แฟ้มข่าว

สศช.หั่นจีดีพี “62 แค่ 2.6% ต่ำสุดรอบ 5 ปี

วันที่ 19 สิงหาคม 2562 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 2562 ขยายตัว 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ขยายตัวดีขึ้น 0.1% จากไตรมาส 2 ปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 2.3% รวม 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) ปี 2562 เศรษฐกิจไทยโตที่ 2.5% โดย สศช.ได้ปรับประมาณการจีดีพีของทั้งปี 2562 ใหม่ คาดโตที่ 2.6% จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ 3% ถือเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ขยายตัวได้ 1% ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องปรับลดประมาณการคือ ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า (เทรดวอร์) ระหว่างสหรัฐและจีนกดภาคการส่งออก ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้ากว่าปกติ รวมถึงสถานการณ์ระยะสั้นที่เข้ามา อาทิ การที่รถยนต์เปลี่ยนรุ่นใหม่ในช่วงปลายปี โรงกลั่นบางแห่งหยุดซ่อม และปรับมาตรฐานน้ำมันใหม่ สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 คาดว่าจะโตที่ 2.7-3.7% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการขยายตัวในเกณฑ์ที่น่าพอใจของอุปสงค์ในประเทศ การปรับตัวดีขึ้นช้าๆ ของการส่งออก การดำเนินมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ การปรับตัวดีขึ้นของภาคการท่องเที่ยว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องพิจารณาคือเรื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกยังอยู่ในเกณฑ์สูงและมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้งร่วมด้วย

ลงทะเบียนชิมช้อปใช้รอบสูงวัยไม่คึกคัก

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การลงทะเบียนเฟส 3 รอบปกติ 1.5 ล้านคนเต็มตามโควต้าแล้ว โดยการลงทะเบียนที่กำลังดำเนินการขณะนี้เป็นการลงทะเบียนรอบผู้สูงอายุซึ่งจัดให้เป็นพิเศษไม่เกิน 500,000 คน ปรากฏว่ายอดลงทะเบียนวันแรก (17 พ.ย. 2562) มีผู้สูงอายุจำนวน 90,175 คน วันที่สอง จำนวน 28,773 คน วันที่สามจนถึงเวลา 15.00 น. อยู่ที่ 15,266 คน ไม่นับรวมผู้สูงอายุที่ไปลงทะเบียนล่วงหน้าในกลุ่ม 1.5 ล้านคนอีก 145,000 คน รวมแล้วประมาณ 280,000 คน “ถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นไปตามคาดหมาย ซึ่งไม่ได้เงียบเหงา หรืออ้างว้างอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กัน

สำหรับการลงทะเบียน ชิม ช้อป ใช้ รอบผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเปิดให้ลงทะเบียนวันละ 2 รอบ รอบแรกในเวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และรอบสองในเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยนับเวลา 15.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน ยังเหลือสิทธิ์ให้ลงทะเบียนได้จำนวน 365,786 คน

“ธรรมนัส” เด้ง “กมลวิศว์” พ้น ผอ.อ.ต.ก.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้อนุมัติให้นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ลาออกจากตำแหน่ง โดย อ.ต.ก.ได้จ่ายเงินชดเชยให้จำนวนหนึ่งตามระยะเวลาการทำงานที่เหลืออีก 5 เดือน ส่วนการลาออกครั้งนี้เป็นเหตุผลส่วนตัวของนายกมลวิศว์ ทั้งนี้ จะดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่ตามกระบวนการสรรหาโดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้กระบวนการทำงานตามนโยบายของ อ.ต.ก.ต้องหยุดชะงัก โดยวางเป้าหมายให้เป็นหน่วยงานกลาง เป็นกลไกเพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกร เป็นหน่วยงานกำหนดทิศทางราคาสินค้าผลผลิตด้านการเกษตร สามารถนำสินค้าของเกษตรกรส่งออกได้ โดยจะส่งเสริมให้เปิดตลาด อ.ต.ก.ให้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ภายใต้เป้าหมายเป็นตลาดที่มีมูลค่าการค้าขายมากกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 2564

มีรายงานข่าวระบุว่า ร.อ.ธรรมนัสได้ประเมินผลการทำงานของนายกมลวิศว์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่างานยังล่าช้า ไม่ตอบสนองนโยบาย จึงเรียกมาสอบถามว่าพร้อมจะทำงานให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งนายกมลวิศว์ไม่รับปาก จากนั้นได้ยื่นใบลาออกดังกล่าว

เมเจอร์ฯ หนุนธุรกิจหนังไทยปั้น Tollywood

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2563 เมเจอร์จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 ได้วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้นโยบาย เมเจอร์ 5.0 มุ่งนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ล่าสุดได้นำเทคโนโลยีระบบ GIANT LASER SCREEN หรือ GLS จากแบรนด์ระดับโลก “Christie” เปิดให้บริการในโรงภาพยนตร์ 6 สาขาในปีหน้า ที่เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย, เมกา ซีนีเพล็กซ์, พรอมานาด ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ ซีนีมา บางแค, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต และโคราช ซีนีเพล็กซ์ ที่ผู้ชมจะได้รับชมภาพแบบ Laser Projector ภาพคมชัด 4K หรือ 8 ล้านพิกเซล บนจอขนาดใหญ่สูงเทียบเท่าตึก 3 ชั้น ติดตั้งแบบเต็มพื้นที่ด้านหน้าของโรงภาพยนตร์แบบผนังสุดผนัง พื้นสุดเพดาน ระบบเสียงรอบทิศทาง 3 มิติ จากด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และด้านบนเพดาน ด้วยลำโพง JBL series 9000 รุ่นล่าสุด ให้ความรู้สึกเสมือนเหตุการณ์อยู่ตรงหน้า นอกจากนี้ มีเป้าหมายจะยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเทียบเท่า Hollywood และ Bollywood ของอินเดีย ให้ทั่วโลกรู้จัก Tollywood (Thailand+Hollywood) ส่งขายไปตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเป้าหมายหลัก คือ จีน และอาเซียน และยังมีบริการจัดฉายบนสายการบิน อาทิ การบินไทย, ฮ่องกง แอร์ไลน์, โอมาน แอร์ไลน์, เอมิเรตส์ แอร์ไลน์, แอร์ ไชน่า และออล นิปปิน แอร์เวย์ส

รวมถึงมีบริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Netflix ด้วย