ทั่วโลกวุ่นวาย กลับมาปิดเมืองกันอีกครั้ง หลังพบ “โควิด-19” ระบาดรอบสอง

ทั่วโลกวุ่นวาย กลับมาปิดเมืองกันอีกครั้ง หลังพบ “โควิด-19” กลับระบาดรอบสอง

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลก 211 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 70 และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อทั่วโลกสะสมรวม 4,801,875 ราย อาการหนัก 44,821 ราย รักษาหายแล้ว 1,857,576 ราย เสียชีวิต 316,671 ราย ประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.ประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดจำนวน 1,527,664 ราย เสียชีวิต 90,978 ราย 2.รัสเซีย 281,752 ราย เสียชีวิต 2,631 ราย 3.สเปน 277,719 ราย เสียชีวิต 27,650 ราย 4.สหราชอาณาจักร 243,695 ราย เสียชีวิต 34,636 ราย 5.บราซิล 241,080 ราย เสียชีวิต 16,118 ราย 6.อิตาลี 225,434 ราย เสียชีวิต 31,908 ราย 7.ฝรั่งเศส 179,569 ราย เสียชีวิต 28,108 ราย 8.เยอรมนี 176,651 ราย เสียชีวิต 8,049 ราย 9.ตุรกี 149,435 ราย เสียชีวิต 4,140 รายและ 10.อิหร่าน 120,198 ราย เสียชีวิต 6,988 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ในกลุ่มประเทศอาเซียน+เอเชีย จำนวน 15 ประเทศ เรียงลำดับตามจำนวนยอดผู้ป่วยสะสม ได้แก่

1.ประเทศอินเดีย ผู้ป่วยสะสม 95,698 ราย เสียชีวิต 3,025 ราย 2.ประเทศปากีสถาน ผู้ป่วยสะสม 40,151 ราย เสียชีวิต 873 ราย 3.ประเทศสิงคโปร์ ผู้ป่วยสะสม 28,038 ราย เสียชีวิต 22 ราย 4.ประเทศบังกลาเทศ ผู้ป่วยสะสม 22,268 ราย เสียชีวิต 328 ราย 5.ประเทศอินโดนิเซีย ผู้ป่วยสะสม 17,514 ราย เสียชีวิต 1,148 ราย 6.ประเทศญี่ปุ่น ผู้ป่วยสะสม 16,285 ราย เสียชีวิต 744 ราย 7.ประเทศฟิลิปปินส์ ผู้ป่วยสะสม 12,513 ราย เสียชีวิต 824 ราย 8.ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ป่วยสะสม 11,065 ราย เสียชีวิต 263 ราย 9.ประเทศมาเลเซีย ผู้ป่วยสะสม 6,894 ราย เสียชีวิต 113 ราย 10.ประเทศไทย ผู้ป่วยสะสม 3,031 เสียชีวิต 56 ราย 11.ประเทศเวียดนาม ผู้ป่วยสะสม 320 ราย เสียชีวิต 0 ราย 12.ประเทศเมียนมาร์ ผู้ป่วยสะสม 184 ราย เสียชีวิต 6 ราย 13.ประเทศบรูไน ผู้ป่วยสะสม 141 ราย เสียชีวิต 1 ราย 14.ประเทศกัมพูชา ผู้ป่วยสะสม 122 ราย เสียชีวิต 0 ราย และ 15.สาธารณรัฐประชาชนลาว ผู้ป่วยสะสม 19 ราย เสียชีวิต 0 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีอิตาลี เตือนว่าการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง อาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลี ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า การผ่อนปรนมาตรการปิดเมืองและกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง อาจเสี่ยงต่อการผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่สอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องยอมรับหากเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการปิดเมืองอีกครั้ง หากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ทั้งนี้ อิตาลี เตรียมอนุญาตให้ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถานเสริมความงาม และพิพิธภัณฑ์ เปิดทำการในวันพรุ่งนี้ ส่วนสถานที่ออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำ จะอนุญาตเป็นลำดับถัดไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า อินเดียขยาย เวลาล็อกดาวน์ถึง 31 พฤษภาคม โดยประเทศอินเดียขยายเวลาล็อกดาวน์ถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ จากเดิมที่เริ่มมีการล็อกดาวน์ตั้งแต่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 90,000 ราย โดยกระทรวงมหาดไทย ยังคงสั่งปิดโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่สาธารณะ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีบางจังหวัดที่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยน้อยลง ได้มีมาตรการผ่อนปรนไปแล้ว

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนประเทศเกาหลีใต้ คุมเข้ม หวั่นหย่อนยานวินัย โดยนายจองอึนคยอง ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคของเกาหลีใต้ กล่าวว่า “การหย่อนวินัย” เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโควิด-19 ของเกาหลีใต้ กรุงโซล และเมืองอินชอน บังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกคนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะ เมืองแทกู ให้ใส่หน้ากากอนามัยในทุกที่นอกบ้าน ถ้าไม่ใส่หน้ากาก ปรับสูงสุดห้าหมื่นบาท นอกจากนั้น หลายจังหวัดในเกาหลีใต้ยังมีมาตรการอื่นๆเช่น ห้ามสัมผัสตัวกัน และการบังคับตรวจโรคผู้ที่ไปในสถานที่ต้องสงสัย หากฝ่าฝืนปรับสูงสุด 2 ล้านวอน หรือ 5 หมื่นบาท ในกรุงโซล ยังคงปิดสถานบันเทิงทุกแห่ง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดจากการไปเที่ยวผับ ย่านอิแทวอน โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อจากเคสนี้ รวม 168 รายแล้ว