จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 3-9 กรกฎาคม 2563

จดหมาย

0 เข้าวัด (1)

เมื่อพิจารณาขันธ์ 5 ให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว

ไม่มีขันธ์ไหนเป็นของเราเลย

รูปขันธ์ เป็นของดิน น้ำ ลม ไฟ

เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นนามธรรม

ยึดเน้นเป็นของเราไม่ได้

เพราะไม่มีตัวตน

สรุปแล้วก็คือ เราไม่ใช่เรา

เราเป็นได้ทั้งเทวดา และภูตปีศาจ

ขึ้นอยู่กับกรรม คือ การกระทำเท่านั้น อยู่ที่กรรมดีกรรมชั่ว

พระพุทธองค์จึงบอกว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

วิญญาณนั่นเอง ซึ่งเป็นตัวรับรู้ในขันธ์ทั้ง 4 จะเป็นตัวสั่งเราไปในภพหน้าตามกรรมของเรา

ด้วยความนับถือ

ร.ต.ท.นฐพล พิทักษ์

 

มติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้

วางแผงคาบเกี่ยววันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา

เลยพาเข้าปริมณฑล “วัดและธรรม” กับ ร.ต.ท.นฐพล พิทักษ์

ซึ่งการได้ตระหนัก “เราไม่ใช่เรา” สำคัญนัก

เพราะทำให้เรารู้จัก “วาง”

การไปยึดว่า เก้าอี้ รมต.นี้เป็นของกรูรูรู…มีแต่ทุกข์ (ฮา)

 

0 เข้าวัด (2)

เรียน บรรณาธิการคอลัมน์จดหมาย

ผมมีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ และเดินสำรวจกุฏิต่างๆ

พบกุฏิหนึ่งระบุผู้บริจาคชื่อ ไพโรจน์ ศรีบุรีรักษ์

ถามสมเด็จช่วงว่ารู้จักไหม

ท่านบอกว่าผู้บริจาคมีศักดิ์เป็นหลาน

ต่อมาพบนิตยสาร “นักกลอน” ฉบับวันที่ 10 ธันวาคม 2558

รูปปกคือ เศรษฐา ศิระฉายา (ศิลปินแห่งชาติ) อนันต์ คู่มณี (นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย) ชินกร ไกรลาศ (ศิลปินแห่งชาติ)

ในเล่ม ที่หน้า 116 ระบุว่า อภินันทนาการจาก ณัช ศรีบุรีรักษ์ (กวียิปซี) นักเขียน ในนิตยสารต่วย’ตูน รับดูดวงด้วยไพ่ยิปซี

อีกภาพระบุชื่อสะพานว่า อภินันทนาการจาก สะพานขุนศรีบุรีรักษ์

คาดว่าสกุลศรีบุรีรักษ์ คงสืบเชื้อสายขุนนางเก่าแน่ๆ

ยิ่งผมเห็นลายมือสวยงามมากของคุณณัช ศรีบุรีรักษ์ ทึ่งยิ่ง

เพราะไม่ค่อยพบลายมือสวยงามเช่นนี้มา 40 ปีเศษ

อนึ่ง พบบุคคลที่วิตกว่าจะเสียชีวิตและเสียชีวิต มีชื่อเล่น 3 ต. ดังนี้

ต้าร์ (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์) ตั้ว (ศรัณญู วงษ์กระจ่าง) โต้ง (ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ)

มีปรากฏการณ์แตกต่างกัน ให้ข้อคิดมากมาย

สุดท้ายของฝากบทกวี ชื่อ ดาราผีโม่แป้ง ดังนี้

 

ทีละคน ทีละราย ตายต่อเนื่อง

อดีตเขื่องอวดกร้ามวางก้ามใหญ่

แท้คือปูอยู่กระด้งแค่วงใน

เขาหลอกใช้ให้ลวงปวงประชา

 

หวังประโยชน์โจษจันกระชั้นชิด

แนบสนิท หัวโจก รกโลกหล้า

บรรเทาชีพตีบตันพลันเบิกฟ้า

เป็นดาราเคลื่อนคล้อยเด่นลอยนวล

 

จึงสมรู้ร่วมคิดผิดกฎหมาย

ยินยอมขายวิญญาณคอยปั่นป่วน

ประท้วงโน่น นั่น นี่ ทำยียวน

สุดท้ายก็เดินขบวนชวนจลาจล

 

พอเสร็จงานขานรับกลับคืนถิ่น

ทวงทรัพย์สินผีโม่แป้งแร้งล่องหน

สวย หล่อ แท้แต่โง่ โถหลงกล

ต้องจำนนกับเล่ห์เหลี่ยมเสี้ยมทารุณ

 

เคยเรียกร้องกองทัพจัด รัฐประหาร

จนประเทศพิการบ้านเมืองวุ่น

สินค้าแรงค่าแรงถูก ยุคนายทุน

เนรคุณประชาชนอ้างตนดี

 

ตายตามลมถ่มถุยเหมือนปุยนุ่น

ชาติสกุลละเหี่ยเสียศักดิ์ศรี

เสียงนกหวีดกรี๊ดกร๊าดทาสยังมี

กลายเป็นที่คนชั่วมาพบหน้ากัน

 

ตัวอย่างนี้ มีหลักย่อมศักดิ์สิทธิ์

อย่าประมาทชีวิตจิตจัดสรร

อย่าชูชุบอุปถัมภ์ค้ำโจรนั้น

อย่างงงัน จักรที่เห็นเป็นดอกบัว

 

ขออโหสิกรรมรำลึกมั่น

สถาบันการเมืองมากเรื่องมั่ว

รู้อภัยให้กันเลิกหวาดกลัว

รักษาหัวใจประชาธิปไตย

สมบัติ ตั้งก่อเกียรติ

ชูเกียรติ วรรณศูทร

กวีศรีแผ่นดินอโยธยา ต.คลองสวนพูล จ.พระนครศรีอยุธยา

 

เพราะเข้าวัด

จึงได้ต่อเรื่องไปถึง

“ณัช ศรีบุรีรักษ์” (กวียิปซี)

ซึ่งโชว์ลายมือและความคิดสวยๆ

ให้เราได้ดูและอ่าน อยู่เนือง-เนือง

ถือเป็นเรื่องดีๆ

ระหว่าง “กัลยาณมิตร” ของผู้อ่าน “มติชนสุดสัปดาห์”

ส่วนกลอน “ดาราผีโม่แป้ง” ที่ตบท้าย

ก็ให้ข้อคิดดี-ดี ในวันพระใหญ่เช่นกัน