ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/โตโยต้า ‘โคโรลล่า ครอส’ ‘เอสยูวี’ รุ่นใหม่-พลังไฮบริด

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต  [email protected]

โตโยต้า ‘โคโรลล่า ครอส’

‘เอสยูวี’ รุ่นใหม่-พลังไฮบริด

แรกสุดที่ได้ข่าวว่า “โตโยต้า” จะเปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่ ในชื่อ “โคโรลล่า ครอส” ใช้พื้นฐานเดียวกับ “โคโรลล่า อัลติส”

ผมประเมินแบบเกือบๆ ฟันธงเลยว่า มาแล้วเอสยูวีขนาดกลางที่จะซัดกับ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” และ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5”

เพราะชื่อโคโรลล่า ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วว่าเป็น “ซี-เซ็กเมนต์”

ทว่าต้องหงายเงิบเมื่อเห็นตัวจริงและสเป๊ก

ร้องอ้าวทันที เพราะกลับกลายเป็นรถแบบ “บี-เอสยูวี” หรือซับคอมแพ็กต์เอสยูวี

บอกตรงๆ ว่ายังมึนๆ อยู่นิดหน่อย เนื่องจากโตโยต้ามี “ซี-เอชอาร์” ซับคอมแพกต์เอสยูวี ทำตลาดอยู่แล้วนี่นา

ที่ยิ่งงงหนักขึ้นเพราะเห็นราคาระหว่างซี-เอชอาร์ กับโคโรลล่า ครอส แทบไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญเลย แต่ละรุ่นย่อยต่างกันแค่ 1-4 หมื่นบาท

อีกทั้งบางรุ่นย่อยโคโรลล่า ครอส ถูกกว่าซี-เอชอาร์ เสียอีก

ทั้งยังใช้เครื่องยนต์ความจุเท่ากัน มีเครื่องยนต์ไฮบริดให้เลือกเหมือนกันอีกด้วย

เอ…หรือจะเป็นการทำตลาดรถยนต์แนวใหม่

“แยกกันเดิน รวมกันตี”

 

โตโยต้าเลือกไทยเป็นประเทศแรกในการอวดโฉม “โคโรลล่า ครอส” กับสโลแกน “A New Journey…ให้ชีวิตเดินทาง”

พัฒนาภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

หน้าตาด้านหน้ากระจังขนาดใหญ่ มองดูคล้ายๆ คน “ปากคว่ำ”

มีสัญลักษณ์โตโยต้าแปะอยู่ตรงกระจัง

ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์แบบ Hybrid LED ควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ปรับไฟสูงอัตโนมติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home

ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding

ต่ำลงเป็นไฟตัดหมอก

กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ

และที่เป็นเทรนด์ของรถเอสยูวีรุ่นใหม่ๆ คือการมีคิ้วขอบซุ้มล้อขนาดใหญ่สีดำ

มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ

ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

ติดตั้งราวหลังคามาให้ด้วย พร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม

ประตูบานที่ 5 เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มีระบบป้องกันการหนีบ พร้อม “คิกส์ เซ็นเซอร์” เปิดประตูโดยสอดเท้าเข้าไปด้านใต้ท้องรถ

ล้ออัลลอย 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 ในรุ่นท็อป ส่วนรุ่นเริ่มต้น ล้อขนาด 17 นิ้ว

 

ภายในหากเป็นรุ่นท็อปและรองท็อป เป็นสีแดง Terra Rossa ส่วนรุ่นอื่นๆ สีดำ ตัดด้วยแถบสีเงินในบางจุด รอบคันบุด้วยวัสดุอ่อนนุ่มดูหรูหรามากขึ้น

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) แบบมัลติฟังก์ชั่นยกมาจากโคโรลล่า อัลติส เช่นเดียวกับมาตรวัด มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display)

ขยับมาตรงกลางเป็นหน้าจอขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Bluetooth และ USB เชื่อมต่อ T-Connect รวมถึงรับภาพจากกล้องรอบคัน พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ

ระบบเครื่องเสียงส่งผ่านลำโพง 6 ตำแหน่ง

แอร์แบบ 2 โซน พร้อมเจาะแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วย

เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า

หัวเกียร์ขนาดเล็ก ยกมาจากซี-เอชอาร์ ฐานเกียร์ตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ก

รุ่นท็อปเจาะซันรูฟมาให้ด้วย

เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพนักเอนได้อีกนิด เพิ่มความสบาย พับแบบ 60-40 แต่ไม่ได้ราบสนิทกับที่วางของด้านท้าย

อย่างไรก็ตาม พอจะวางของขนาดใหญ่ได้

ส่วนที่ว่างด้านท้ายถือว่าค่อนข้างใหญ่ ใส่กระเป๋าเดินทางบิ๊กๆ ได้ 2 ใบสบายๆ

แผงข้างประตูขนาดค่อนข้างหน้า

กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic)

 

มีขุมพลัง 2 บล็อกให้เลือก รุ่นเริ่มต้นแบบเบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1,798 ซีซี กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที

ที่เหลือเป็นแบบไฮบริด ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน แต่เพิ่มมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า

ระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมัน อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร

ระบบเกียร์ E-CVT พร้อม Shift Lock

มี 3 โหมดขับขี่คือ EV, ECO และ Sport มีปุ่มปรับอยู่บริเวณฐานเกียร์ ดูแล้วใช้งานง่ายระหว่างการขับขี่

ระบบช่วงล่างอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,825 x 4,460 x 1,620 ม.ม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 161 ม.ม.

ระบบความปลอดภัยทั่วไป เช่น ถุงลมนิรภัยรอบคัน (คู่หน้า-ม่านด้านข้าง-หัวเข่าฝั่งคนขับ)

ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA

ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC

ระบบแจ้งเตือนลมยาง ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน (Drive Start Control)

สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน ฯลฯ

 

นอกจากนี้ ยังใส่ระบบพรีเซฟตี้ หรือป้องกันก่อนการชน และความสะดวกสบาย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ซึ่งจะแล่นตามรถคันหน้า และช่วยเบรกเพื่อชะลอความเร็ว

แต่ไม่ได้ทำงานจนถึงจุดแบบหยุดนิ่ง เพราะระบบจะตัดการทำงานเมื่อความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง

ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ฯลฯ

มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย

เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท

และรุ่นไฮบริด 3 ร่น เริ่มจาก Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท

Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท

และรุ่นท็อปสุด Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท

พิเศษสำหรับรุ่นเริ่มต้นโตโยต้า จัดแคมเปญแต่หัววันลดราคาช่วงแนะนำเหลือ 959,000 บาท ถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้

ไปดูตัวเป็นๆ กันได้ที่โชว์รูม หรือในงาน “มอเตอร์โชว์” อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดถึง 26 กรกฎาคมนี้