พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ชายแดนใต้ปฏิบัติภารกิจความมั่นคง

วันที่ 20 มกราคม ที่เทศบาลเมืองปัตตานี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเข้ารับฟังสรุปผลการปฏิบัติการดำเนินงานด้านความมั่นคงที่สำคัญในพื้นที่และเยี่ยมชมศูนย์ควบคุม CCTV กล้องวงจรปิด ศูนย์พิทักษ์ปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี เป็นศูนย์บัญชาการสั่งการหลัก ในการติดตามความเคลื่อนไหว ควบคุม เฝ้าระวังในภาวะที่เกิดเหตุต่างๆในเขตเมืองปัตตานี ที่วางกระจายอยู่ทุกซอกทุกมุมในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีจำนวน 444 ตัว ด้วยงบประมาณท้องถิ่น 30 ล้านบาท ถือได้ว่าที่ผ่านมา สามารถจับภาพเหตุการณ์ผู้ต้องสงสัย คดีอาชญากรรมและคดีความมั่นคงได้หลายคดี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ สามารถป้องกันและรู้ตัวผู้ก่อเหตุ นำไปสู่การออกหมายจับและติดตามจับกุมคนร้ายได้หลายคดี

รวมทั้งเป็นศูนย์รวมข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบและติดตามการก่อเหตุ เป็นศูนย์เครือข่ายการสื่อสารการใช้วิทยุสื่อสารทั้งภาคประชาชน (เครื่องแดง) และภาคราชการ (เครื่องดำ) ในการประสานงานและรายงานสถานการณ์ต่างๆ ศูนย์ควบคุมสั่งการซ้อมแผนเผชิญเหตุรักษาความปลอดภัยในชุมชนเมืองปัตตานีทุกตำบล
คลอดจนคดีอาญา และอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งสามารถบันทึกภาพความเคลื่อนไหว พฤติกรรมของผู้กระทำผิดกฎหมาย ทำให้ทหาร ตำรวจ สามารถใช้เป็นหลักฐานใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนสอบสวน และติดตามขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้

ทั้งนี้หากเป็นสถานการณ์ปกติจะมีการบูรณาการกำลังจากฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และตำรวจ จะมีการจัดเวรสับเปลี่ยนหมุนเวียนคอยเฝ้าระวัง ติดตามความเคลื่อนไหวสิ่งผิดปกติจากจอโทรทัศน์ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห./ หน.คณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้แยกไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) / ฉก.ปัตตานี โดยกล่าวขอบคุณและให้กำลังใจการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ในนาม ของนรม.และ พล.อ.ประวิตร’ รองนรม. พร้อมกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับงานข่าว และให้ดำรงความต่อเนื่องงานเชิงรุกและเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแทรกซ้อน โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด รวมทั้งเน้นงานพัฒนาเพื่อความมั่นคงควบคู่กันไปกับการเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง พร้อมกับย้ำ การปฏิบัติหน้าที่ต้องรอบคอบ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ระมัดระวังและตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มที่ไม่หวังดี รวมทั้งต้องยึดหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด

ต่อจากนั้น ได้เดินทางไปศาลากลาง จว.ปัตตานี และร่วมรับฟังผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลจากหัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจในพื้นที่ โดยสรุปภาพรวม การทำงานของเจ้าหน้าที่สามารถดูแลความปลอดภัยประชาชนได้อย่างทั่วถึงและคดีความมั่นคงในพื้นที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังไม่มีการประกาศสถานการณ์ภัยแล้งและมีการเฝ้าระวังเป็นพื้นที่ สถานการณ์ยาเสพติด ยังมีการแพร่ระบาดเป็นรายหมู่บ้าน ตำบล

พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจในนาม นรม.ถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา พร้อมย้ำสั่งการขอให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน น้อมนำศาสตร์พระราชาและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่การปฏิบัติในการร่วมดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนในพื้นที่อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน รับฟังกันและกันแม้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ร่วมแก้ปัญหาในลักษณะของการมีส่วนร่วมกันด้วยเหตุด้วยผล สำหรับการแก้ปัญหายาเสพติด ขอให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาให้ครบวงจร ควบคุมและลดระดับความรุนแรงให้ได้ โดยเฉพาะการสกัดกั้นและการปราบปราม ซึ่งต้องทำควบคู่กับการบำบัดรักษา เพื่อดึงลูกหลานออกจากยาเสพติดไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ

พร้อมทั้งให้สนับสนุนและร่วมมือกับภาคเอกชน วิเคราะห์ศักยภาพของพื้นที่ และวางแผนการพัฒนา เพื่อเพิ่มมูลค่าด้านเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการพัฒนาระบบขนส่ง และมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ เพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ให้ สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีไปด้วยกัน และย้ำขอให้เร่งแก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน ด้วยการบริหารจัดการน้ำทั้งบนผิวดินและใต้ดินอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งน้ำอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะในพื้นที่เฝ้าระวังให้สามารถบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทั่วถึง

ด้าน พล.ต.ต.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้รายงานสรุปสถานการณ์เกี่ยวกับคดีความมั่นคงที่สามารถดำเนินการกับผู้ก่อเหตุรวมไปถึงการออกหมายจับและการจับกุมดำเนินคดี โดยที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความมั่นคงหลายคดี และผู้ต้องหาหลายคนถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนการปฏิบัติทั้งการปิดล้อมตรวจค้นและการกดดันกลุ่มที่พยายามจะก่อเหตุในหลายพื้นที่นั้นสามารถจำกัดพื้นที่ปิดช่องว่างทำให้พื้นที่ทั้ง 12 อำเภอลดจำนวนการก่อเหตุที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์

ขณะที่การดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือนั้น ทางหน่วยความมั่นคงทั้ง 3 ฝ่ายยังคงดำเนินการตามยุทธวิธีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่และได้มห้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสรวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรมกับทางรัฐอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่า ประชาชนในพื้นที่มีความอุ่นใจที่จะดำเนินชีวิตประจำวัน

จากนั้นเวลา 10.30 น.รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีเดินทางต่อเข้าไปยังศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และรับฟังข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีกล่าวต้อนรับและบรรยายสรุปผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ ทุกภาคส่วนเข้าร่วม

ช่วงบ่ายเวลา 13.30 น.รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีเดินทางเข้าเยี่ยมชมโครงงานแปรรูปอาหารทะเล (บริษัท ชัยเจริญมารีนฯ) และเดินทางไปยัง ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (pipo) ท่าเทียบเรือปัตตานี เพื่อเยี่ยมชมและรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (pipo) จ.ปัตตานี และได้พบปะ พี่น้องชาวประมงพาณิชย์จังหวัดปัตตานี ตัวแทนท่าเทียบเรือปัตตานีผู้ประกอบการประมงและชาวประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อทำความเข้าใจ เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ระเบียบ การแจ้งเข้า-ออกเรือประมงพาณิชย์ การปฏิบัติ เพื่อให้เกิด ความเข้าใจอย่างถูกต้อง พร้อมประชาสัมพันธ์โครงการขยะคืนฝั่ง ทะเลสวยด้วยมือเรา และคืนชีวิตสู่ทะเล ปล่อยปูไข่นอกกระดองสู่ธรรมชาติอีกด้วย