ฐากูร บุนปาน | ถ้าไม่รวดเร็ว-ไม่ชัดเจน วันหน้าก็ขึ้นเมรุไปด้วยกัน

วันนี้คติพจน์สำคัญที่สุดที่รัฐบาลต้องท่องไว้ทุกลมหายใจเข้าออก ก็คือ

เวลาเป็นเงินเป็นทอง

เพราะปัญหาปากท้องหนักหนาสาหัสขึ้นทุกวัน

ช้าไปหนึ่งวัน ปัญหาหรือความเดือดร้อนไม่ได้เพิ่มแบบเลขบวก

แต่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ไม่เท่านั้น ยังเห็นอยู่ชัดๆ ว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่จะเข้ามาซ้ำเติมให้วิกฤตกลายเป็นมหาวิกฤตก็คือ

ระเบิดเวลา

ดังที่เคยกราบเรียนไปแล้วว่า ถ้านั่งทับระเบิดเอาไว้ไม่รู้ไม่ชี้

วันที่ระเบิดใต้ตูดบึ้มตูมขึ้นมา

ก็ถึงเวลาสิ้นชีพิตักษัยกันหมด

ทั้งรัฐบาลและชาวบ้าน

แต่ไม่ใช่ไม่มีวิธีปลดชนวน

มีครับ

เพียงแต่ต้องขึ้นกับเงื่อนไขสองประการคือ

รวดเร็วและชัดเจน

ทําไมต้องเร็ว ไม่ต้องพูดกันแล้ว

แต่มีตัวอย่างที่อยากยกมาประกอบสองเรื่อง

เรื่องแรก ขอบพระคุณอาจารย์เกษียร เตชะพีระ Kasian Tejapira ที่แชร์บทความล่าสุดของวีโอเอมาให้อ่าน

วีโอเอระบุว่า เศรษฐกิจของเวียดนามฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการระบาดของโรคซาลง และมาตรการกักผันผ่อนคลาย

ถึงขนาดฝ่ายวิเคราะห์ของฮ่องกงเซี่ยงไฮ้แบงก์ระบุว่า เวียดนามจะเป็นประเทศเดียวในกลุ่มอาเซียน ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นบวกในปีนี้

ด้วยการตัดสินใจที่ฉับไวของรัฐบาล

(กักโรคก็กักจริง เปิดก็เปิดจริงและเปิดเร็ว)

ส่วนปัจจัยอีกประการหนึ่งมาจากการปรับตัวในภาคเอกชนของเวียดนามเอง

ที่กระโจนเข้า “ดิจิตอล อีโคโนมี” อย่างรวดเร็ว

ยกตัวอย่างเช่น ซื้อรถฟอร์ดในเวียดนามวันนี้ ไม่ต้องกำเงินสดหรือใช้บัตรเครดิตแล้ว

โอนกันแบบอี-เปย์เมนต์ได้เลย

เรื่องต่อมา (ในกรณีว่าทำไมต้องเร็ว) ก็คือ

ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มคุมโควิดได้

มีผู้เสนอให้รัฐบาล (ที่ต้องสนใจกับเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้แล้ว) ไปออกพันธบัตรระดมทุนจากต่างประเทศมาเป็นเงินรองรังไว้ก่อน

เพราะดอกเบี้ยถูกและเงินในตลาดยังเหลือ

รัฐบาลท่านก็ทำท่าว่าสนใจดี

แต่ผ่านไปเป็นเดือน ความสนใจก็ยังเป็นความสนใจ

ไม่มีการแปรรูปเป็นการปฏิบัติอะไร

จนรัฐบาลประเทศน้อยใหญ่เขาออกพันธบัตรขายกันเกลื่อนตลาดไปแล้ว

จะไปทำกับเขาบ้าง

ตอนนี้ก็ช้าไปแล้วต๋อย

จะแข่งกับเขาก็ต้องเอาดอกเบี้ยแพงๆ ไปสู้

เสียประโยชน์ เสียโอกาสที่ควรจะได้ (เงินถูก) ไปอีก

หรือถ้าออกไปขายของแล้วขายไม่ได้

จะกลายเป็นขายขี้หน้าเปล่าๆ

ประเด็นต่อมาก็คือ ความชัดเจน

สังเกตไหมครับว่า ที่ผ่านมานโยบายหรือแนวทางของรัฐในเรื่องเศรษฐกิจนั้นมักจะยึกยัก ตะกุกตะกัก ชักเข้าชักออก

ตั้งแต่จะแจกเงินช่วยชาวบ้าน จนถึงมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เอาแค่ว่าจะเปิดตรงไหน เปิดยังไง เปิดเมื่อไหร่ ก็วุ่นวายขายปลาช่อนแล้ว

เพราะมาตรการยึกยักเอาแน่ไม่ได้ ซ้ำร้ายหลายๆ เรื่องไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง (เช่นกรณีร้านอาหาร ที่บ่นกันมากว่ามารถคันเดียวกัน ถึงเวลากินให้นั่งคนละโต๊ะ)

จนคนทำมาหากินคำนวณต้นทุนไม่ได้ หรือต้นทุนเพิ่มโดยไม่จำเป็น (โดยเฉพาะในช่วงที่ฝืดเคืองสาหัสอยู่แล้ว)

ถามว่าใครจะกล้าเอาธุรกิจตัวเองมาเสี่ยง

จะระดับห้องแถว หรือร้อยล้านพันล้านหมื่นล้าน

ที่เขาต้องการคือ นโยบายที่ชัดเจน

เพื่อจะได้คำนวณความเสี่ยงและต้นทุนของตัวเองได้

ง่ายๆ เท่านี้เอง

วันนี้ถ้าไม่รวดเร็ว-ไม่ชัดเจน

วันหน้าก็ขึ้นเมรุไปด้วยกัน

ช้าแล้วยังไม่ชัด

จะเป็นรัฐบาลไปเพื่อใครเพื่ออะไร


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่