จรัญ พงษ์จีน : เรื่องเล่าจากคนใกล้ชิด ชีวิต-งาน ของ “ลุงป้อม” ก่อนศึกซักฟอกมาเยือน

จรัญ พงษ์จีน

แรกๆ ทำท่าจะหลุดจากเกมซักฟอก แต่ไปๆ มาๆ คนในพรรคเพื่อไทยหันมาจิ้มชื่อ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อีกคน นอกเหนือจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

ถ้าฝ่ายค้านลงมติบวกชื่อ “ลุงป้อม” เข้าไปในญัตติไม่ไว้วางใจครั้งนี้ด้วย ก็จะมี ลุงตู่ บิ๊กป๊อก อาจารย์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ อาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ดูแลกระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงศึกษาฯ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม

“ลุงป้อม” เจ้าของฉายา “พี่ใหญ่สายเอ็นฯ” ที่สื่อประจำทำเนียบฯ ตั้งให้ ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยเมื่อถูกถามถึงเป้าไม่ไว้วางใจเรื่องจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์

“พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง โดยเฉพาะจัดซื้ออาวุธของกองทัพที่ผ่านมา ใช้รูปแบบจีทูจี ระหว่างรัฐกับรัฐ โปร่งใส ไม่มีลับลมคมใน”

หรือนี่อาจจะเป็นเพราะ “ลุงป้อม” ผ่านประสบการณ์อันหลากหลายทั้งศึกสงคราม เกมการเมือง จนอายุขัยใกล้ครบ 75 ปีในเดือนสิงหาคมนี้ จึงไม่ยี่หระกับศึกซักฟอกที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นในสัปดาห์หน้า

ความจริงอายุปูนนี้ มีผู้คนจำนวนมากผลักพ้นจากหน้าที่การงานกลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ไม่มาแบกรับภาระเครียดๆ ให้เสียสุขภาพ

แต่สำหรับ “ลุงป้อม” กลับอยู่เฉยไม่เป็น

ว่ากันว่า ลุงตื่นตั้งแต่ตี 5 ขึ้นรถจากบ้านพัก มาเตรียมงานที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ระหว่างนั้นมีแขกและเจ้าหน้าที่มากหน้าหลายตามาพูดคุยทักทายไม่ขาดสาย

 

ในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ลุงป้อมได้รับมอบหมายให้ดู 4 กระทรวง

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม “ลุงป้อม” ไฟเขียวให้ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” รมว.ดีอีเอส จับมือ กสทช.เดินหน้าลุยปั้นเทคโนโลยี 5 จี หมายมั่นจะดันเศรษฐกิจไทยให้ฟื้น

วันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ถ้าการประมูลคลื่น 5 จีสำเร็จตามเป้า คาดว่ารัฐบาลจะได้เงินเหนาะๆ ไม่ต่ำกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท

เงินอีกส่วนเอกชนที่ชนะการประมูลจะขนมาลงทุนซื้ออุปกรณ์ทำโครงสร้างรองรับ 5 จี ประเมินอย่างน้อยๆ 1 แสนล้าน ไม่รวมการสร้างงานอีกบานตะไท เมื่อประเทศไทยใช้คลื่น 5 จีในเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อย ในปีแรกจะมีเงินหมุนไปหมุนมาในระบบเศรษฐกิจราว 1.7 แสนล้าน

เท่ากับ “กสทช.” หนุนช่วยรัฐบาลให้ปลุกฟื้นเศรษฐกิจปีนี้โตขึ้นอีก 1.02%

พอปีนี้ ผลพวงของ 5 จี พุ่งคูณทวีคาดว่าจะสร้างแรงผลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจโตอีกราว 332,000 กว่าล้าน และเมื่อถึงปี 2565 เพิ่มแรงดันอีก 476,000 ล้านบาท

เศรษฐกิจไทยที่ใครเดาสุ่มกันว่าจะเผาจริง อาจไม่ใช่

ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ลุงป้อม” ดันหลังรัฐมนตรี “ท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน รัฐบาล “ลุงตู่” ชูให้เป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว

วันนี้ฝุ่นพิษกลับมาเป็นปัญหากวนใจรัฐบาลอีกรอบ “ลุงป้อม” กระทุ้งให้รัฐมนตรี ทส.จัดการให้อยู่หมัด อาจถึงขั้นใช้มาตรการกฎหมายคุมรถยนต์วิ่งบนถนนให้น้อยลง หรือวิ่งเฉพาะวันคี่-วันคู่

เรื่องฝุ่นพิษ ใครไปถาม “ลุงป้อม” อธิบายได้ละเอียดถึงขั้นบอกตัวเลขได้ว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของฝุ่นพิษ มาจากรถยนต์ปล่อยควันดำและการจราจรที่ติดขัด

ยังมีเรื่อง “ภัยแล้ง” ที่ลุงป้อมนั่งหัวโต๊ะ คุมแผนปฏิบัติการมานานกว่า 2 เดือนแล้ว

ใครไปถามว่า ต้องใช้งบฯ เท่าไหร่ เตรียมน้ำสำรองรับมือหน้าแล้งจนถึงเดือนอะไร “ลุงป้อม” ตอบได้ครบถ้วนทุกประเด็น

แถมยังบอกกับคนใกล้ชิดอีกว่า จะใช้น้ำอย่างประหยัด ไม่ให้เด็กในบ้านล้างรถยนต์บ่อยๆ อีกแล้ว

มาตรการประหยัดน้ำ จะงัดออกมาใช้ควบคุมทั้งในเมืองและเขตนอกเมือง เพราะทุกคนเผชิญชะตากรรมเดียวกัน

 

สําหรับอีกเรื่องคือ การแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมหรือไอยูยู ที่ลุงป้อมทำมากับมือตั้งแต่ยุค “คสช.” จนกระทั่งสหภาพยุโรปยอมปลดธงเหลือง ช่วยให้ไทยรอดจากการคว่ำบาตรสินค้าประมงที่มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทอย่างฉิวเฉียดนั้น

มาถึงรัฐบาล “ลุงตู่ 2” เหตุการณ์พลิกผันให้ “ลุงป้อม” กลับมาทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาการประมงอย่างเบ็ดเสร็จอีกครั้ง

เดิมที ประธานคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ อยู่ในโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์ แต่จู่ๆ นายกฯ ลุงตู่เปลี่ยนคำสั่งให้ “ลุงป้อม” มาลุยแทน

คำสั่งนี้เหมือนงานงอกที่หนักหนาสาหัส เพราะต้องกลับไปดูกองเรือประมงทั่วน่านน้ำไทยซึ่งเป็นเหมือนจับปูใส่กระด้ง

แต่ “ลุงป้อม” นั่งทำงานให้บ้านเมือง ไม่เคยปริปากบ่นให้ใครฟัง

คนใกล้ชิด “ลุงป้อม” เล่าเรื่องทั้งหลายนี้เพราะต้องการจะฝากบอกไปถึงกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่า ลุงแก่หงำเหงือก หมดน้ำยาแล้ว