตู่-ส่อง-เก้าอี้”

เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ลุงตู่ต้องปรับ ครม.โดยด่วน โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่ต้องเร่งหาตัวมาทำงานแทนคนที่ออกไป ในขณะที่หลายคนที่มีดีกรีก็รู้สึกว่าเป็นเผือกร้อน ขอใส่หน้ากากสิบอัน ล้างมือสิบครั้ง ไม่ขอแตะต้องดีกว่า

กรณีของน้องชมพู่อาจจะยังไม่รู้ว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงคืออะไร หรือใครทำให้ตาย

แต่ในกรณีของ 4 กุมาร และ ดร.สมคิดแล้ว รู้ได้ไม่ยากว่าตายจาก ครม.ด้วยสาเหตุใด

ของชมพู่มีข้อสันนิษฐานว่า อาจตายเพราะร่างกายขาดอาหาร

แต่ของ 4 กุมารนั้น ตายเพราะขาดกำลังใจและการสนับสนุน

ของชมพู่ใครเป็นคนทำให้เสียชีวิตเรายังไม่รู้

แต่ของ 4 กุมาร รู้ๆ กันอยู่ว่าใครทำให้จบชีวิตในการทำงานการเมืองลง

กรณีของน้องชมพู่ยังอึมครึม และกรณีของเศรษฐกิจชาติก็ยิ่งอึมครึมหนักไปอีก

ผลกระทบของน้องชมพู่ ส่งผลต่อครอบครัว คนใกล้ชิด และคนในหมู่บ้าน แต่ของ 4 กุมารส่งผลต่อคนทั้งประเทศ

ตอนที่มติชนสุดสัปดาห์นี้ตีพิมพ์ออกไป ถ้ายังไม่รู้ว่าจะหาใครมาทำงานด้านเศรษฐกิจแทนดี อาจต้องพึ่งบริการ “เรนนี่-ช่องส่องผี” ช่วยมองให้ทีว่าเอาใครมาดี

อันนี้ไม่ได้บิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่เป็นการเดิมพันกับอนาคตของประเทศ

โปรดติดตามอย่างใกล้ชิดรายการใหม่ “ตู่-ส่อง-เก้าอี้” น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง