แกนนำแดงอีสาน ตั้งโต๊ะแถลง ส่งกำลังใจถึง ‘พี่แรมโบ้’ ยก ต่อสู้-ไม่เคยเนรคุณเสื้อแดง

“อานนท์ แสนน่าน” แกนนำเสื้อแดงอีสาน และชาวหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น “เรารักประเทศไทย” ส่งกำลังใจถึง “แรมโบ้” ใจตั้งมั่นก้าวผ่านวิกฤต เชื่อมั่นเป็นคนดีมีสัจจะช่วยเหลือเพื่อนพ้องอย่างจริงใจ

นครราชสีมา – ที่เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ชุมชนพรสวรรค์ เทศบาลตำบลหนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น “เรารักประเทศไทย” อดีตประธานก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้ร่วมปรึกษาหารือกับประธานหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนภาคเหนือ ภาคอีสาน และประธานวิสาหกิจชุมชนผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในการเตรียมความพร้อมอบรม และให้ความรู้เกษตรกรเกี่ยวกับการฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจช่วยเหลือเกษตรกร หลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนเสื้อแดงเคยร่วมกันต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2552 ทั้งเป็นนักวิชาการ ทั้งเป็นนักข่าวเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการทำงานของคนเสื้อแดง และก็ได้เจอและรู้จัก “พี่แรมโบ้” หรือ “นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์” มาโดยตลอดเพราะเป็นแกนนำเสื้อแดง ที่ร่วมต่อสู้ จนมาถึงการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 แกนนำเสื้อแดงก็ถูกจับกุมไปหมดไม่มีแกนนำคนไหนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ตนจึงได้จัดเวทีเรียกร้องให้มีการ “ปล่อยแกนนำ” และเรียกร้องให้แกนนำที่อยู่ต่างประเทศกลับมาโดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี แต่ก็ไม่เป็นผลจึงได้มีแนวคิดการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์โดยการ “เปิดหมู่บ้านเสื้อแดง” ขึ้นมาครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 โดยเรียกร้องขอความเป็นธรรมในการปล่อยตัวแกนนำเสื้อแดง และได้ประสานงานกับทาง “พี่แรมโบ้” คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศให้มีการ “โฟนอิน” ผ่านทางโทรศัพท์เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในการออกมาเรียกร้องความถูกต้องหลายๆ ครั้ง

แม้แต่การร่วมรำลึกและต่อสู้ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ ก็ได้ออกบู๊ธเกี่ยวกับประวัติและผลงานของ “พี่แรมโบ้” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ตลอดและต่อเนื่อง จน “พี่แรมโบ้” กลับมาอยู่ประเทศไทยและร่วมต่อสู้พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ยากไร้ หลังเลือกตั้ง ส.ส. 3 กรกฎาคม 2554 ก็ได้ร่วมงานกับทาง “พี่แรมโบ้” ในการผลักดันงบประมาณจัดสรรช่วยเหลือเกษตรกร หาที่ทำกินให้เกษตรกร และส่งเสริมอาชีพต่างๆ พร้อมกับเรียกร้องขอให้ “เงินเยียวยา ผรท.” คนละ 225,000 บาท จนสำเร็จและอนุมัติจ่ายมาเป็นทุนให้ “กลุ่มคอมมิวนิสต์” หรือ “อดีตสหายเก่า” จนมาเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” หรือ “ผรท.”

นายอานนท์กล่าวอีกว่า ตนชื่นชมและขอยกย่องการทำงานของ “พี่แรมโบ้” อย่างหนักแน่นว่า เป็นคนดีมีสัจจะ ไม่เคยทอดทิ้งใคร พร้อมทั้งคำนึงถึงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรมาเป็นอันดับต้นๆ ไม่เคยหักหลังใคร แม้แต่เวทีใหญ่ช่วงการต่อสู้ของคนเสื้อแดง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ ปลายปี พ.ศ.2556 ตนถูกเบี้ยวเงินจัดจ้างรถยนต์ขึ้นไปกรุงเทพฯ จากมวลชนของ “หมู่บ้านเสื้อแดง” ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน แต่คนที่ยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือคนแรก ก็คือ “พี่แรมโบ้” เพราะเป็นคนที่จริงใจและไม่เคยเนรคุณประชาชน

นายอานนท์กล่าวย้ำท้ายอีกว่า หลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นการต่อสู้ของการเรียกร้องสีเสื้อได้จบสิ้นแล้ว ก่อนการเลือกตั้งตนได้ยุบ “หมู่บ้านเสื้อแดง” มาเป็น “หมู่บ้านประชาธิปไตย” และล่าสุดมาเป็น “หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย” ก็ได้ประสานงานและปรึกษาหารือกับทาง “พี่แรมโบ้” มาโดยตลอดว่า เราจะให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่ ชาวนา ได้อย่างไร เพราะถ้ามัวแต่จะหวังพึ่งนักการเมืองก็คงไม่ได้อะไร อีกทั้งตนเองก็เริ่มขับเคลื่อนเรียกร้อง “ให้เกษตรกรปลูกกัญชา” และ “ให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกร” ก็ประสบความสำเร็จไปในหลายๆ เรื่อง เพราะการช่วยเหลือจาก “พี่แรมโบ้” ที่คอยประสานงานกับหน่วยงานราชการสนับสนุนงบประมาณหลายๆ อย่าง จนทุกวันนี้ประชาชนบางส่วนก็มีอาชีพ มีรายได้ ช่วยเหลือครอบครัวไม่ต้องเดือดร้อน จนมาเจอสภาพของโรคไวรัสโควิด-19 ระบาด ตนจึงได้ประสานงานกับประธานภูมิภาคทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย มาแสดงความจำนงขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ผ่านทาง “พี่แรมโบ้” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ให้รับทราบและช่วยเหลือในเบื้องต้นไปก่อน ไม่อยากให้ตั้งเป็นประเด็นความขัดแย้งเรื่องการแบ่งแยกสีกันอีกเลย วันนี้อยากจะให้ทุกคนคิดถึง “เรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน” เป็นสิ่งสำคัญ อย่าใส่ร้ายป้ายสี อย่าทำตัวเป็นบ่อนทำลายกันอีกเลย ประเทศชาติประชาชนบอบช้ำมามากพอแล้ว