E-DUANG : ประกายไฟ ไหม้ลามทุ่ง จาก”รถกระบะ”

หากสรุปว่า การเคลื่อนไหวอันเนื่องแต่”รถกระบะ”หรือ”ปิกอัพ”ดำเนินไปอย่างมีลักษณะ “มวลชน”

นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะ”แย้ง”หรือไม่

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะ”แย้ง”หรือไม่

ยิ่งกว่านั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จะ “แย้ง”หรือไม่

เพราะว่าการเคลื่อนไหว”กลุ่มรถกระบะ”มีความต่าง

1 ไม่ได้มีการชุมนุม ไม่ได้มีการตั้งเวทีและขึ้นปราศรัย และที่สำคัญ 1 คือ ไม่มี “ผู้นำ”

ไม่มี “พระเอก” ไม่มีตัวชูโรง “เรียกแขก”

แต่ถามว่าเป็น “ปฏิกิริยา” ที่มีเป้าหมายและดำเนินไปอย่างมีลักษณะ “รวมศูนย์” หรือไม่

ตอบได้เลยว่ามี นั่นก็คือ คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 14/2560

ตอบได้เลยว่ามี นั่นก็คือ “มาตรา 44”

 

ต้องยอมรับว่า มาตรการจากคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 14/2560 อันเป็นไปตามอำนาจของ “มาตรา 44″นั้นเอง

เป็นตัว”จุดชนวน”

จากจุดเล็กๆในแบบ “ปัจเจก” แล้วก็ขยายกว้างออกไปเป็นความรู้สึก “ร่วม”

ปมเงื่อนก็คือ ความรู้สึกอึดอัด คับข้องใจ

เป็นความอึดอัดเพราะเห็นว่าเป็นคำสั่งซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงแห่ง”วิถีชีวิต”

บังเอิญ “รถกระบะ” สัมพันธ์กับ “ชาวบ้าน”

การส่งต่อในทางความคิด ความรู้สึกจึงดำเนินไปเหมือนกับเป็น

ประกายไฟน้อยๆ ไหม้ลามทุ่ง

 

ก็เห็นกันแล้วว่า ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในห้วงก่อนสงกรานต์นี้ดำเนินไปอย่างเป็นไปเอง

ไม่มีหัวหน้า ไม่มีผู้นำ

ไม่ได้เป็นการอัดฉีดทั้งในทางความคิด ทั้งในทางเงินทุนมาจากพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง

เป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของชาวบ้าน

จึงเป็นการเคลื่อนไหว”มวลชน”อย่างทรงพลานุภาพเด่นชัด